หลายคนส่วนใหญ่แล้วคงจะซื้อรถยนต์เป็นของตัวเอง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ารถยนต์เป็นพาหนะที่สำคัญที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายเมื่อต้องเดินทาง ไม่ว่าจะไปทำงาน, กลับต่างจังหวัดในช่วงที่วันหยุดยาว,ไปเที่ยว,รับ-ส่งลูกๆไปโรงเรียน หลายคนซื้อไว้ใช้ในการขนของหรือประกอบอาชีพต่างๆ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อจากที่หนึ่งไปถึงจุดหมายปลายทางได้ คำนำ ปัจจุบันนี้การที่จะหารถยนต์ใหม่สักคันก็คงเรื่องยาก เนื่องจากหลายคนไม่มีเงินสดเพียงพอในซื้อรถยนต์เป็นของตัวเองซึ่งราคาก็ไม่ใช่ถูกๆอีกด้วย ดังนั้นหลายคนจึงสนใจและนิยมในการขอสินเชื่อรถยนต์ที่มีให้เลือกมากมาย และเป็นทางออกที่ดีที่จะช่วยให้มีรถเป็นของตัวเองได้ การจะมีรถยนต์ใหม่สักคันจึงไม่ใช่เรื่องอยากเท่าไหร่ เพราะมีหลายบริษัทที่พร้อมจะเสนอสินเชื่อมาให้เราพิจารณา ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า สินเชื่อรถยนต์คืออะไร และสิ่งที่เราควรรู้ก่อนจะเดินไปขอสินเชื่อรถใหม่กันนะคะ
LUMPANG MOONMUANG/shutterstock.com
สินเชื่อรถยนต์ มี 2 แบบ คือ
สินเชื่อรถยนต์แบบเช่าซื้อ
หมายถึง การทำสัญญาซื้อ-ขาย ระหว่างผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อกับบริษัทจำหน่ายรถยนต์ ซึ่งผ่านตัวกลางคือ สถาบันการเงินหรือธนาคารต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์ในการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อ เพื่อนำไปใช้ในการช่วยซื้อรถยนต์จากบริษัทจำหน่ายรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่ป้ายแดง หรือรถยนต์มือสองจากเต็นท์รถยนต์ ซึ่งผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อจะต้องชำระเงินดาวน์ให้กับทางบริษัทก่อน ส่วนเงินค่างวดรถ เงินค่างวดรถส่วนที่เหลือจะนำไปเข้าไฟแนนซ์ ผ่อนเป็นงวดๆให้กับสถาบันการเงินหรือธนาคารที่ให้สินเชื่อ ผู้กู้จะได้ใช้รถยนต์ และครอบครองรถ แต่กรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของรถยนต์นั้นจะเป็นของสถาบันการเงินหรือธนาคารจ่ายเงินค่ารถยนต์ให้บริษัทจำหน่ายรถยนต์เต็มจำนวน เมื่อผู้กู้จะผ่อนชำระค่างวดครบตามสัญญาหมดแล้ว ผู้กู้ก็จะได้เป็นเจ้าของรถทันทีเมื่อมีการโอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สินเชื่อรีไฟแนนซ์
หมายถึง การที่ผู้เช่าซื้อรถยนต์นำรถยนต์ที่กำลังผ่อนค่างวดอยู่ไปกู้เงินก้อนใหม่ เพื่อนำไปใช้หนี้ก้อนเก่าซึ่งอาจจะได้ประโยชน์ที่ดีกว่า อย่างเช่น ยอดผ่อนชำระแต่ละเดือนถูกลง, ระยะเวลาในการผ่อนชำระยาวนานขึ้น, อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าเดิม หรือมีเงินก้อนหนึ่งไว้หมุนเวียนเพื่อประกอบธุรกิจ เป็นต้น แต่ก่อนที่จะปิดบัญชีเพื่อนำรถยนต์ไปรีไฟแนนซ์ใหม่นั้นผู้เช่าซื้อต้อคำนึงถึงส่วนต่างจากดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นในการรีไฟแนนซ์รถยนต์ใหม่นั้นคุ้มค่าหรือไม่ เนื่องจากเมื่อสถาบันการเงินหรือธนาคารได้พิจารณาอนุมัติให้จัดสินเชื่อใหม่แล้วก็ต้องเริ่มผ่อนชำระใหม่ โดยจะเริ่มนับเวลาใหม่เป็นการผ่อนชำระเดือนที่ 1 ไปจนครบกำหนดชำระงวดสุดท้าย
ยอดวงเงินกู้ที่จะได้รับ
วงเงินกู้แต่ละบริษัทหรือธนาคารก็มักจะแตกต่างกันออกไป แล้วแต่ช่วงเวลาในการจัดโปรโมชั่นหรือประเภทรถยนต์บ้าง แต่โดยเฉลี่ยวงเงินสินเชื่อรถยนต์ก็จะอยู่ประมาณ 75%-100% ของราคาประเมินรถยนต์ ส่วนที่เหลือผู้ซื้อจะต้องวางเงินดาวน์ให้กับบริษัทหรือธนาคารนั้นๆ
อัตราดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ยจะเป็นแบบคงที่ตลอดอายุสัญญาจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากสัญญาที่ทำไว้ในครั้งแรก ซึ่งดอกเบี้ยจะถูกคิดจากราคารถยนต์หักด้วยเงินดาวน์ ส่วนที่เหลือจะเป็นเงินต้นทั้งก้อนแบบเต็มจำนวนที่จะนำมาคิดดอกเบี้ย จากนั้นเงินต้นรวมดอกเบี้ยจะถูกนำมาเฉลี่ยจ่ายจำนวนที่เท่าๆกันในแต่ละงวด แต่โดยปกติแล้วอัตราดอกเบี้ยจะแต่จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การตลาด, สภาวะการแข่งขันของแต่ละบริษัทหรือธนาคาร บางสถาบันก็ให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.99%ต่อปีในช่วง 2 ปีแรก แต่โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 2.5%ต่อปี แต่ไม่เกิน 18%ต่อปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆดังกล่าว
ระยะเวลาในการผ่อน
ระยะเวลาในการผ่อนชำระก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทหรือธนาคาร แต่โดยส่วนใหญ่แล้วระยะเวลาในการผ่อนชำระจะอยู่ที่ 12 เดือน แต่ไม่เกิน 84 เดือน หรือ 1 ปี แต่ไม่เกิน 7 ปี เป็นต้น
เอกสารที่ต้องยื่นสมัครเบื้องต้น
เอกสารที่ใช้สมัครก็ไม่ยุ่งยาก ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทหรือธนาคารนั้นต้องการเอกสารอะไรบ้าง ซึ่งเราต้องสอบถามอย่างละเอียดเพื่อความสะดวกในการยื่นสมัคร แต่หลักๆแล้วมี 3 กรณีด้วยกัน ดังนี้
บุคคลทั่วไป
เอกสารที่ควรเตรียม คือ สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาบัตรข้าราชการหรือสำเนาบัตรรัฐวิสาหกิจ, สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือนฉบับล่าสุด, สำเนาบัญชีเงินฝากออมทรัพย์/ประจำ/กระแสรายวันย้อนหลัง 6 เดือน, แผนที่ที่ตั้งที่อยู่อาศัย และที่ทำงาน
เจ้าของกิจการ/นิติบุคคล
เอกสารที่ใช้ คือ สำเนาทะเบียนบ้าน และสำบัตรประชาชน (ของผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 25% ขึ้นไป), สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประชาชน (ของผู้ค้ำประกัน), สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน, สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (อบจ.5), ทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภพ.20), สำเนาทะเบียนการค้า, สำเนาหนังสือรับรองจดทะเบียนนิติบุคคล (ไม่เกิน 3 เดือน)
ชาวต่างชาติ
เอกสารที่ใช้ในการสมัคร คือ สำเนาหนังสือเดินทาง (PASSPORT), สำเนา WORK PERMIT (ต้องมี), หนังสือรับรองเงินเดือนหรือสลิปเงินเดือน (เดือนล่าสุด), สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน
หลายคนที่อยากมีรถยนต์เอาไว้ใช้ในการเดินทางอย่างสะดวกสบายแล้ว หวังว่าข้อมูลข้างต้นจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังตัดสินใจไปขอสินเชื่อรถยนต์ แต่สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับว่าท่านสนใจสถาบันการเงินหรือธนาคารใดที่ให้ประโยชน์สูงสุดกับท่าน นอกจากนี้ท่านยังต้องพิจารณาว่ามีค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ต้องชำระด้วยเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็น ค่าบริการต่อภาษีรถยนต์, ค่าธรรมเนียมทวงถาม, ค่าปรับกรณีชำระเงินค่างวดล่าช้า, ค่าโอนทะเบียนรถยนต์ ซึ่งต่างจังหวัดจะแพงกว่ากรุงเทพ, ค่าอาการแสตมป์ 0.5% ของยอดจัด หรือราคาประเมิน, ค่าเบี้ยประกันภัย และทางบริษัทสินเชื่อจะคิดภาษีมูลค่าเพิ่มรวมเข้าไปด้วย 7% สำหรับรถใหม่ ดังนั้นก่อนการตัดสินใจขอสินเชื่อรถยนต์ผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อควรตรว
ขจี
เหมือนเคยได้ยินสินเชื่อเช่าซื้อรถของธนาคารนึงดอกเบี้ยโหดมาก (ประมาณว่าดอกเเพงกว่าซื้อรถ) ชำระไปแล้วก็หาว่ายังไม่ชำระ เอะอะก็จะมายึดรถ น่ากลัวนะครับแบบนี้ มันทำให้ผมนี่ไม่อยากที่จะคิดซื้อรถเลย สยอง... ก็คงต้องสอบถามคนที่มีประสปการณ์ในเรื่องนี้จริงๆเพราะว่าถ้าหาข้อมูลเอง อาจจะรู้ข้อเท็จจริงไม่ได้ทั้งหมด
ภาคภูมิ
ดอกเบี้ยเช่าซื้อรถของธนาคารไหนครับเนี่ยดอกเบี้ยโหดขนาดนั้นเลยเหรอ การขอสินเชื่อไม่ว่าจะบ้านหรือรถ ดอกเบี้ยนี่ละสำคัญ จ่ายไหวไม่ไหวก็ตรงนี้แหละ ถึงได้ต้องเปรียบเทียบการให้สินเชื่อของหลายๆธนาคาร ดูแค่ธนาคารเดียวมันไม่พอหรอกครับ ผมเองยังไม่คิดจะขอสินเชื่ออะไรสักอย่างในตอนนี้เพราะยังอยู่ในภาวะเสี่ยง(ที่จะไม่มีจ่ายคืน)อยู่ครับ
วายุ
ถ้าเราอยากมีรถใหม่ หรือรถใช้ระหว่างการเดินทางไปทำงาน ใครๆก็นึกถึงการใช้สินเชื่อรถกันแล้วนะคะ เพราะว่าจะช่วยเราสามารถผ่อนชำระและใช้งานรถได้ก่อนไม่จำเป็นต้องจ่ายเต็มราคา บทความนี้ทำให้เห็นวิธีการเลือกสินเชื่อรถที่สามารถตรงต่อรายรับของเรา ซึ่งช่วยให้เราเห็นว่าจะเลือกแบบไหนดี พื้นที่จะช่วยให้เราสามารถผ่อนชำระได้เร็วขึ้น
ฐิติ
ไม่ว่าจะขอสินเชื่ออะไรก็แล้วแต่ต้องดูเรื่องดอกเบี้ยให้ดีครับ มันจะทำให้เราแบกภาระหนักจนเกินไปมั้ย เราจะหาเงินไหวหรือเปล่า เอาจริงๆนะ ผมว่าก่อนจะไปขอสินเชื่อคิดดูให้ดีก่อนว่ามันจำเป็นจริงๆหรือไม่ หากหาวิธีอื่นได้ก็ลองไปทำวิธีนั้นดูก่อนอย่างเช่น หารายได้เพิ่มครับ ถ้ามันไม่มีทางอื่นแล้วก็หาที่ที่คิดดอกเบี้ยแบบที่เราจ่ายไหวน่ะครับ
พระยาแหว่ง
ที่ผมทราบมา คือเรา ต้องขอ สินเชื่อรถยนต์แบบเช่าซื้อ ก่อนใช่ไหมครับ คือเราต้องส่งค่างวดรถยนต์ของเราไปแล้วสัก สองปีใช่ไหมครับ แล้วเราก็สามารถไปขอรีไฟแนนซ์ได้ ผมเข้าใจถูกใช่ไหมครับ แล้วถ้าสมมุติว่าตอนนี้ ผมต้องการสินเชื่อรถยนต์ ผมสามารถเลือกสินเชื่อของที่ไหนดีครับ ที่ให้วงเงินเยอะๆนะครับ มีแนะนำไหมครับ
AUgust
@คุณพระยาแหว่ง ใช่แล้วค่ะ แต่เวลาที่จะรีไฟแนนซ์ ธนาคารเขาก็จะดูปัจจัยหลายอย่างไม่ใช่แค่ดูระยะเวลาผ่อนเท่านั้น เค้าจะดูเงินที่เราดาวน์รถด้วยค่ะ เช่น ถ้าผ่อนมาแล้ว 1-2 ปี ดาวน์มาน้อย ผ่อนระยะสั้น โอกาสผ่านถือว่ามีอยู่พอสมควร เพราะหมายความว่าคุณมีกำลังในการผ่อนชำระ แต่ถ้าผ่อนระยะเวลาไม่ถึง 12 เดือน ดาวน์มาน้อย ผ่อนระยะยาว โอกาสที่จะผ่านในการ รีไฟแนนซ์รถ ยากมาก ๆค่ะ
นภา
ถ้าจะขอสินเชื่อรถยนต์หรอเราคงต้องดูที่ดอกเบี้ยถูกหน่อย เพราะว่าอัตราดอกเบี้ยหลายบริษัทเลยที่แพงถ้าจะขอเรารู้สึกว่าเราไม่สำคัญกับอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย ถ้าจะผ่อนรถใหม่ป้ายแดงอาจจะผ่อน ออกมาสัก 2-3 ปีแล้วก็รีไฟแนนท์น่าจะช่วยให้ไม่ลำบากมาก ตอนนี้ก็คิดอยู่ว่าอยากจะมีรถยนต์สักคันแต่ว่าถ้าจะให้ซื้อใหม่เนี่ยคงไม่ไหวเลยว่าจะซื้อมือสองราคาดีหน่อยแล้วก็เอารีไฟแนนซ์เอา
แบม
เมื่อเราจะเลือกใช้สินเชื่อรถยนต์ เพื่อช่วยให้เรามีรถยนต์ใช้โดยที่เราไม่ต้องจ่ายเงินสด สิ่งหนึ่งที่เราต้องควรคิดถึงนะคะก็คือ ระยะเวลาการผ่อนชำระที่ทำข้อตกลงกับทางสถาบันการเงินค่ะ ว่าจะช่วยให้เราสามารถหมดหนี้เร็วมากน้อยแค่ไหน เพราะระยะเวลาดังกล่าวจะส่งผลกับเงินที่เราต้องส่งทุกเดือนด้วย ยิ่งส่งนานๆเราก็จะส่งเงินได้น้อย
นาถนรินทร์
ตอนนี้เพื่อนๆทุกคนเป็นยังไงกันบ้างคะ หลังจากช่วงสองเดือนที่ผ่านมาเพื่อนหลายคน คงได้ไปขอพักชำระหนี้ สินเชื่อรถยนต์มากันแล้วใช่ไหมคะ ตอนนี้ก็น่าจะหมดเวลาพักชำระหนี้กันแล้วใช่ไหมคะ เพื่อนๆมีแผนการกันยังไงต่อคะหลังจากนี้ เพราะว่าดูเหมือนว่าเขาออก พรก.ฉุกเฉินต่ออีก1เดือน อีกแล้ว เรื่องงานของหลายๆคนน่าจะลำบากเหมือนเดิมใช่ไหม
Yusu
@นาถนรินทร์ ก็ดีค่ะมาตรการพักชำระหนี้ แต่ที่คุณพูดถึงว่าสามารถพักหนี้แค่ 2 เดือนนี้เป็นของธนาคารเจ้าไหนคะ? เข้าธนาคารที่ดิฉันเป็นลูกหนี้อยู่ก็ยังสามารถพักชำระหนี้ไปได้เรื่อยๆ มากกว่า 2 เดือนแล้วค่ะ ใครที่มีสินเชื่อรถยนต์ก็อย่ารอจนตัวเองไม่ไหวนะคะช่วงนี้ธนาคารมีมาตรการแบบนี้อยู่ไปติดต่อกันได้ ถ้าไม่ติดต่อคุณก็จะไม่ได้รับสิทธิ์นี้นะคะ