ทุกวันนี้ธนาคารหรือสถาบันการเงินให้ความสำคัญกับลูกค้าสินเชื่อ และมองกลุ่มลูกค้าสินเชื่อเป็นศูนย์กลางมากขึ้น ดังนั้น การที่จะปล่อยสินเชื่อเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้านั้นก็ต้องพิจารณาหลายปัจจัยด้วยกัน
คำนำ ปัจจุบันสภาพการณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อ หรือปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลกระทบต่อความมั่นคงของการงานและรายได้ของผู้ขอกู้สินเชื่อโดยตรง ซึ่งก็ถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นหนี้สูญหรือหนี้เสียได้ เราจะเห็นว่าสิ่งเหล่านี้มีผลกระทบต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินเป็นอย่างมาก หากผู้ขอกู้สินเชื่อหลายๆคนรวมกันแล้วไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดก็สามารถทำให้เกิดสภาวะทางการเงินของธนาคารหรือสถาบันการเงินได้ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างมากที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินต้องตรวจสอบข้อมูลของผู้ขอสินเชื่ออย่างละเอียดรอบครอบ เพื่อไม่ให้เกิดภาวะหนี้สูญหรือหนี้เสียตามมาได้ ซึ่งเราจะพิจารณา 4 ปัจจัยด้วยกัน ดังนี้
ธนาคารดูอะไรในการอนุมัติสินเชื่อ
นการอนุมัติสินเชื่อธนาคารจำเป็นจะต้องขอเอกสารใบรับรองเงินเดือนต่างๆรวมถึงประวัติในการชำระหนี้จากเครดิตบูโร4ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะสะท้อนความสามารถในการชำระหนี้ให้ธนาคารพิจารณาได้ว่าควรจะอนุมัติสินเชื่อให้หรือไม่หรือควรให้วงเงินเท่าไหร่ สิ่งที่ธนาคารพิจารณาอะไร
วัตถุประสงค์
ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะต้องพิจารณาวัตถุประสงค์ของผู้ขอสินเชื่อ เพื่อดูว่าผู้ขอสินเชื่อนั้นจะนำไปใช้ตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่ เพราะเรามักจะพบอยู่บ่อยๆว่ามีการทำเงินกู้ที่ได้รับอนุมัติไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น การใช้ผิดวัตถุประสงค์อาจไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือผลกำไรที่จะนำมาชำระหนี้คืนให้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินได้ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญญาหนี้สูญหรือหนี้เสียในที่สุด เราจึงจำแนกออกเป็น 5 หมวดด้วยกันคือ
ขอกู้เงินเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน เป็นการขอกู้เพื่อเสริมหรือปรับสภาพคล่องของกิจการ หรือเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในดำเนินงานของกิจการ เช่น วงเงินกู้เบิกเกินบัญชี (O/D), วงเงินกู้ระยะยาว เป็นต้น
ขอกู้เงินเพื่อการลงทุนในการประกอบธุรกิจ เป็นการขอกู้เงินในการเปิดกิจการหรือประกอบธุรกิจส่วนตัว เช่น เปิดร้านขายอาหาร, เปิดร้านขายของ, ธุรกิจเครื่องสำอาง เป็นต้น
ขอกู้เงินเพื่อขยายธุรกิจ ปรับปรุงกิจการ เป็นการขอกู้เงินในการนำมาขยายธุรกิจหรือปรับปรุงกิจการเพื่อให้เกิดรายได้เพิ่มมากขึ้น เช่น การขยายสาขาหรือธุรกิจแฟรนไชส์, การปรับปรุงหรือต่อเติมอาคาร เป็นต้น
ขอกู้เงินเพื่อชาระหนี้อื่น เป็นการขอกู้เงินในการชำระหนี้ให้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินเดิมหลายๆแห่งรวมกัน ซึ่งเป็นการเพิ่มความสะดวกในการรวมชำระหนี้ให้อยู่ที่เดียวกัน และสามารถลดภาระอัตราดอกเบี้ยได้ด้วยเช่นกัน
ขอกู้เงินเพื่อใช้ลงทุนในทรัพย์สินถาวร เป็นการขอกู้ในการซื้อที่ดิน, อาคาร, ซื้อห้องชุด, ซื้อบ้านหรือสร้างบ้าน, ซื้อเครื่องจักร เป็นต้น
คุณสมบัติของผู้สมัคร
ผู้สมัครสินเชื่อต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ซึ่งสามารถสร้างรายได้ได้ด้วยตนเอง และต้องมีอายุไม่เกินกว่า 60 ปี และเมื่อรวมกับจำนวนปีที่ขอกู้แล้วผู้สมัครจะต้องมีอายุไม่เกิน 65-70 ปี แล้วแต่เงื่อนไขของธนาคารหรือสถาบันการเงิน
ผู้สมัครต้องหาผู้กู้ร่วมรายอื่น นอกเหนือจากผู้ที่เป็นคู่สมรส บิดามารดา บุตร และพี่น้อง ซึ่งจะมีผู้กู้ร่วมคนอื่นได้อีกไม่เกิน 1 คน และผู้กู้ร่วมที่ไม่ใช่คู่สมรสและบุตรจะต้องถือกรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์สินจำนองด้วย
ความสามารถในการขอผ่อนชำระสินเชื่อ
โดยปกติแล้วผู้ขอกู้สินเชื่อสามารถเลือกผ่อนชำระได้สูงสุดถึง 30 ปี ดังนั้นธนาคารหรือสถาบันการเงินต้องพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ขอกู้สินเชื่อด้วย ว่าจะสามารถชำระหนี้ได้อย่างสม่ำเสมอหรือไม่ เคยมีประวัติจ่ายชำระเงินคืนล่าช้าหรือมีประวัติหนี้เสียหรือไม่ และผู้ขอกู้สินเชื่อมีรายได้มากเพียงพอที่จะสามารถชำระหนี้ที่ขอใหม่นี้ได้อย่างสบายไหม โดยพิจารณาจากหนี้สินปัจจุบันของผู้ขอกู้สินเชื่อที่ต้องชำระอยู่ไม่ว่าจะเป็น บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนบ้าน ซึ่งภาระหนี้สินรวมกันทั้งหมดนี้ที่จ่ายเป็นยอดขั้นต่ำต่อเดือนแล้วนั้นเกินกว่า 50-60% ของรายได้ต่อเดือนที่ผู้ขอกู้สินเชื่อได้รับหรือไม่ และอัตราการผ่อนชำระสินเชื่อต่อเดือนที่ผู้สมัครกำลังขอกู้เกินกว่า 30% หรือไม่
ประเภทและมูลค่าของหลักประกัน
ธนาคารหรือสถาบันการเงินควรมีเงื่อนไขให้ผู้ขอกู้สินเชื่อมีการค้ำประกันและหลักประกัน เพื่อป้องกันความสูญเสียและหนี้สูญ เนื่องจากผู้ขอกู้อาจจะไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ได้ในอนาคต ธนาคารหรือสถาบันการเงินก็สามารถยึดหลักประกันนั้นนำไปขายทอดตลาด เพื่อชำระหนี้ค้างส่วนที่เหลืออยู่ได้ หรือให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ทั้งหมดแทน โดยหลักทรัพย์ที่ทำมาเป็นหลักประกันนั้น ได้แก่ เงินฝากธนาคาร พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วแลกเงิน สถานประกอบการ ที่พักอาศัย ที่ดินเปล่า อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งมูลค่าจะต้องสูงกว่าวงเงินกู้มากพอสมควร โดยมีมูลค่าประมาณ 70-85 % ของราคาซื้อขายหรือมูลค่าของหลักประกัน และถ้ายิ่งมูลค่าของหลักประกันมากเท่าไหร่ธนาคารหรือสถาบันการเงินก็ยิ่งมีความเสี่ยงน้อยลงมากเท่านั้น
หากธนาคารหรือสถาบันการเงินพิจารณาข้อมูลต่างๆของผู้ขอกู้สินเชื่ออย่างละเอียดรอบครอบ ก็สามารถป้องกันความสูญเสียและหนี้สูญหรือหนี้เสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเราจะเห็นว่ามูลค่าหรือวงเงินกู้แต่ละอย่างนั้นค่อนข้างสูง และระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ก็ค่อนข้างยาวนาน ดังนั้นเมื่อมีการพิจารณาตามข้อมูลข้างต้นก็จะสามารถป้องกันปัญหาต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ไพบูลย์
ขอบคุณค่ะบทความนี้ทำให้เห็นว่า ทางธนาคารที่จะอนุมัติสินเชื่อส่วนบุคคลให้กับเราเขาจำเป็นต้องคิดถึงเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งช่วยให้เราทบทวนตัวเองถามว่าจะขออนุมัติสินเชื่อส่วนบุคคลไปใช้ทำอะไร แล้วจะได้รับการอนุมัติจากเงื่อนไขที่มีการพูดถึงหรือเปล่า เพราะบางครั้งเงินที่เราจะขออนุมัติก็สูงอยู่ที่เดียว ทำให้เราไม่มั่นใจว่าจะสามารถได้รับการอนุมัติหรือเปล่าค่ะ
Rogelio
ผมอยากรู้ว่าถ้าเราอยากจะขอสินเชื่อเพื่อจะเอาไปลงทุน แล้วถ้าผมมีประวัติเครดิตบูโร “ติดเเบล็คลิสต์บูโร” ผมจะมีโอกาสในการกู้สินเชื่อผ่านไหมครับ? แต่ว่าตอนนี้ผมได้ชำระหนี้ไปหมดเเล้ว ไม่ได้มีติดค้างกับสถาบันการเงินแต่อย่างใด เพราะผมคิดว่าทางสถาบันการเงินอาจจะเกิดความไม่มั่นใจแล้วจะไม่อนุมัติสินเชื่อให้ผม... เลยอยากจะรู้ครับ
น้ำฝน
การที่เราจะขอสินเชื่อเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ยากเหมือนกันนะคะ ถึงแม้ว่าเราจะมีเงินเดือนตามที่กำหนดเอาไว้แล้วแต่ก็จำเป็นต้องมีการพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องอื่นด้วย บทความนี้ช่วยให้เราเห็นว่ามี 4 เรื่องที่ทางสถาบันการเงินจำเป็นต้องมีการพิจารณาจากตัวเรา เธอจะมีความมั่นใจในการให้สินเชื่อถือได้รับอนุมัติง่ายขึ้น เราจำเป็นต้องเตรียมตัวเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ด้วย
Premmika
@Rogelio การติดแบล็คลิสต์แบบที่ไม่สามารถไปขอสินเชื่อกับธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่นๆได้อีกไม่มีหรอกค่ะ มันเป็นแค่ประวัติการชำระหนี้เท่านั้น ซึ่งประวัตินี้จะอยู่ประมาณ 3-5 ปีนะถ้าจำไม่ผิด คุณชำระหนี้หมดไปนานหรือยังคะ? ถ้าเกินกว่าที่บอกมาไม่น่ามีปัญหานะ ยังไงลองไปคุยกับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่คุณอยากไปขอสินเชื่อดูก่อนค่ะ
รำเพย
เห็นไหม ว่าการที่เราเตรียมเอกสารต่างๆน่าๆ เพื่อไปขอ สินเชื่อหรือขอทำบัตรเครดิต ต่อให้เราเตรียมตัวไปดียังไง มันก็ใช่ว่าจะผ่านเลยทันที เขาต้องมีหลักในการอนุมัติ แล้วเจ้าหน้าที่แต่ละคน ก็ไม่ได้มีความเห็นที่ตรงกันทุกเคลสแน่ มันต้องมีบ้างแหละที่เขาไม่ให้ผ่านถึงแม้เราจะไม่มีประวัติเสียอะไรทั้งนั้น มันอยู่ที่เจ้าหน้าที่ล้วนๆเลย
เป็ดน้อย
ปกติเราจะหาข้อมูลเฉพาะเงื่อนไขของธนาคารนะครับ มาเรื่องนี้ก็ได้ความรู้ใหม่ๆ ว่าการขอสินเชื่อนั้นบางที่เราก็ไม่ได้ขอจากธนาคารเสมอไปยังมีสถาบันการเงินอื่นๆด้วยที่เป็นของเอกชน การมารู้เงื่อนไขของเขาบ้างก็ดี เผื่อเอาไว้เป็นตัวเลือกเมื่อต้องการขอสินเชื่อ และเผื่อขอจากธนาคารไม่ผ่าน เพราะแม้จะมีเงื่อนไขคล้ายธนาคารแต่สถาบันการเงินก็ยังของ่ายกว่านะ
กัสจัง
@Rogelio เดี๋ยวนี้ติดแบล็คลิสก็สามารถขอสินเชื่อได้แล้วค่ะ แบล็คลิสเป็นแค่ฐานข้อมูลเครดิตทางด้านการเงินของเรา เพื่อให้ธนาคารนำข้อมูลไปวิเคราะห์ว่าเรามีศักยภาพในการผ่อนชำระมากพอไหมเท่านั้นเอง ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างที่ใครๆคิด ในกรณีที่คุณชำระหนี้ไปหมดแล้วแต่รอแค่ชื่อที่ติดอยู่ในเครดิตบูโรให้หายไป คุณสามารถที่จะขอสินเชื่อได้เลยนะคะ มีบางธนาคารเค้ามีสินเชื่อเพื่อคนกลุ่มที่ติดแบล็คลิสค่ะ
สิทธิ์
ผมว่าบางทีคุณสมบัติของคนสมัครที่เราดูผ่านตามเกณฑ์เฉพาะไปขอสินเชื่อธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ไปขอไม่อนุมัติก็มีนะครับ บางทีเราก็ไม่รู้ว่าเกณท์จริงๆที่ธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆไว้ใช้ดูผู้ขอสินเชื่อน่ะคืออะไร บัตรเครดิตด้วยเหมือนกัน บางทีฐานเงินเดือนถึง ไม่ได้มีประวัติเสีย แถมเสียเวลาเราอีกต่างหาก แต่ก็ไม่ผ่าน งงใจจริงๆครับ อยากรู้เหมือนกัน
ชาย
มีเรื่องที่เราต้องคิดถึงเหมือนกันนะคะสำหรับในกรณีที่เราอยากขอให้มีการอนุมัติให้ใช้สินเชื่อ ก็คืออายุของผู้ที่สมัครใช้บริการต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป แล้วต้องรวมระยะเวลาการผ่อนชำระกับอายุของผู้ที่ขอร่วมกันแล้วต้องไม่เกิน 60 ถึง 70 ปี ดังนั้นถ้ามีอายุมากกว่า 35 ปีแล้วก็ไม่สามารถที่จะขอสินเชื่อที่มีการผ่อนชำระเกิน 50 ปีได้
สุภิดา
ยิ่งตอนนี้จะขอสินเชื่อคงทำได้อยากมากกว่าเมื่อก่อนนะคะ เห็นหลายคนเริ่มๆบ่นกันแล้วคะ ว่าตรวจสอบเยอะกว่าเมื่อก่อนมากเลย คิดว่าส่วนหนึ่งน่าจะมาจากสภาพการเงินตอนนี้ของบ้านเราแน่นอนเลย เพราะเห็นว่าติดลบหลายๆอย่างแล้ว ธนาคารก็คงไม่กล้าปล่อยสินเชื่ออะไรง่ายๆแน่นอน ใครที่จะขอสินเชื่อตอนนี้ก็ต้องเห็นใจกับทางธนาคารด้วยนะ
ธิดารัตน์
ที่จริงเราน่าเห็นใจคนที่ปล่อยสินเชื่อแบบนี้นะคะ ปล่อยง่ายไปพวกก็ไม่ยอมมาจ่ายคืน พอเข้มงวดมากๆ พวกทีีไปขอสินเชื่อก็บ่นกันจริง เราต้องเข้าใจเขานะคะว่าเขาไม่อยากเสียเงินไปเปล่าๆหลอกคะ ให้เงินคนที่เขาไม่รู้จักก็ต้องมีการตรวจสอบที่ดีหน่อยใข่ไหมคะ เอาใจเขามาใส่ใจเราคะ ถ้าเป็นเรา เราก็คงไม่ยอมเหมือนกันใช่ไหมคะ
PAPER
@สุภิดา ผมว่าไม่นะ เดี๋ยวนี้มีสินเชื่อของ่ายๆเยอะจะตาย จากสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารนะ อย่างพวก เงินติดล้อ แล้วมีอะไรหล่ะ ผมก็จำไม่ค่อยได้แล้ว แต่ของธนาคารเองก็ออกสินเชื่อเงินด่วนเยอะด้วยนะ อย่างธนาคารออมสิน กรุงศรีฯ กสิกร อันนี้เท่าที่เคยเห็นโฆษณา แต่ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วอนุมัติง่ายหรือยาก ไม่เคยไปขอครับ