ศิลปะในการพูดนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเองได้โดยอัตโนมัติแต่ต้องสร้างขึ้นมา เพราะว่าต่อให้คุณเกิดมาพูดเก่งแค่ไหนก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะใช้คำพูดอย่างดีและน่าฟังเสมอไป ส่วนบางคนก็เกิดมาเป็นคนไม่ค่อยพูดการที่คนคนนั้นจะพูดอะไรสักอย่างก็ดูเหมือนเป็นเรื่องยากเหลือเกิน แต่สำหรับผู้ที่ต้องเจรจาทางธุรกิจนั้นก็คงไม่มีทางเลือกไม่ว่าส่วนตัวแล้วคุณจะเป็นคนแบบไหนเมื่อคุณทำงานด้านนี้คุณก็ต้องทำให้ดีที่สุด ดังนั้นการเจรจาทางธุรกิจเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ มากเป็นองค์ประกอบของการทำธุรกิจที่ขาดไม่ได้และไม่ควรละเลย เพราะอะไร? ก็เพราะว่าการเจรจาธุรกิจที่ดีและฉลาดส่งผลให้คู่ค้าหรือลูกค้าหรือหุ้นส่วนเกิดความไว้วางใจต่อธุรกิจของคุณมากขึ้นทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จมากกว่าถ้าคุณเป็นคนที่พูดอย่างฉลาด ซึ่งต้องแยกให้ออกระหว่าง วิธีการพูด กับ สิ่งที่ต้องพูด
สองอย่างนี้ไม่เหมือนกันนะคะ การที่คุณมีวิธีพูดที่ดีและฉลาดสำคัญมากกว่าการมีข้อมูลหรือสิ่งที่ต้องพูด แต่ลองมองกลับกัน ถ้าคุณมีข้อมูลหรือสิ่งที่ต้องพูดมากมายแต่ไม่มีวิธีการพูดที่ดีและฉลาด ผลของทั้งสองอย่างจะออกมาแตกต่างกันเลยทีเดียว คุณเองคงนึกภาพออกนะคะ
บทความนี้จึงจะมาบอกวิธีการพูดอย่างฉลาดให้คุณได้นำไปใช้เพื่อเจรจาทางธุรกิจ เรื่องนี้สำคัญมากต่อการเติบโตของธุรกิจของคุณค่ะ เพราะการพูดอย่างฉลาดจะสามารถดึงความสนใจผู้ฟังและโน้มน้าวความคิดของผู้ฟังได้ดี และการพูดอย่างเป็นธรรมชาติก็สร้างความน่าเชื่อถือได้ดีด้วย ดังนั้น คำพูดจึงเป็นเหมือนอาวุธที่จะทำให้คุณชนะทุกอย่างแม้กระทั่งใจของคนค่ะ
พูดด้วยการแสดงความน่าไว้วางใจ
มีอะไรบ้างที่ส่งผลต่อผู้ฟัง นั่นก็คือ น้ำเสียง คำพูด และสำเนียง องค์ประกอบโดยรวมทั้งหมดนี้มีผลต่อผู้ฟังทั้งสิ้น สิ่งเหล่านี้มีผลต่อผู้ฟังเท่ากับเนื้อหาและข้อมูลที่คุณจะพูดเลยหล่ะ ถึงแม้ว่าคุณจะมีเนื้อหาและข้อมูลที่เตรียมตัวมาอย่างดีน่าสนใจ แต่การพูดด้วยนำเสียงและสำเนียงหรือคำพูดที่ไม่น่าฟังก็ไร้ประโยชน์ หรือที่ใครๆเรียกว่าพูดไม่รื่นหูหรือไม่เข้าหูนั่นเอง การพูดแบบนั้นจะทำให้คนที่ฟังไม่อยากสนใจผังในสิ่งที่คุณกำลังพูดอยู่ หรือถึงกับรำคาญด้วยซ้ำ การเจรจาทางธุรกิจก็จะล้มเหลวได้ด้วยการพูดของคุณแบบนี้ แต่การที่คุณมีวิธีพูดที่ดีนำเสียงที่อ่อนโยนน่าฟังจะมีผลกลับกันผู้ฟังก็อยากจะฟังสิ่งที่คุณพูดไปเรื่อยไม่เบื่อ
การเจรจาธุรกิจด้วยการพูดที่ดีนั้นไม่ได้หมายความว่าเป็นการพูดต่อหน้าเท่านั้นการพูดหรือติดต่อกับลูกค้าทางโทรศัพท์ก็เช่นกัน ต้องมีการพูดที่ดีและฉลาดด้วยค่ะ เพราะจะสร้างความประทับใจให้กับผู้ฟังได้ทำให้การเจรจาทางธุรกิจประสบความสำเร็จ ลูกค้ามีความไว้วางใจและเชื่อถือในข้อมูลและตัวคุณที่เป็นผู้พูดมากขึ้นค่ะ ยังไงก็ลองเอาไปปรับใช้ดูนะคะ เชื่อว่าคุณพัฒนาได้ค่ะ
พูดด้วยความจริงใจ
ความจริงใจก็เปรียบเหมือนกับความซื่อสัตย์นั่นเอง สิ่งนี้สามารถสัมผัสกันได้และไม่สามารถหลอกลวงได้นาน การพูดก็เหมือนกัน การพูดด้วยความจริงใจให้ผู้ฟังสัมผัสถึงได้ต้องทำอย่างนี้ คือ คุณเองต้องมีการเตรียมตัวอย่างดีในเนื้อหาข้อมูลที่คุณจะพูดออกไปและมั่นใจในข้อมูลนั้นๆ เมื่อทำอย่างนั้นคุณจะพบว่าความจริงใจและเจตนาที่ดีจะส่งไปถึงผู้ฟังแบบที่คิดไม่ถึงเลยหล่ะ การพูดด้วยความจริงใจอาจจะไม่ต้องใช้คำพูดที่สวยหรูแต่เป็นคำพูดที่ง่ายๆเข้าใจง่าย ผู้ฟังสัมผัสได้นึกภาพตามได้และต้องพูดอย่างชัดเจนไม่ตะกุกตะกัก เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจะดูเหมือนว่าคุณไม่มีการเตรียมตัวและไม่ตั้งใจในการทำงานซึ่งจะส่งผลเสียต่อการเจรจาธุรกิจของคุณแน่ๆ นี่อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ถ้าคุณละเลยก็จะเกิดผลเสียได้นะคะ
น้ำเสียงในการพูดที่มีพลังสร้างความมั่นใจ
มาดูกันในเรื่องของน้ำเสียงกันอีก การพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนก็สำคัญ แต่การพูดที่อ่อนโยนนั้นต้องมาพร้อมกับความมีพลังด้วย คือพูดสียงไม่ขาดหายเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ที่ฟัง และจังหวะในการพูดต้องพอดี ไม่เร็วหรือช้าจนเกินไป ถ้าคุณพูดเร็วเกินไปจะแสดงถึงความประหม่าและไม่มั่นใจผู้ฟังอาจจะฟังไม่ทันหรือไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพูด แต่ถ้าคุณพูดช้าเกินไปผู้ฟังก็จะเบื่อและรู้สึกว่าคุณไม่ได้เตรียมตัวหรือไม่ได้ให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่จะนำเสนอทำให้ผู้ฟังรู้สึกไม่มั่นใจกับธุรกิจของคุณและไม่อยากที่จะลงทุนกับคุณ
ดังนั้น คุณควรฝึกฝนมากๆก่อนจะไปเจรจาธุรกิจเพราะไม่อย่างนั้นงานคุณอาจจะพังได้ด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ คุณอาจจะฝึกฝนโดยพูดกับกระจกที่บ้านก็ได้เพื่อดูว่าท่าทีและสีหน้าและเสียงของคุณเป็นที่น่าพอใจแล้วหรือยัง การฝึกฝนเท่านั้นที่จะช่วยให้การพูดของคุณออกมาดีได้นะคะ ลองฝึกฝนกันให้เยอะๆ นะคะเพื่อผลงานที่จะออกมาดีค่ะ
มีเวลารับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นด้วย
การเจรจาธุรกิจเป็นเหมินการสนทนากัน ดังนั้นถ้าคุณเป็นฝ่ายที่พูดอยู่ฝ่ายเดียวคงไม่ดีแน่ๆ แต่คุณต้องเปิดโอกาสให้คู่ค้าหรือหุ้นส่วนได้มีโอกาสออกความคิดเห็น หรือถามคำถามกับคุณบ้าง และการที่คุณรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าทำให้คุณสามารถเสนองานหรือพูดอย่างที่ลูกค้าชอบมากขึ้นอีกด้วยค่ะ และการที่คุณรับฟังความคิดเห็นหรือคำถามของผู้ฟังจะทำให้คุณรู้ว่าเขาเข้าใจสิ่งที่คุณพูดหรือไม่ และการที่คุณสามารถตอบคำถามเขาได้อย่างดีจะช่วยให้ผู้ฟังมั่นใจในตัวคุณมากขึ้นเพราะคุณสามารถตอบคำถามที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนได้อย่างดี นั่นแสดงว่าคุณมีข้อมูลเต็มที่อยู่แล้วสำหรับเรื่องธุรกิจของคุณค่ะ นี่ก็เป็นสิ่งที่ฉลาดที่ต้องทำเมื่อมีการเจรจาธุรกิจด้วยไม่ใช่แค่การพูดอย่างเดียวเท่านั้นค่ะ
พูดในเวลาที่เหมาะสม
เป้าหมายของการเจรจาธุรกิจของทุกคนก็คงจะเป็นทางเดียวกันคือ ให้ผู้ฟังยอมรับเงื่อนไขและข้อเสนอของคุณนั่นเอง ดังนั้น การพูดอย่างดีจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก รวมถึงจังหวะเวลาในการพูดด้วย อย่างเช่นถ้ามีการนัดเจรจาธุรกิจที่ร้านอาหาร คุณอาจจะไม่ต้อเร่งรีบเพื่อพูดเรื่องธุรกิจทันทีอาจจะรับประทางอาหารกันก่อนให้เรียบร้อย ระหว่างรับประทานอาหารก็อาจจะใช้กลยุทธ์ที่จะสร้างบรรยากาศที่ดีเป็นกันเองพูดคุยเรื่องทั่วๆไปก่อน เพื่อสร้างความคุ้นเคยหรือบรรยากาศที่ดีไม่ควรเร่งรีบเร่งรัดเพื่อจะคุยเรื่องเครียดๆ ระหว่างรับประทางอาหารเพราะอาจจะทำให้เสียบรรยากาศได้ แล้วเมื่อคุณและผู้ฟังมีความคุ้นเคยกันมาขึ้นแล้วก็จะช่วยให้คุณพูดกับเขาแบบที่โดนใจเขามากขึ้นได้เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจเงื่อนไขข้อเสนอต่างๆ เพราะสิ่งที่เป็นอุปสรรคมากในการทำธุรกิจ คือความไม่ไว้วางใจและไม่เชื่อใจกันหรือการไม่ชอบหน้ากัน ดังนั้นการริเริ่มในตอนแรกถือว่าสำคัญมากๆ ควรสร้างความเชื่อใจกันก่อนแล้วทุกอย่างจะราบรื่นมากขึ้น
อีกอย่างที่จะทำให้คุณรู้ว่าควรพูดตอนไหนก็คือ การสังเกตสีหน้าท่าทางของผู้ฟังว่าเป็นอย่างไร มีหน้าตาที่พอใจหรือไม่พอใจคุณสามารถสังเกตได้ การเป็นคนช่างสังเกตก็จะช่วยคุณให้รู้ว่าควรพูดตอนไหนด้วยค่ะ เมื่อคุณพูดอย่างที่เหมาะสมกับเวลาการที่ผู้ฟังจะคล้อยตามนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ
สรุป
นี่เป็นความจริงสำหรับนักธุรกิจทั้งหลายคุณไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวเอง 100 % แต่คุณต้องมีตัวช่วยไม่ว่าจะเป็นเงินทุนจากสถาบันการเงิน หรือหุ้นส่วน และคุณต้องมีการบริหารงานที่ดีและพนักงานเพื่อช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปได้ ในด้านต่างๆ เช่นการเงิน การบริการ เป็นต้น ดังนั้นศิลปะในการพูดจึงสำคัญมากเมื่อติดต่อสื่อสารไม่ว่าจะกับหุ้นส่วน สถาบันการเงิน ลูกจ้าง ลูกค้า การพูดอย่างฉลาดสามารถนำมาใช้กับการสื่อสารทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่การเจรจาธุรกิจเท่านั้น แต่อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่าการพูดที่ฉลาดไม่ได้เกิดขึ้นเองได้ทุกคนต้องฝึกฝนและสร้างมันขึ้นมา และจำไว้ว่าการพูดมากกับการพูดเก่งแตกต่างกันนะคะ ถ้าคุณสับสนก็แย่เลย และการพูดที่ดีต้องมองภาพรวมไปถึงบุคลิกภาพที่ดีด้วยทั้งหมดนี้ต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างจริงจังและใช้เวลา ขอให้คุณลองสละเวลาเพื่อฝึกฝนตรงนี้สักหน่อยเพื่อธุรกิจของคุณจะประสบความสำเร็จได้นะคะ
Isabella
เดี๋ยวจะลองเอาไปใช้ดูนะคะ พอดีเราก็ทำงานเป็นเซลล์พอดีต้องคุยกับลูกค้า อาจจะเอาไปปรับใช้ได้ ชอบตรงที่บอกว่า ต้องรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นด้วย อันนี้เห็นด้วยเลยค่ะ เพราะว่าเซลล์บางคนพูดเยอะมากจนลูกค้าแทบจะเดินหนีเลย จริงๆเราว่ามันก็ถูกนะคะถ้าเราไม่ฟังว่าลูกค้าต้องการอะไร เอาแต่ยัดเยียดจะขายอย่างเดียว คงจะยากที่จะเข้าถึงลูกค้าจริงๆ
Kittibun
ขอบคุณครับสำหรับไอเดีย ความสามารถในการพูดหรือในการเจรจาต่อรองไม่ได้มีมาตั้งแต่เกิดครับ จากบทความนี้เห็นว่าเราสามารถฝึกที่จะเป็นคนพูดอย่างมีน้ำหนัก และสามารถที่จะต่อรองหรือเจรจาธุรกิจได้เลยก็ได้ ที่เป็นเหมือนสกิลในการฝึกความสามารถเรา ผมคิดว่าบทความนี้เป็นประโยชน์มากครับสำหรับคนที่ขี้อาย หรือคนที่ต้องการพยายามฝึกการพูด
สามทาง
เดี๋ยวนี้การพูดคุยในเรื่องการต่อรองทางธุรกิจเป็นอีกบทบาทหนึ่งที่สำคัญเพื่อที่จะช่วยให้อีกฝ่ายหนึ่งไว้เนื้อเชื่อใจ บทความนี้ได้อธิบายถึงวิธีการเข้าค่ายที่จะช่วยพัฒนาทักษะในการพูดของเรา เพื่อที่จะช่วยให้การเจรจาธุรกิจเป็นไปได้ด้วยดี แล้วเป็นการเพิ่มทักษะในการพูดของเราให้ดีขึ้นด้วย เป็นเหมือนกับการลงทุนในความรู้ความเข้าใจซึ่งจะไม่เสียเปล่าเลย
Warayu
นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แค่บริหารงานเก่งอย่างเดียวไม่ได้ต้องพูดจาเจรจาเก่งด้วยนะครับ กว่าจะทำได้ทั้งหมดอย่างที่บทความนี้บอกต้องใช้เวลานานแค่ไหนครับ คำแนะนำที่ให้มาถึงจะไม่ได้เป็นนักธุรกิจก็เอาไปใช้ได้นะ มีอีกหลายสายงานที่ต้องพบปะผู้คน ให้ความรู้ หรืองานบริการต่างๆ ล้วนต้องใช้ทักษะในการพูดและการสื่อความที่ดีครับ
สมหญิง
ใช่ คนที่เก่งเรื่องธุกิจไม่ใช่เก่งแค่ ทำผลกำไรอย่างเดียว คนที่เก่งต้อง รู้จักการเจรจาด้วย ไม่งั๊นไปไม่ได้คะ ต้องรู้จักพูดคุย เชิญชวนคนให้มาร่วมลงทุนได้ คำพูดที่เราพูดอออกมาถือว่าสำคัญจริงๆ คนเรามักตัดสินกัน ด้วยการพบเจอและการพูดจากันครั้งแรกนี่ละคะ ถ้าพูดไม่เข้าหู ทุกเรื่องที่ต่อให้ดีอย่างไร ผลสุดท้ายก็จบคะ
P&P
ส่วกเราเห็นมาจากในซีรี่ย์เกาหลีนะ พระเอกที่มีมาดนักธุรกิจจะพูดเก่งมากๆ ทำให้การเจรจาผ่านไปได้ด้วยดี สามารถหาแหล่งเงินทุนได้ดี เราว่าในชีวิตจริงก็คงจะคล้ายๆกันการเจรจาธุรกิจต้องทำให้ดูดีไว้ก่อน การพูดการจานมาต้องมีเทคนิค การแต่งตัว สถานที่โดยรวมทั้งหมดต้องพร้อมเพื่อจะทำให้สำเร็จ เพราะงานใหญ่ต้องลงทุน การสร้างภาพจะเป็นประโยชน์ก็ตรงนี้นี่แหละ
แฮปปี้
ไม่ว่าจะทำธุรกิจหรือไม่ทำธุรกิจ คำพูดหรือการพูดจาของเราก็เป็นสิ่งที่สำคัญค่ะ ต่อให้เราเป็นพนักงานออฟฟิศธรรมดาๆถ้าเราเป็นคนพูดจาไม่ดี ไม่รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ก็คงไม่อาจที่จะประสบความสำเร็จในสายงานของเราได้ การเป็นผู้ฟังที่ดีอันนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง เพราะจะช่วยลดความขัดแย้งและความเข้าใจผิดในที่ทำงานได้
เบอร์รี่
มีผลจริงๆนะลองคิดดูสิคะ ถ้าสมมุติว่าถ้าเราไปติดต่อธุรกิจไปเจรจาธุรกิจ แล้วคำพูดของเราไม่เข้าหูลูกค้าลูกค้าจะใช้บริการหรือตกลงเจรจาธุรกิจกับเราหรอ เวลาพูดกับลูกค้าแล้วก็ต้องพูดด้วยความจริงใจด้วยคือมนุษย์น่ะความรู้สึกไวถ้าเราเสียแต้มคนอื่นก็จับได้ต่อให้เราเก่งแค่ไหนถ้าเราไม่เต็มใจ คนที่เราคุยด้วยเขาก็รู้อยู่ดีแหละว่าเราน่ะไม่จริงใจ
ตัวเลข
อย่าว่าแต่คนที่ทำธุรกิจเลยครับที่ต้องมีเรื่องพวกนี้ ยิ่งการพูดจาด้วยแล้วยิ่งสำคัญเลยครับ คนเราถ้าพูดจาไม่ไพเราะ ก็คงไม่มีใครมาคุยกับเราแน่ครับ ถ้าใครที่ยังไม่สามารถทำเรื่องที่บทความนี้บอกไว้ ไม่ต้องกังวลครับ เรื่องพวกนี้เราค่อยๆหัดครับ อยู่ที่เราครับว่าอยากปรับตัวแค่ไหนครับ แต่เชื่อเถอะครับ ถ้าทำทั้งหมดได้เพื่อนจะมีแต่คนเข้ามาหาครับ
บิว
เห็นด้วยนะคะสำหรับใครที่อยากจะเจรจาหรือพูดคุยให้ประสบความสำเร็จ เราต้องดูเกี่ยวกับช่วงเวลาต้องเหมาะกับวาระและโอกาสด้วยค่ะ เราต้องรู้ว่าการพูดอะไรในช่วงเวลานี้จำเป็นต้องพูด และเรื่องอะไรที่ไม่ควรพูดในโอกาสนั้นก็ไม่ต้องพูด เพราะถ้าเราไม่คำนึงถึงจังหวะและเวลาที่เราจะพูดเรื่องนั้น แทนที่จะเกิดผลดีแต่จะทำให้เกิดผลเสียมหาศาลก็ได้ค่ะ
อุไรวรรณ
เพื่อนๆเคยเจอไหมคะ ว่าเวลาที่เราเข้าไปร้านขายสินค้า พวกร้านขายเครื่องสำอางค์หรือว่าครีม เรามักจะเจอบ่อยๆคะ คนที่ขายของก็จะพูดอย่างเดียวเลยคะว่าสินค้าของเขาดียังไง เราน่าจะใช้ตัวไหน คือ เราฟังดูแล้วเหมือนพวกนกที่ชอบพูดนะคะ ไม่สนใจคนรอบข้างเลย เราเจอร้านแบบนี้เราก็เข้าไปใช้บริการแค่ครั้งเดียวก็น่าจะพอแล้วคะ
MU.
@P&P ชีวิตจริงไม่ง่ายไม่เท่เหมือนในซีรี่ย์หรอกนะคะ 5555 ดิฉันเองก็ทำธุรกิจ บางครั้งมีลูกค้ามาพบ มีการเจรจาการลงทุน สำหรับดิฉันคิดว่า ความจริงใจสำคัญค่ะ การพูดให้ดูสวยหรูเกินไปไม่ชอบ พูดได้ทำไม่ได้ย่งไม่ชอบ ชอบคู่ค้าที่จริงใจมากกว่า การพูดจากันดูออกว่าโม้รึป่าว? หรือพูดจริงทำจริง เพราะมันแสดงไปถึงความซื้อสัตย์ด้วยค่ะเมื่อร่วมงานกัน