การตัดสินใจผิดพลาดของคนเราในเรื่องต่างๆเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปกติ และมีให้เห็นกันเป็นประจำ ทั้งในชีวิต และธุรกิจ และมักจะเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เพราะอะไร ก็เป็นเพราะคนเราไม่สามารถในการกำหนดอนาคตได้ และชีวิตเราขึ้นอยู่กับความไม่แน่นอนตลอดเวลา  ต่อให้คิดรอบคอบก่อนแค่ไหน มีวิธีคิดที่เป็นระเบียบมากเท่าไหร่ ระวังแล้วระวังอีก ไม่วายยังเกิดความผิดพลาดขึ้นจนได้ สาเหตุหลักๆ ที่มักจะทำให้หลายคนตัดสินใจผิดพลาด มักจะเป็นสิ่งเราอาจจะมองข้ามด้วย เช่น  มองทุกอย่างสวยงามเกินไป หรือมองโลกในแง่ดีมากไป ความดื้อรั้นและดันทุรังของตัวเอง จัดลำดับความสำคัญผิดขั้นตอนไป มั่นใจตัวเองมากไปนิดนึง บางทีก็ตัดสินใจเร็วไปหน่อย หลายสิ่งเหล่านี้มีบ้างก็ดี แต่ถ้ามันมากเกินไปจะส่งผลให้เราตัดสินใจผิดพลาดได้บ่อยๆ ในบทความนี้จะให้รายละเอียดว่า สิ่งเหล่านี้แต่ละอย่างมีผลต่อการตัดสินใจอย่างไร?  เราจะแก้ไขได้โดยวิธีใด?  เพื่อจะไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำอีก.

1.มองทุกอย่างสวยเกินไป

1.มองทุกอย่างสวยเกินไป

การมองโลกในแง่ดี คือ การมองชีวิตในแบบที่ทุกอย่างมีแต่ความสวยงาม มีความสุข ความปลอดภัยชีวิตไม่เครียด ไม่กังวล มองคนอื่นในแง่ดีไปหมด นิสัยนี้ช่วยทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพดีขึ้น สร้างพลังในแง่บวกให้กับตัวเอง ทำให้การใช้ชีวิตแต่ละวัน เต็มไปด้วยความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ไม่คิดร้ายกับใคร และก็คิดด้วยว่า ไม่มีใครคิดร้ายกับตัวเองด้วย มองว่าทุกคนคงจะเป็นเหมือนตัวเอง ที่ใจดี มีน้ำใจชอบช่วยเหลือ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เอารัดเอาเปรียบ ความคิดแบบนี้ดีต่อใจจริงๆ แต่หารู้ไม่ว่าการมองทุกอย่างในแง่ดีไปหมด มองโลกสวยเกินไป จะทำให้เราอยู่ยากมากขึ้น เพราะคนในสังคมปัจจุบันถือว่า เงินสำคัญกว่ามิตรภาพ เห็นแก่ตัว จ้องแต่จะเอาเปรียบ ถ้าเรายังมองโลกสวยเกินไปตลอดเวลา จะทำให้ตัวเองเจอกับปัญหา เพราะเราจะประมาท  ถูกหลอก ถูกโกงได้ง่ายขึ้นเพราะใครพูดอะไร ชวนไปไหน หรือให้ทำอะไร เราจะไม่ระแวง ไม่สงสัยเจตนาที่แอบแฝงของเขาจนทำให้เราตัดสินใจผิดพลาดได้ง่ายขึ้น หรือมองว่าธุรกิจทุกอย่างจะต้องเติบโตไปในทางที่ดี และตัดสินใจเพิ่มทุน

การมองโลกสวยไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายเสมอไป แต่มันจะนำพาเราไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดง่ายขึ้น ถ้าตัวเรามีแนวโน้มเป็นคนที่มองโลกสวยเกินไป อาจจะต้องระวังมากขึ้นเพราะสังคมมันเปลี่ยนไปแล้ว ควรมองตามความเป็นจริง มองแบบพอดี ในโลกใบนี้ไม่มีสิ่งไหนจะเป็นไปตามที่ใจเราคิดไว้ และคงไม่มีใครที่สามารถหลีกเลี่ยงความผิดหวังได้ การมองโลกสวยมีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวมันเอง ถ้าเรามองทุกอย่างในแง่ดีเกินไปเราจะไม่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง การมองตามความจริงจะช่วยเราไม่ประมาทกับชีวิต และธุรกิจ.

2.ความดื้อรั้นของตัวเอง

2.ความดื้อรั้นของตัวเอง

ความดื้อรั้นเป็นพฤติกรรมที่เรามักจะเห็นบ่อยในสังคม และในที่ทำงาน ความดื้อเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะแต่ละคนมีระบบ วิธีคิด ประสบการณ์ที่สะสมมาแตกต่างกัน ทำให้บางคนไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ปฎิเสธหัวชนฝา ความดื้อรั้นมีประโยชน์ในบางสถานการณ์ และบางกรณีเท่านั้น เช่น ถ้าเราแน่ใจว่าเราเป็นฝ่ายถูก หรืออยากปกป้องสิ่งที่มีค่าบางอย่าง ความดื้อรั้นจะช่วยเราให้เป็นคนที่เด็ดขาด ไม่ลังเล และเอนเอียงไปกับสิ่งรอบตัวได้ยาก และมีความพยายามสูง และจะไม่ถูกเอาเปรียบได้ง่ายๆ การเป็นคนดื้อรั้นในกรณีนี้จะมีประโยชน์ และความดื้อรั้นจะเป็นประโยชน์มากน้อยขนาดไหนขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ์ด้วย แต่ถ้าความดื้อรั้นนั้นอยู่เหนือการควบคุม และส่งผลเสียต่อตัวเองและคนอื่นเราต้องรีบหาวิธีควบคุมมันให้ได้ ถ้านิสัยดื้อรั้นของเราเป็นคนไม่ยอมฟังใครและอาจจะไม่เห็นด้วยกับความคิดของคนอื่น เราควบคุมได้โดย ฟังโดยไม่ตัดสิน มองในแง่มุมใหม่ พยายามสบสายตาเมื่อคนอื่นกำลังพูด วิธีนี้จะช่วยคุณตั้งใจฟัง ไม่ขัดจังหวะเมื่อคนอื่นกำลังพูดควรจะรอจนเขาพูดให้จบก่อน และคอยเตือนตัวเองเสมอว่า ความคิดของเราไม่ได้ถูกต้องเสมอไป และยอมรับว่าเราไม่มีทางรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง  ยอมรับว่าเราต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอถึงแม้เราจะรู้มาบ้างแล้วก็ตาม เรามีความคิดเห็นได้ แต่เราไม่สามารถคาดหวังให้คนอื่นเห็นด้วยกับเราทุกครั้ง และไม่มีใครชอบคนที่รู้ไปหมดทุกเรื่อง ความดื้อรั้นของเราจะทำให้คนอื่นไม่ไว้ใจ  ไม่มีใครอยากคบหา เพื่อลดความผิดพลาดในการตัดสินใจ เราควรจะเป็นคน ถ่อมตัว ยอมรับฟังเหตุผลของคนอื่นด้วย

3.จัดความสำคัญผิดขั้นตอน

3.จัดความสำคัญผิดขั้นตอน

การจัดลำดับความสำคัญผิดขั้นตอน มีผลต่อการตัดสินใจที่ผิดพลาดได้มากที่สุด บางทีเราอาจจะไปโฟกัสสิ่งที่เป็นรายละเอียดปลีกย่อยมากเกินไป แล้วมองข้ามสิ่งที่สำคัญกว่าไป คนเราส่วนใหญ่มักจะมีพฤติกรรมตอบสนองต่อเรื่องที่เร่งด่วนที่อยู่เหนือกว่าสิ่งที่ต้องทำมากกว่าที่จะรับผิดชอบต่อเรื่องที่สำคัญ กิจกรรม หรืองานที่สำคัญควรจัดเอาไว้ในลำดับแรกๆ เพราะสิ่งนั้นมีผลและสำคัญกับเป้าหมายและความสำเร็จในชีวิต ส่วนงานที่เราอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนนั้นมักจะใช้เวลาช่วงสั้นๆ และอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายหลักของเราโดยตรง บางทีอาจจะทำให้เราเสียเวลา เพราะเราหลงประเด็น คนส่วนใหญ่ที่ผิดพลาด เพราะไม่ได้ใส่ใจการจัดลำดับความสำคัญ อะไรก่อน อะไรหลัง ถ้าเราไม่อยากผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำอีก เราต้องลงมือเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการเริ่มต้น วางแผนลงมือทำก่อนล่วงหน้าโดยที่ไม่ต้องรอตัวกระตุ้น โดยการเขียนโน๊ต และทำรายการสิ่งที่ควรทำก่อนเอาไว้ในลำดับต้นๆ ขีดฆ่าสิ่งที่ไม่สำคัญในแพลน ออกไปบ้างเพื่อจะได้มีเวลาให้กับสิ่งที่สำคัญกว่ามากขึ้น ถ้าเราจัดลำดับความสำคัญได้ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นในชีวิตประจำวัน หรือในหน้าที่การงานเราจะประหยัดเวลา และทรัพยากรไปได้อีกเยอะ และลดความผิดพลาดได้อย่างมากมายเลยที่เดียว.

4.มั่นใจในตัวเองมากไป

4.มั่นใจในตัวเองมากไป

ความมั่นใจในตัวเองเป็นสิ่งที่ดี เป็นแรงผลักดันให้เราเป็นคนกล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจ กล้าแสดงออก  ทำให้พร้อมในการเผชิญกับอุปสรรคได้ดี เมื่อมีปัญหาจะหาทางแก้ ไม่ใช่หาทางหนี  และตัดสินคนอื่นน้อยลง เป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆคน เพราะคนที่มีความมั่นใจในตัวเองมักจะดูดีมีเสน่ห์ มีความคล่องแคล่ว กระฉับกระเฉงเมื่อทำงานด้วยรู้สึกมีพลัง  แต่การเป็นคนมั่นใจในตัวเองมากเกินไปก่อผลเสียมากมายด้วย ส่วนใหญ่แล้วในสังคมเราจะพบเห็นคนที่มั่นใจในตัวเอง 4 แบบ

1.เป็นตัวของตัวเอง นี่เป็นธรรมชาติของคนที่ไม่แสแสร้ง ทำอะไรแล้วมีความสุขก็ทำ ไม่เรียกร้องความสนใจ หรือทำเพื่อเอาใจใครบางคน หรือทำเพราะอยากเป็นคนสำคัญ 2.มั่นใจในตัวเอง กลุ่มนี้จะเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเอง รู้สึกดีกับตัวเอง ไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครกล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ  ยอมรับความผิดพลาดได้ ยอมรับข้อบกพร่องของตัวเองได้ พร้อมจะยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น พร้อมเรียนรู้ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ 3.มั่นใจในตัวเองมากเกินไป กลุ่มนี้เข้าข่ายหลงตัวเอง มักจะพูด และทำอะไรแบบไม่คิด เพราะเชื่อมั่นในตัวเองสูงเกินไป คิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่นเสมอ ไม่ชอบถูกเปรียบเทียบ ไม่ชอบให้ใครมาวิจารณ์ ยอมรับความผิดพลาดไม่ได้ ยอมรับความเป็นจริงไม่ได้ คิดว่าตัวเอง เพอร์เฟรคที่สุด 4.ลืมตัว กลุ่มนี้ชอบโอ้อวดตัวเอง ชอบสร้างภาพ ชอบเอาชนะ และดูถูกคนอื่น ไม่ถ่อม หยิ่งทะนง อวดดี อวดรวย ทะเยอทะยานมากเกินไป คาดหวังสูง แต่ยอมรับความผิดหวังไม่ได้

ความมั่นใจในตัวเอง มีประโยชน์ต่อชีวิต และหน้าที่การงาน ดูเป็นคนที่น่าไว้ใจ เชื่อถือได้ ใครๆก็อยากอยู่ใกล้ แต่คนที่มีความมั่นใจในตัวเองมากเกินไปมักจะ ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของใคร คิดว่าตัวเองต้องถูกเสมอ ทำให้คิดไม่รอบคอบและตัดสินใจ ผิดพลาดได้ง่าย และบ่อย ถ้าเราเป็นแบบนี้ เราอาจจะไม่มีความสุข เพราะคนอื่นไม่อยากจะเข้าใกล้ ในเมื่อเรามีความรู้ความสามารถ และมั่นใจในความสามารถนั้น เราก็ควรใช้มันในแบบที่เสริมสร้างตัวเอง ไม่ใช่เพื่อทำลายตัวเอง

5.ตัดสินใจเร็วไปหน่อย

5.ตัดสินใจเร็วไปหน่อย

คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่เขาจะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ การตัดสินใจเร็ว คิดเร็ว ทำเร็ว แต่มีความรอบคอบด้วย เมื่อเจอเรื่องที่ต้องตัดสินใจ เขาจะถามตัวเองเสมอว่า ถ้าตัดสินใจไปแล้วจะได้อะไร ? จะได้รับความเสียหายมั้ย? และยอมรับความเสียหายนั้นได้มั้ย? ถ้าคำตอบว่าใช่ ตัดสินใจทำเลย  การตัดสินใจเร็วมีผลดีหลายอย่าง มีบางเรื่องที่การตัดสินใจเร็ว และลงมือมำเร็วแล้วเกิดผลดี  เช่น การจัดการเรื่องหนี้สิน ยิ่งเราตัดสินใจเครียหนี้สินให้หมดก่อนเวลาได้เร็วเท่าไหร่ ก็ประหยัดดอกเบี้ยได้อีกเยอะ การซื้อบ้านก็เหมือนกัน ถ้าตัดสินใจซื้อเร็วจะช่วยลดภาระในอนาคตได้ ถ้าผ่อนบ้านหมดเร็วเราก็มีโอกาสเก็บเงิน เพื่อทำอย่างอื่นได้อีก และการตัดสินใจ เก็บเงินเอาไว้ใช้ยามเกษียรณเร็วๆ ก็มีผลดีเพราะทำให้มีเวลาเก็บนาขึ้นการตัดสินใจเร็วในเรื่องเหล่านี้ย่อมเป็นผลดีกับคุณแน่นอน แต่การตัดสินใจเร็วไปหน่อย ในเรื่อง การซื้อรถ การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง การเลือกคนที่จะแต่งงานด้วย การตัดสินใจลาออกจากงาน หรือแม้กระทั่งการหย่า อาจจะนำความผิดพลาดอันใหญ่หลวงมาสู่ตัวคุณ อาจจะทำให้คุณลำบากได้ และเสียใจและเจ็บปวดไปอีกนาน เพราะฉะนั้น การตัดสินใจเร็วดีกับบางเรื่องเท่านั้น แต่ในชีวิตความเป็นจริงการตัดสินใจเร็วเกินไป ย่อมก่อความผิดพลาดได้เสมอ ก่อนตัดสินใจทุกครั้งต้องชั่งน้ำหนักให้ดีก่อนระหว่างผลดี และผลเสียที่จะตามมา เพื่อจะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลัง และอาจจะไม่มีโอกาสในการแก้ตัวอีกก็ได้

ความผิดพลาดเราสามารถจัดการได้

ความผิดพลาดเราสามารถจัดการได้

ในชีวิตของเรามีหลายสิ่งที่ต้องคิด ต้องทำ ต้องเลือก และตัดสินใจ ถึงแม้จะมีการคิดอย่างรอบคอบ และอย่างดีแล้วก็ตาม ไม่วายยังเกิดความผิดพลาดขึ้นจนได้ แต่เราจำเป็นต้องยอมรับความเป็นจริงอย่างหนึ่งให้ได้ว่า เราไม่สามารถกำหนดทุกเรื่องให้เป็นไปตามที่เราต้องการได้ ความผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้เสมอไม่ว่าจะป็นใคร แต่เราอาจจะยอมรับได้ถ้าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมันอยู่เหนือการควบคุมของเรา แต่ยังมีความผิดพลาดอีกหลายอย่างที่เราควรระวัง เพราะเกิดจากนิสัยส่วนตัวของเรา เช่น การมองโลกสวยเกินไป ความดื้อรั้นของตัวเองที่อยากจะเอาชนะ ความมั่นใจในความสามารถ และประสบการณ์ของตัวเองมากเกินไป  และการจัดลำดับความสำคัญผิดขั้นตอน ถ้าผิดพลาดเกิดจากนิสัยส่วนตัวนี้ เราต้องรีบจัดการและเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ เพื่อที่จะไม่ต้องเจอกับความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำอีก.