เป็นเรื่องที่แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ที่นักธุรกิจจะคาดหวังผลตอบแทน จากการลงทุนของตัวเองไปและแน่นอนว่าผลกำไรถือเป็นเป้าหมายหลักเป้าหมายสำคัญในการประกอบธุรกิจ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่ หรือขนาดเล็กก็ตาม การที่หวังผลกำไรนั้นเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการทุกคนคาดหวังเอาไว้เช่นเดียวกัน ส่วนมากกำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากยอดขายที่มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันกำไรที่เพิ่มขึ้นก็สามารถมาจากต้นทุนที่ลดลงด้วย พูดง่ายๆ ว่าการทำธุรกิจนั้นไม่มีความแน่นอนใดๆ ทั้งสิ้น

แต่คุณสามารถสร้างความแน่นอนนั้นขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง ถ้าคุณรู้เป้าหมายและหลักของการประกอบธุรกิจ ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ ผู้ประกอบการอาจใช้เงินของตัวเองหรือกู้ยืมจากครอบครัวเพื่อใช้ลงทุน แต่ธุรกิจ SME ย่อมมีการเติบโตขึ้น เงินทุนที่มีอยู่เดิมไม่พอกับแผนงานที่เติบโตขึ้น

นั่นคือเวลาที่จะต้องขอสินเชื่อ ซึ่ง SME ที่เตรียมตัวมาดี มีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายงบการเงินเรียบร้อย จะได้เปรียบในส่วนนี้ เพราะในการขอสินเชื่อสถาบันการเงินจะขอดูเอกสารการเงินย้อนหลัง การวางแผนขอและใช้สินเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ ธุรกิจ SME เติบโตไปได้ง่ายกว่าแผนการตลาดมีความสำคัญต่อ SME คือเป็นแผนที่ทำให้ขายของได้นั่นเองค่ะ ถ้าแผนการตลาดดี วางแผนอย่างเป็นระบบเป็นขั้นตอน ก็จะช่วยลดความผิดพลาดในการทำธุรกิจของเราลงไปได้ แต่ในทางกลับกันถ้าผลิตได้ แต่ขายไม่ได้

โอกาสจะขาดทุนก็มีมากค่ะ สิ่งที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME คือการลองศึกษาด้วยตัวเอง หรือขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดก็ได้ค่ะ  นี่คือสิ่งที่คุณสามารถสร้างขึ้นมาได้เพื่อธุรกิจของคุณจะมีความแน่อนนมากขึ้น

บทความนี้จะพูดถึงธุรกิจ SME ที่หลายคนก็มีการลงทุนและเป็นที่สนใจอย่างมากแต่ก็มีน้อยคนนักที่จะสามารถสร้างธุรกิจให้เติบโตมั่นคงแถมยังได้กำไรเพิ่มพูนไม่หยุดอีกด้วย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะทำได้ แต่เพื่อจะได้มาซึ่งกำไรที่เพิ่มพูนต้องมาดูเคล็ดลับที่จะนำมาบอกกันในบทความนี้ เช่น ศึกษาและเข้าใตต้นทุน / มองหาอะไรใหม่อยู่เสมอ / จัดการงบประมาณอย่างรอบคอบ นี่คือเคล็ดลับง่ายๆ 3 อย่างที่เราจะมาพิจารณากันแล้วการเพิ่มพูนกำไรก็จะไม่ยากสำหรับคุณอีกต่อไป

ศึกษาและเข้าใจต้นทุน

ศึกษาและเข้าใจต้นทุน

ต้นทุนคือสิ่งแรกๆที่ต้องเอาใจใส่และให้ความสนใจเพราะเป็นค่าจ่ายหลักๆที่คุณต้องเสียออกไปแบบไม่มีข้อแก้ตัว แต่คุณสามารถช่วยให้ธุรกิจของตัวเองนั้นประหยัดได้โดยการลดต้นทุนลงบ้าง แต่การจะทำอย่างนั้นได้ต้องตรวจสอบดูให้แน่ใจก่อน ก่อนที่คุณจะลดต้นทุนลงได้นั้น

คุณต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับต้นทุนของกิจการว่าใช้จ่ายไปกับอะไรมากที่สุด ซึ่งหลายคนอาจจะคิดเพียงว่าการลดต้นทุน ก็เพียงแค่ลดจำนวนคน ลดคุณภาพสินค้า หรืออื่น ๆ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อธุรกิจโดยตรงได้ ทั้งนี้ หลักในการลดต้นทุนที่ดี คุณต้องไม่ลดคุณภาพของสินค้า แต่ควรลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปให้มากที่สุดแทน ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพและประสิทธิภาพเหมือนเดิม สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องแยกให้ออก

คุณอาจจะพยายามลดต้นทุนลงได้ แต่อย่าลดคุณภาพสินค้าเด็ดขาดไม่อย่างนั้นจะมีปัญหาไปจนถึงฐานลูกค้าของคุณ ลูกค้าเหล่านั้นโดยเฉพาะลูกค้าที่ใช้บริการของคุณเป็นประจำจมูกไวมากถ้ามีอะไรที่ผิดเพี้ยนไปเขาจะสังเกตได้ดังนั้นอย่าเสี่ยงในเรื่องนี้เลยนะคะ

แล้วอีกเรื่องนึงเพื่อป้องกันผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคตผู้ประกอบการต้องเข้าใจก่อนว่า ต้นทุนธุรกิจนั้น ประกอบไปด้วยต้นทุนด้านการผลิต ต้นทุนด้านการขาย และต้นทุนในการบริหาร ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นมักจะหลบซ่อนอยู่ใน 3 ส่วนนี้ สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ แยกค่าใช้จ่ายแต่ละส่วนออกมาให้เห็นชัดเจนว่า คุณลงทุนไปกับอะไรบ้าง หรือจำนวนเงินมากน้อยเพียงใด และคุณต้องมองว่าหากคุณลงทุนส่วนนี้ไป จะได้ผลตอบแทนคุ้มค่าหรือไม่ ซึ่งสำคัญอย่างมากต่อการลดต้นทุน เพราะถ้าคุณเกิดลดต้นทุนผิดส่วนก็อาจจะส่งผลกับธุรกิจของคุณได้เช่นกัน ดังนั้น

คุณจะต้องรู้ถึงความเคลื่อนไหวของเงินที่คุณนำไปลงทุน เพื่อจะได้นำมาพิจารณาในการลดค่าใช้จ่ายเหล่านั้นได้อย่างลงตัว ไม่ส่งผลเสียต่อธุรกิจ และสามารถเพิ่มพูนกำไรให้มากขึ้นกว่าเดิมได้ ก่อนจะปรับเปลี่ยนอะไรควรทำอย่างรอบคอบไม่อย่างเรื่องดีจะกลายเป็นร้ายได้ค่ะ

มองหาอะไรใหม่ๆอยู่เสมอ

มองหาอะไรใหม่ๆอยู่เสมอ

เพราะโลกทุกวันนี้ก้าวไปเร็วมากๆการที่คุณจะยึดติดอะไรเดิมๆตลอดอาจจะไม่ได้ผล หรืออาจจะเริ่มรู้สึกว่ารายได้หดหาย งั้นลองมาสำรวจมองดูโลกกว้างบ้างมามีอะไรใหม่ๆที่สามารถนำเข้ามาปรับใช้กับธุรกิจกิจการของคุณได้บ้างหรือไม่? และอีกสิ่งหนึ่งที่อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนคือ ค่าใช้จ่ายต่างๆ การที่คุณจะเริ่มมีการปรับเปลี่ยนการใช้จ่ายของธุรกิจ ทุกคนที่อยู่ในองค์กรของคุณต้องร่วมมือกับช่วยลดและปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ของคุณเกี่ยวกับการลดค่าใช้จ่ายส่วนเกินเหล่านี้ หากต้องการให้ทุกคนในองค์กรร่วมมือกัน คุณต้องเป็นผู้วางแผน กระตุ้น และเน้นย้ำ ให้เห็นถึงความสำคัญในการลดต้นทุน และให้เห็นถึงการปรับเปลี่ยนที่นำไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นถ้าทุกคนร่วมมือกันไม่ว่าเรื่องอะไรการที่ธุรกิจจะเติบโตแผ่ขยายก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป เพื่อให้ธุรกิจของคุณสามารถดำเนินต่อไปได้ และเพื่อให้คุณสามารถดำเนินธุรกิจแบบเพิ่มพูนกำไรอย่างที่คุณตั้งความหวังเอาไว้

การที่คุณสามารถจูงใจให้ทุกคนที่อยู่ภายในองค์กรสามารถร่วมมือกันอย่างสอดคล้อง นอกจากจะทำให้สามารถลดต้นทุนลงแล้ว ยังเพิ่มพูนให้ธุรกิจมีกำไร และสามารถดำเนินกิจการได้อย่างรุ่งเรืองต่อไปได้อีกยาวนาน นานจนรุ่นลูกรุ่นหลานไปเลยก็ได้ การทำธุรกิจต้องมองภาพไกลๆเอาไว้ถึงจะดีนะคะ

ที่สำคัญคุณต้องเน้นให้พนักงานทุกคนเห็นถึงผลที่ตามมาว่า หากธุรกิจสามารถทำกำไรได้แล้วพวกเขาจะได้ผลตอบแทนอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น หากธุรกิจของคุณสามารถลดต้นทุนแล้วเพิ่มพูนกำไรได้ในปีนี้ ปีหน้าพวกเข้าจะได้รับโบนัสจากผลกำไร โดยแบ่งให้ตามความเหมาะสม หรือเพิ่มเงินเดือนให้ การแสดงให้บุคลากรในร่วมงานกับคุณเห็นถึงผลกำไรที่บริษัทจะได้รับและยังส่งผลต่อรายได้ของเขาจะยิ่งช่วยให้ทีการร่วมมือกันง่ายมากขึ้นและเข้าใจกันมากขึ้น เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้ทั้งบุคคลกรที่มีประสิทธิภาพสามารถผลิตสินค้าให้ออกมาอย่างมีคุณภาพสูงสุดได้นั่นเอง เมื่อทุกคนเต็มใจทำงานงานก็จะออกมาดีจริงมั้ยคะ?

จัดการงบประมาณอย่างรอบคอบ

จัดการงบประมาณอย่างรอบคอบ

การทำงบประมาณการเงิน หรือพูดง่ายๆ คือการทำบัญชีของบริษัทนั่นเองจะช่วยให้คุณรับรู้ทุกความเคลื่อนไหวของเงิน ไม่ว่าจะเป็นรายรับ หรือรายจ่าย ซึ่งปัญหาหนึ่งของผู้ประกอบการ SME หลาย ๆ คนที่ไม่สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดีพอ ไม่ใช่ไม่รู้วิธีลดต้นทุน แต่กลายเป็นว่าหลายคนไม่รู้ว่าต้นทุนเหล่านั้น สูงเกินไป หรือมีค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นมากเกินไป หลักสำคัญของปัญหาเหล่านั้น ก็คือ การที่ผู้ประกอบการไม่มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถจัดการงบการเงินได้อย่างรอบคอบนั่นเอง แต่ก็อาจจะเป็นไปได้ที่ผู้ประกอบการไม่สามารถรับรู้ทุกสิ่งหรือไม่มีประสบการณ์มากพอ ดังนั้นคุณควรใช้บุคลากรให้เป็นประโยชน์ให้พวกเขาได้ช่วยคุณในเรื่องการทำบัญชีก็ได้ หรือใช้บริการพนักงานบัญชีที่มีความชำนาญก็จะดีมากๆ

ดังนั้น ผู้ประกอบการ SME ต้องใส่ใจเกี่ยวกับการทำงบประมาณการเงินให้ครอบคลุมและทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้คุณสามารถจัดการบริหารเงินเหล่านั้น ได้อย่างลงตัวมากที่สุด คุณต้องจำไว้เลยว่า การเพิ่มพูนกำไรไม่ได้เป็นเพียงการขายของให้ได้มากที่สุดเท่านั้น แต่ต้องลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจด้วย เพื่อให้เกิดความสมดุล และสามารถเพิ่มพูนกำไรให้คุณได้อย่างที่คุณต้องการ และที่สำคัญใส่ใจคุณภาพให้เท่าเดิมด้วยเพื่อจะเป็นการซื้อลูกค้า ให้ทำทุกอย่างสมดุล ไม่ใช่อยากจะลดต้นทุนมากเกินไป หรืออยากจะขายสินค้าได้มากๆ เกินไป ต้องทำทุกอย่างอย่างพอดีบวกกับความรอบคอบในทุกๆด้านต่างหากที่จะทำให้ธุรกิจของคุณมีกำเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น และอย่างต่อเนื่องค่ะ

สรุป

สรุป

ทั้งหมดนี้ คือเคล็ดลับที่ดีที่นำมาฝากกันสำหรับเหล่านักธุรกิจ SME ทั้งหลาย ซึ่งอาจจะเปลี่ยนความคิดที่ผิดๆของคุณไปบ้างก็ได้ เพราะโดยส่วนมากแล้วนักธุรกิจทั่วไปก็มักจะคิดและมีความเชื่อว่าที่ยอดขายสูงขึ้น เป็นตัวชี้วัดผลกำไรที่มากขึ้นตามไปด้วยนั้น ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีเสมอไป เพราะถึงแม้คุณจะมียอดขายเพิ่มขึ้นจริง แต่หากมีต้นทุนที่สูงขึ้น ก็เท่ากับว่าคุณไม่ได้มีกำไรเพิ่มพูนอย่างแท้จริง แต่จะกลับกลายเป็นการดึงกันอยู่ดังนั้นคุณต้องเริ่มลงมือปรับเปลี่ยน แต่เพื่อจะปรับเปลี่ยนอย่างมีปะสิทธิภาพก็ต้องมาพร้อมกับความรอบคอบด้วย ไม่อย่างนั้นการทำธุรกิจก็ไม่ได้เรียกว่าประสบผลสำเร็จแต่อย่างใด

ดังนั้น การที่คุณรู้จักควบคุมต้นทุน ให้ลดลงได้ และสามารถขยายธุรกิจ หรือเพิ่มยอดขายได้สูงขึ้นไปพร้อมกันได้ ก็ยิ่งดีต่อธุรกิจของคุณ สุดท้ายนี้ ก็หวังว่า ผู้ประกอบการ SME ทุกคนจะนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับธุรกิจของคุณมากที่สุด และการสามารถประสบความสำเร็จในธุรกิจได้อย่างที่คุณต้องการ ไม่ว่าคุณจะประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจหรือไม่ จงเชื่อและมั่นใจในตัวเองให้มาก เพราะทุกก้าวของธุรกิจขึ้นอยู่กับความรู้ ความสามารถของคุณเอง การทำธุรกิจเป็นเหมือนกับการแข่งกับตัวเองอยู่ ส่วนบุคคลอื่นเป็นเพียงตัวประกอบที่ช่วยให้คุณสามารถก้าวข้ามสู่ความสำเร็จได้เท่านั้น หากคุณสามารถบริหารธุรกิจให้อยู่รอดได้ ทุกคนที่อยู่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในองค์กรของคุณก็สามารถอยู่รอดได้เช่นกันค่ะ เชื่อว่าความมุ่งมั่นของคุณจะนำพาคุณให้ไปถึงจุดหมายได้แน่ๆ ค่ะ