ธุรกิจส่วนตัว ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ แนวโน้มความต้องการของตลาดและผู้บริโภค คนทำงานประจำก็ลาออกหันมาทำธุรกิจส่วนตัวกันมากขึ้น เพราะมีความเป็นอิสระในเรื่องของเวลาในการทำงาน การแต่งกาย ที่สำคัญอาชีพส่วนตัวหรือธุรกิจส่วนตัวก็ทำเงินได้มากกว่าทำงานประจำด้วยซ้ำ จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นเจ้าของธุรกิจ พ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่ เข้ามาสู่ธุรกิจส่วนตัวกันอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นให้เรามาดูกันว่า มีแนวทางอะไรนำไปสู่การประกอบธุรกิจส่วนตัวดังต่อไปนี้

7 แนวทางในการประกอบธุรกิจส่วนตัว

7 แนวทางในการประกอบธุรกิจส่วนตัว

มีทั้งหมด 7 แนวทางในการประกอบธุรกิจส่วนตัว ดังนี้:

1.สำรวจขีดความสามารถ

ต้องเข้าใจลักษณะธุรกิจของเรา ว่าเราสามารถทำได้ด้วยตัวเองหรือไม่ ต้องจ้างพนักงานหรือไม่ และต้องบริหารงานด้วยความรอบคอบ รู้ขีดความสามารถของตัวเองว่าเรามีความรู้ดีแค่ไหน มีความรู้ทางด้านไหนเป็นพิเศษ และด้านไหนเป็นจุดอ่อน เพราะบางอย่าง ที่ความสามารถเราไม่ถึง อาจต้องพึ่งที่ปรึกษา และควรจะมี

2.บริหารจัดการ

เป็นสิ่งสำคัญต่อการประกอบธุรกิจส่วนตัวอย่างยิ่ง เพราะหากเราไม่มีการจัดการที่ดี ธุรกิจก็จะไปไม่รอด ซึ่งหากเราจะเริ่มทำธุรกิจอะไรก็ตามแต่ เราควรจะมีระบบการจัดการให้ดีเสียก่อน โดยเฉพาะการบริหารทางด้านการเงิน และพนักงาน

3.สำรวจกลุ่มเป้าหมายลูกค้า

คือหัวใจสำคัญของการประกอบธุรกิจ หากเราประกอบธุรกิจโดยไม่รู้ว่ากลุ่มลูกค้าของเราคือใคร ก็เหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทร ดังนั้น ให้เราสำรวจกลุ่มลูกค้าของเราให้ชัดเจนก่อน ว่ากลุ่มลูกค้าของเราคือใคร อยู่ที่ไหน ทำอะไร และชอบอะไรเป็นพิเศษเกี่ยวกับธุรกิจของเรา ซึ่งข้อมูลต่างๆเหล่านี้ จะเป็นตัวชี้วัด เพื่อให้เราเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของเราได้มากที่สุด

4.วางแผนการทำธุรกิจ

ธุรกิจจะเกิดไม่ได้เลย หากเราไม่มีแผน ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่าบริษัทต่างๆ ล้วนแล้วแต่มีเป้าหมาย มีแผนอย่างชัดเจน อย่างเช่นว่า ปีนี้ต้องได้กำไรเท่าไร และจะต้องดำเนินงานไปในทิศทางใด และถึงแม้เราจะเป็นแค่เจ้าของธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ เราก็ต้องรู้จักวางแผนให้ดี และมีเป้าหมายที่ชัดเจน

5.เตรียมแผนสำรอง

ล้วนแล้วแต่มีแผนที่ชัดเจน กลับกัน หากแผนที่วางไว้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เราก็ควรจะมีแผนสำรอง เพื่อรองรับและปรับเปลี่ยนให้ธุรกิจของเรา เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในเบื้องต้นให้จงได้

6.แหล่งเงินทุนใน

เราอาจจะใช้เงินไม่มากนัก แต่ถ้าหากในอนาคต เราต้องมีการขยายธุรกิจให้ใหญ่โตยิ่งขึ้น เงินทุนจะเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้เราสามารถพัฒนาธุรกิจให้เร็วได้ ดังนั้น เราจึงต้องคิดเผื่อสำหรับเรื่องนี้ โดยการมองหาแหล่งเงินทุนเอาไว้

7.ลงมือปฏิบัติดัวยความเต็มใจ

คือ การลงมือทำ เพราะหากเราขาดการลงมือปฏิบัติแล้ว ผลงานหรือความสำเร็จก็จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย แต่หากเราต้องประสบกับความล้มเหลว ก็อย่าได้ท้อถอย แต่ต้องนำความล้มเหลวนั้นมาเรียนรู้ เพื่อที่จะสู้ และลงมือแก้ปัญหา

10 ธุรกิจส่วนตัว ที่น่าสนใจ ในปี 2562

10 ธุรกิจส่วนตัว ที่น่าสนใจ ในปี 2562

มีอยู่ 10 ธุรกิจส่วนตัวที่น่าสนใจ

1.ธุรกิจแบบสื่อออนไลน์

ทุกวันนี้ สื่อออนไลน์สามารถเข้าถึงทุกคน และทุกพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว หลายๆคนจึงหันมาเลือกทำธุรกิจบนสื่อออนไลน์ โดยสามารถทำเงินจากมันได้อย่างมหาศาล และยังประสบความสำเร็จด้วย  ซึ่งอาชีพหนึ่งบนสื่อออนไลน์ ที่กำลังได้รับความนิยมในตอนนี้นั้น ก็คือ Youtuber

สำหรับความหมายของอาชีพนี้นั้น หมายถึง ผู้ที่อัพโหลดวิดีโอลงเว็บไซต์ YouTube เพื่อแสวงหากำไรนั่นเอง ซึ่ง Youtuber หลายคนสามารถต่อยอดอาชีพนี้ จนทำเป็นธุรกิจเลยทีเดียว อีกทั้งยังสามารถสร้างรายได้จากอาชีพนี้ได้ดี หากใครกำลังคิดจะทำอาชีพ Youtuber แล้วละก็ ขอบอกเลยว่า สิ่งสำคัญคือ คอนเทนต์ และความคิดสร้างสรรค์นี่ทำให้สร้างรายได้ที่ดีมาก

2. ธุรกิจแบบสร้างกำลังใจ

อาชีพนักพูด ก็เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันเช่นกันแต่หลายๆ คนอาจคุ้นเคยกับคำว่า Life Coach มากกว่า พวกนักพูดหรือ Life Coach เราจะพบเจอได้บ่อยๆ บน Facebook หรือ YouTube ซึ่งจะมีคอร์สเรียนให้เลือกมากมาย จากเหล่านักพูดพวกนี้ ไม่ว่าจะเป็น การสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเอง การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ หรือแม้แต่เรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือแนวความคิดบางอย่างของเรา ที่เขาจะสอนให้เราเข้าใจสิ่งเหล่านั้นมากขึ้น และเช่นกัน นักพูดหลายคนประสบความสำเร็จจากอาชีพนี้ จนต่อยอดให้กลายมาเป็นธุรกิจได้ ซึ่งรายได้หลัก ก็มาจากการขายคอร์สสอนต่างๆ และการถูกเชิญไปพูดตามสถานที่ต่างๆ ด้วยนั่นเอง

3. ธุรกิจแบบส่งถึงที่

อีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจและเป็นธุรกิจที่ติดอันดับทุกปี นั่นก็คือธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร ซึ่งคุณสามารถทำอาหารอะไรก็ได้ที่คุณชอบหรือกำลังสนใจ เพียงแต่คุณต้องสร้างความแตกต่างจากคนอื่นๆเท่านั้นเอง นั่นก็คือ มีไอเดีย มีความสร้างสรรค์ มีความแปลกใหม่ หรือแม้แต่การทำการตลาดเจ๋งๆ เพื่อให้เกิดการรับรู้ ให้ลูกค้าสนใจในอาหารของคุณ และส่วนที่ขาดไม่ได้ก็คือ การบริการแบบส่งถึงที่ รวดเร็ว ฉับไว เพียงแค่ลูกค้าโทรหรือสั่งผ่านแอพ ก็สามารถทานอาหารจากร้านคุณได้ คุณต้องขายความสะดวกด้วยนั่นเอง

4. ธุรกิจแบบบริการ

นายหน้า เป็นอาชีพที่ต้องอาศัยความสามารถในการติดต่อประสานงาน การพูดคุย การโน้มน้าว และมีจิตวิทยาในการพูดที่ดี ซึ่งอาชีพนี้ กลายเป็นธุรกิจแบบงานบริการอย่างหนึ่ง โดยมีลักษณะของงานหลายแบบ เช่น นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ นายหน้าท่องเที่ยวนายหน้าหานายแบบ นางแบบ หานักแสดง หาผู้ร่วมรายการ ซึ่งธุรกิจนี้จะเหมือนกับเครือข่าย ที่ต้องคอยติดต่อประสานงานทั้งกับลูกค้า นายหน้า และบริการที่ลูกค้าต้องการ โดยรายได้จะมาจากเปอร์เซ็นต์ที่ตกลงกับลูกค้า หากรู้ตัวว่าพูดเก่ง มนุษย์สัมพันธ์ดี มีจิตวิทยาในการโน้มน้าวใจคน ต้องให้ธุรกิจนี้ เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งเลย

5. ธุรกิจแบบตัวแทน

ในกรณีนี้ จะพูดถึงตัวแทนจำหน่ายสินค้า แบบไม่ต้องสต๊อกสินค้า ซึ่งในปัจจุบันก็ได้รับความนิยมมาก และมีคนทำมากขึ้น โดยวิธีการที่เราจะสร้างรายได้จากธุรกิจนี้ก็คือ ส่วนต่างของสินค้าที่เราบวกเพิ่มเข้าไปจากราคาของร้าน ซึ่งเราไม่ต้องจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าเองด้วย และยังสามารถเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าได้หลายร้าน หากคุณเป็นคนขยัน และชอบการขาย ต้องลองลงสนามของธุรกิจนี้ช่วยได้มากทีเดียว

6. ธุรกิจแบบแตกสาขา

สำหรับผู้ที่ต้องการจะทำธุรกิจ แต่มีเงินลงทุนไม่มาก “แฟรนไชส์” ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจ ที่น่าสนใจไม่น้อย ซึ่งข้อดีคือ ใช้เงินลงทุนน้อย และไม่ต้องเสียค่าโฆษณา ค่าทำการตลาดด้วย ส่วนจะทำธุรกิจแฟรนไชส์อะไรนั้น คุณสามารถค้นหาข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตได้ง่ายมาก เพราะมีธุรกิจให้คุณเลือกมากมาย ตั้งแต่เงินลงทุนหลักพันจนถึงหลักแสนและล้าน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากคุณซื้อธุรกิจแฟรนไชส์จากธุรกิจแม่ที่มีชื่อเสียงมาก เป็นที่รู้จักโดยกว้างขวาง แต่กลับมีทำเลที่ตั้งที่ไม่ดี แฟรนไชส์ของคุณ ก็อาจล้มเหลวได้ เพราะฉะนั้นถึงจะเป็นธุรกิจแบบแตกสาขา คุณก็ต้องรู้จักวางแผนให้ดีด้วยนั่นเอง

7. ธุรกิจแบบให้คำปรึกษา

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป และทุกอย่างเข้าสู่โลกออนไลน์มากขึ้น การทำโฆษณาสินค้า จึงเปลี่ยนรูปแบบจากทีวี  วิทยุ หรือหนังสือพิมพ์ มาเป็นสื่อออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, YouTube, Twitter, Line, IG รวมถึงบนเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งทุกสินค้า ล้วนแล้วแต่เสียค่าโฆษณาบนสื่อเหล่านี้มาแล้วทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นจึงเกิดธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์ สำหรับรูปแบบงานจะเป็นในเรื่องของ การดูแลทำโฆษณา การคิดคอนเทนต์ การวิเคราะห์ การโปรโมท เพื่อให้สินค้าของลูกค้าเป็นที่รู้จัก มียอดขายเพิ่ม และช่วยให้ธุรกิจเติบโต

8. ธุรกิจแบบดูแลสุขภาพ

เทรนด์รักสุขภาพมาแรงอย่างสุดๆ ณ เวลานี้ ทั้งการกิน และการดูแลร่างกาย ซึ่งบอกได้เลยว่า ธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพ ล้วนแล้วแต่ประสบความสำเร็จจริงๆ และหากคุณก็เป็นอีกคนที่สนใจ รักในการดูแลสุขภาพ การออกกำลังกาย และต้องการแบ่งปันความรู้ หรือสอนให้คนอื่น รักสุขภาพด้วยเช่นกัน อาชีพเทรนเนอร์ก็น่าจะตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้

อีกทั้งคุณยังสามารถทำให้เป็นธุรกิจได้ด้วย เช่น เปิดยิม รับเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัว หรือเป็นเทรนเนอร์ออนไลน์ แต่การจะเป็นเทรนเนอร์ได้ คุณต้องเรียน และจบหลักสูตรให้ถูกต้องเสียก่อนนั่นเอง

9. ธุรกิจแบบฟรีแลนซ์

หลายธุรกิจจะให้ความสำคัญกับนักเขียนบทความ เพราะเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ช่วยสร้างคอนเทนต์ สร้างเรื่องราว Story ของสินค้าให้คนสนใจ ส่วนมากผู้ทำอาชีพนี้ จะเป็นฟรีแลนซ์ที่สามารถรับงานได้หลากหลาย สำหรับใครที่มีความสามารถทางด้านการเขียน อาชีพนักเขียนบทความ ก็เป็นอาชีพที่จะช่วยให้คุณสร้างเป็นธุรกิจได้เหมือนกัน เช่น นอกจากจะรับเขียนบทความแล้ว คุณสามารถเขียนหนังสือ เขียนงานวิชาการ แต่งนิยาย หรือทำ E-Book ขายก็ได้ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ลงทุนค่อนข้างน้อย แต่ใช้ความอดทนและวินัยค่อนข้างมาก

10. ธุรกิจแบบความงาม

อย่างที่บอกไป ว่าทุกวันนี้สื่อออนไลน์เข้าถึงทุกพื้นที่ ทุกเพศ ทุกอายุ จึงทำให้เกิดอาชีพ และธุรกิจใหม่ๆมากมาย ที่เกี่ยวกับสื่อออนไลน์ เพื่อสร้างรายได้จากตรงนี้ บิวตี้บล็อกเกอร์ก็เช่นกัน ที่เป็นอีกหนึ่งอาชีพฮอตฮิตตอนนี้ เพียงแค่คุณมีความรักในการแต่งหน้า มีความสามารถในการพูด การอธิบาย การให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เกี่ยวกับการแต่งหน้าและเครื่องสำอางต่างๆ รวมถึงการสร้างคอนเทนต์ เพื่อนำเสนอแก่ผู้ชมอย่างสร้างสรรค์ด้วย ปัจจุบันนี้ มีบิวตี้บล็อกเกอร์มากมาย ที่เติบโตและพัฒนา จนธุรกิจประสบความสำเร็จนั่น

แต่ก็ต้องมีคุณสมบัติบางอย่างด้วยดังนี้:

  • มีความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างดีในธุรกิจที่จะทำ

  • มีใจรักในงานบริการ

  • มีความซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา

  • เป็นคนขยัน มีวินัย

  • มีความพยายาม และอดทน

  • มีวิสัยทัศน์ มองการณ์ไกล

  • มีความเป็นผู้นำสูง

  • มีความรับผิดชอบ ยกตัวอย่างเช่น

  • ลักษณะงาน(ธุรกิจ) = รับตัดหญ้า

  • ต้นทุน = เงินเริ่มต้น 10,000 บาท

  • กำไร = หักค่าใช้จ่าย กำไร 250 บาทต่อหลัง

  • กลุ่มเป้าหมาย = ผู้ที่อยู่อาศัยในเขตศรีราชา

  • ความเสี่ยง = คู่แข่งมีเยอะเพราะทำได้ง่าย, ช่วงหน้าแล้งหญ้าโตช้า

  • เทคนิค = บริการดี เก็บรายละเอียดงาน ไม่ตกหล่น ทำงานตรงต่อเวลา

  • ต่อยอดได้ไหม = สามารถต่อยอดเปิดเป็นธุรกิจที่มั่นคงได้ เพราะโครงการบ้านมีขึ้นตลอด และหญ้าโตเร็วมาก

สรุป: เราจะเลือกธุรกิจที่เหมาะกับเราได้อย่างไร?

สรุป: เราจะเลือกธุรกิจที่เหมาะกับเราได้อย่างไร?

เราต้องดูว่าเราถนัดแบบไหนและชอบทำอะไรเพราะถ้าเราทำสิ่งที่เราชอบเราจะสนุกกับงานนั้นและมีรายได้ที่ดีมากและที่สำคัญ เราก็ต้องดูว่าเรามีคุณสมบัติอย่างที่ว่าไปหรือไม่ มี 8 อย่างที่เราต้องถามตัวเองว่าเรามีคุณสมบัตที่ดีแบบนั้นไหม ถ้าหากว่าเรามีคุณสมบัติแบบนั้น เราก็จประสบความสำเร็จในธุรกิจส่วนตัวของเราได้แน่นอน