เคยมีคนพูดเอาไว้ว่า “ความฝันของฉันมันยิ่งใหญ่กว่าการเป็นคนรวย! ” ความหมายที่ว่า ทำให้เราคิดต่อได้อีกว่า การมีเงินเยอะๆ อาจไม่ได้ตอบโจทย์ความสุขในชีวิตอย่างแท้จริง! ดังนั้น ถ้าเราจะพูดถึงเป้าหมายในการลงทุน เพื่อหาเงิน มันจึงไม่ใช่แค่ตอบคำถามว่า เราต้องมีเงินเท่าไหร่? แต่เป็นคำถามว่า ชีวิตที่เป็นอิสระภาพทางการเงินของเราจริงๆแล้ว ต้องใช้เงินเท่าไหร่? ต่างหาก..บทความนี้จะชวนเรามาวิเคราะห์ วิธีวางแผนการเงินแบบที่เพิ่มความสุขในชีวิตให้กับเหล่ามนุษย์เงินเดือน ที่จะช่วยเราสร้างอิสระภาพทางการเงิน และความสุขในชีวิตไปได้พร้อมๆกัน รู้ไว้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อที่ก่อนจะก้มหน้าก้มตาหาเงิน เราจะไม่ได้เอาเงินมาเป็นตัวกำหนดการเลือกทางเดินชีวิตของเราแล้วไม่มีความสุขเอาซะก่อน อย่ารอช้า มาเช็คลิส แนวคิดดีๆกันเลย…
เงินไม่ใช่เป้าหมายหลัก
แม้แต่นักแสดงที่มีชื่อเสียงและโด่งดังที่สุด อย่าง Jim Carrey ยังเคยบอกว่า ‘เงินไม่ใช่คำตอบของทุกสิ่งทุกอย่าง แม้ทุกคนจะตั้งเป้าหมายเพื่อจะมีเงินเยอะๆ แต่ปลายทางกลับเป็นความว่างเปล่า..’ เราจึงรู้เลยว่า จริงๆแล้ว เงินไม่ได้มีความหมายในตัวเอง แต่อยู่ที่ว่า เรานำเงินไปซื้อสิ่งที่มีความหมาย ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ และรู้จักแบ่งปันให้กับคนอื่น สิ่งนี้ต่างหาก ทำให้เราเดินทางไปสู่อิสระภาพทางการเงิน และมีความสุขในชีวิตได้จริง
แต่ก็อาจมีคนจำนวนไม่น้อย ที่แย้งว่า คนที่รวยแล้วก็พูดได้นะสิ! ยังไม่ใกล้ตาย ก็หาเงินเยอะๆไปก่อน! หรือไม่ก็โทษสมองไปว่า ไม่ยากทำอะไรที่มันยากๆ หรือคิดเยอะๆให้เหนื่อยสมอง แค่ตั้งเป้าหมายหาเงินไปก่อน ถ้ามีเงินแล้วเดี๋ยวก็ซื้อความสุขได้เอง ในส่วนนี้อาจจัดเป็นความมักง่าย หรือการหาเหตุผลเข้าตัวเองซะมากกว่า เราจึงต้องดึงสติ และอย่าหลงไปกับคำชักชวนแนวนั้น เพราะ.. การมีเงินเยอะ ยิ่งมีความสุข มันเป็นจริงในช่วงแรก เท่านั้น!! ถึงเราจะสามารถสนองความอยาก และเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้อิ่มพอประมาณ แต่ความอิ่มใจ มันสร้างกันได้ยากกว่า เหมือนกราฟความสุข ที่นักวิจัยเคยพูดเอาไว้ว่า ประเทศที่มีรายได้เฉลี่ยสูงที่สุด ประชากรจะมีความสุขมากกว่าประเทศที่มีรายได้น้อย แต่..เมื่อถึงจุดหนึ่ง ความร่ำรวย ก็ไม่ได้แก้ปัญหาและทำให้มีความสุขเสมอไป หลายคนยังต้องหาความหมายของชีวิตกันต่อไป
สรุปง่ายๆ ก็คือ การมีอิสระภาพทางการเงินของเราจะเพิ่มความสุขได้จริง แก้ปัญหาหลายอย่างในชีวิตได้ง่ายขึ้น แต่จำนวนเงินที่เพิ่มขึ้น ก็ต้องสอดคล้องว่า เรานำเงินไปทำอะไรต่อ สร้างความอิ่มใจให้เรารึยัง เพราะตามสถิติ คนที่ยังมีเงินเป็นเป้าหมายหลักของชีวิต มักจะลงทุนได้ผิดพลาด เนื่องจากการลงทุนก็มีความเสี่ยง เป็นอะไรที่เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ หลายคนจึงไม่อาจทนเห็นความผันผวนได้ พอเงินลด ทำให้ความสุขก็ลดตาม. เราจึงต้อง วางเป้าหมายการเงินให้ถูกทาง ค้นหาว่าอยากทำอะไรในชีวิตกันแน่ แล้วให้เงินสร้างความสุขตรงนั้นให้เรา เพราะบางที อาจไม่ต้องใช้เงินมากเท่าที่หวังไว้ เราก็มีความสุขแท้ สร้างชีวิตแบบที่เราอยากเป็นได้แล้ว
การสร้างกำไรด้วยความสุข
ใครที่เคยมีไอเดียในการสร้างเงินล้านมาบ้างแล้ว อาจจะเคยเจอสถานการณ์ หุ้นขึ้น ได้กำไร ก็ดีใจ แต่พอหุ้นตก กำไรลดฮวบ เราก็เสียใจ มันก็เป็นอะไรที่วนไปวนมา แต่พอเวลาผ่านไปนานเข้าๆ กลับเป็นว่าเราอยู่ตรงกลางๆ ไม่ได้มีความทุกข์ หรือเพิ่มความสุขได้ไปกว่านั้นเลย.. อย่าพึ่งท้อกันไป เราไม่ควรมานั่งเสียใจนาน เคยมีคำพูดเชิงจิตวิทยาที่บอกว่า Happiness Set Point ก็คือ เส้นวัดระดับความสุข แม้จะมาก หรือน้อย ก็คงไม่เท่ากันในแต่ล่ะคน แต่เราต้องรู้จักวิธียกระดับเส้นนี้โดยไม่หยุดนิ่งต่างหาก
สิ่งที่เราทำได้คือ ‘เลือกวิธีใช้เงิน’ เมื่อเงินไม่สามารถซื้อความสุขได้เสมอไป มันจึงขึ้นอยู่วันวิธีการใช้เงินของเราให้ถูกต้อง จากที่เคยซื้อเพื่อสนองความอยากก่อนสิ่งอื่นใด เสื้อผ้า สิ่งของ เพชร นิลจินดา หรือเครื่องประดับ ความสุข เราอาจลด และไม่มีกำไรเพิ่ม แต่ถ้าเราเอาไปบริจาค หรือช่วยคนที่ตกทุกข์จริงๆ หรือสร้างทริปในฝันดีๆกับครอบครัว สิ่งนี้จะทำให้กราฟความสุขเราพุ่งทะยานเลยล่ะ. หรือแม้แต่ระดับราคาหุ้นมันผันผวนปั่นป่วน แต่ถ้าเรารู้ว่ากำลังทำไปเพื่อใคร ไม่ใช่แค่ตัวเอง ก็จะไม่ได้คิดถึงแต่กำไร ขาดทุน จนเกินไป แต่รู้ว่า กำลังพยายามเพื่อคนที่เรารักอยู่
คราวนี้ ถึงเราจะเจอกับ ราคาตลาดหุ้นที่ผันผวน เรื่องเศรษฐกิจโลกที่ดูมีแนวโน้มจะแย่ลงๆ สงครามการค้า หรือความขัดแย้งของประเทศในแถบตะวันออกกลาง เราก็ยังทำให้วันดีๆ ของเรามีกำไร เพื่อก้าวสู่อิสระภาพทางการเงินที่ฝันไว้ และให้ความสุขวนไปวนมาอย่างนี้
ความหมายการเงิน และความหมายชีวิต ที่เราต้องคิดเพื่อความสุขในการทำงาน!
เราจะเห็นว่า เป้าหมายในการลงทุนและการวางแผงอย่างดีเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อที่จะรู้ว่า ทิศทางชีวิตของเราควรมุ่งไปทางไหน เหมือนการลงทุนแนวคิดแรก ถ้าเราไม่ได้ให้เงินเป็นเป้าหมายหลัก แต่ใช้เงินเพื่อสิ่งที่มีความหมาย ดูแลคนที่เรารัก ทำในสิ่งที่อยากทำ และรู้จักแบ่งปันให้คนอื่น สิ่งนี้จะทำให้เราเดินทางไปสู่อิสระภาพทางการเงิน และมีความสุขในชีวิตได้จริง ถึงขั้นอาจไม่ต้องใช้เงินมากเท่าที่หวังไว้ ก็สร้างชีวิตแบบที่เราอยากเป็นได้แล้ว. และวิธีการลงทุนแบบมีความสุขที่ได้ใช้เงินในแบบที่ถูกต้อง ในการรู้ว่ากำลังทำเพื่อคนที่เรารักอยู่ ก็เป็นการสร้างกำไรในชีวิต เราจะได้ไม่ยึดติดอยู่กับ คำว่า กำไร และ ขาดทุน จนหมดความสุขไปได้
สรุปง่ายๆว่า ปัจจัยในเรื่องการลงทุน เพื่อสร้างอิสระภาพทางการเงิน และมีความสุขในชีวิตอย่างทุกข้อที่กล่าวมา ก็คงไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้อใดข้อนึงเพียงอย่างเดียว ผลลัพธ์ที่ดีทุกอย่างต้องเกิดจากความสมดุล แม้เราไม่ใช่คนรวยที่สุด แต่เราจะมีความสุข ถ้าเรามีการวางแผนการเงินในแบบที่เพิ่มความสุขให้กับชีวิตมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา แล้วเราก็จะยิ่งออกแบบการลงทุนให้สอดคล้องกับความเป็นจริงในตอนนี้ได้ง่ายขึ้น และบรรลุได้ดังหวังด้วยนั่นเอง!
Tanutam
อย่างเเรกเลยเป้าหมายในการวางแผนการเงินแบบที่จะเพิ่มความสุข คือเราต้องเปลี่ยนความคิดแย่ๆในหัวเราก่อน ถ้าเราคิดเราเชื่อแบบไหน มันมีผลกระทบแน่ต่อวิธีการเก็บเงินของเรา เช่น ถ้าเราบอกว่าเก็บเงินไม่ได้ ทำไม่ได้ เราก็จะทำไม่ได้จริงๆ แต่ถ้าเราอยากจะทำสิ่งไหนให้ได้ผล เราต้องเชื่อมั่นไปเลยว่าเราจะทำสิ่งนั้นได้ ต้องเชื่อมั่นในตัวเอง และต้องรู้จักให้กำลังใจตัวเองให้ทำตามแผนได้สำเร็จ
Diloktham
ขอบคุณครับสำหรับแม่มุมใหม่ๆ จริงๆมนุษย์เงินเดือนความสุขกับการทำงานไม่ได้อยู่แค่เงินอย่างเดียวครับ บทความนี้ช่วยผมรู้ว่า การมีความสุขจากการทำงานก็เป็นสิ่งสำคัญด้วย สำคัญมากกว่าเงินที่จะได้รับด้วย เพราะจะช่วยให้ชีวิตของเราไม่น่าเบื่อ งานที่ทำก็ไม่น่าเบื่อ ใครทำให้ชีวิตของเรามีอะไรมากกว่าการทำงานไปอีก ขอบคุณมากเลยครับ
น้ำตาล
น่าสงสารมนุษย์เงินเดือนนะคะ เพราะว่าต้องทำงานซ้ำซากและจำเจอยู่เป็นประจำ ถึงแม้ว่าจะได้รับเงินในแต่ละเดือนแต่ก็ต้องต่อสู้กับความรู้สึกที่เบื่อของตัวเอง บางคนรู้สึกกดดันและไม่ได้รับความยุติธรรมในการทำงานรู้สึกอึดอัด แต่บทความนี้สามารถช่วยให้คลายกังวลและรู้วิธีรับมือกับปัญหาในการทำงาน แล้วช่วยให้เราสามารถทำงานอย่างมีความสุขได้ค่ะ
กชกร
เงินน่ะใครๆก็อยากมีอยากได้ แต่ถ้ามีแล้วใช้ไม่เป็นใช้ไม่ระวังมันก็หมดไปได้อยู่ดีหาเท่าไหร่ก็ไม่พอหรอก ถ้าหามาได้แล้วใช้เท่าที่มีอาจจะมีความสุขมากกว่าการที่มีเงินเยอะๆแต่ใช้เงินไม่ไป็นก็ได้นะคะ อันนี้แล้วแต่ความคิดของแต่ละคนเนอะ อย่างที่บทความนี้แนะนำ ถึงแม้จะเป็นเพียงมนุษย์เงินเดือนแต่เราก็สามารถมีความสุขในแบบของเราได้ค่ะ
จิมมี่
ผมทำงานฝ่ายบุคคลของบริษัทหนึ่งครับ ผมชอบบทความนี้จริงๆ ผมเองต้องดูแลพนักงานประจำในบริษัทหลายอย่างในฐานะฝ่ายบุคคล ปัญหาที่ผมเจอส่วนมากพวกเขาไม่ค่อบมีความสุขกับงาน ทำงานเหมือนหุ่นยนต์ และคิดแต่เรื่องเงินครับ ผมว่าการทำงานโดยมีความคิดแบบนี้น่าสงสารมาก ที่จริงงานแต่ละอย่างก็มีสิ่งที่เราจะมีความสุขกับมันได้ผมอยากเอาบทความนี้ไปให้พนักงานในบริษัทอ่านมากจริงๆ
ขนัตนันท์
ถ้าเราคิดแบบที่บทความนี้บอกได้ก็ดีสิ แต่ ในทางภาคปฏิบัติแล้วค่อนข้างที่จะทำได้ยากมากจริงๆ จริงอยู่เราอยากอยู่แบบมีความสุข แต่เนื่องด้วยสภาพความเป็นอยู่ของผู้คนในบ้านเรา ต่างก็ต้องดิ้นร้นกันทั้งนั้น ถ้าจะมีความสุขได้ เขาก็ต้องทุมแรงกายกับงานที่ทำแล้วค่อยมเาก็บหาความสุขเมื่อเขาคิดว่าทุกอย่างมีพร้อมแล้วจริงๆเท่านั้น
แอน
เป็นเคล็ดลับที่ดีนะคะสำหรับวิธีการทำงานแบบที่จะทำให้เรามีความสุข ตามปกติแล้วมนุษย์เงินเดือนก็จะทำงานแบบจำเจและเสริมสร้างประจำ และอาจจะมีปัญหากับเพื่อนๆในที่ทำงานได้ด้วย แทนที่เราจะเพ่งเป้าไปที่การทำงานอย่างเดียวก็ได้รับเงิน เราควรที่จะวิ่งเข้าไปที่การทำงานอย่างมีความสุขกับเพื่อนๆที่ทำงานด้วย ไม่อย่างนั้นแล้วสิ่งที่ตามมาก็คือความเครียดนั่นแหละค่ะ
เอ็ม
จริงๆแล้วเป้าหมายของการทำงานไม่ใช่เงินอย่างเดียวครับ แต่รวมไปถึงสุขภาพจิตดีด้วย บทความนี้ช่วยเปิดโลกกะทัดผมให้ได้เข้าใจมากขึ้นเลยทีเดียวว่า เงินไม่ใช่ทุกสิ่ง เงินไม่ใช่พระเจ้า สุขภาพของเราสำคัญกว่า เพราะว่าถ้าเครียดมากเกินไปกับการทำงานหรือไม่มีความสุข เงินที่หามาได้ก็จะไปหมดกับตรงนั้นล่ะครับ ดูแลตัวเองตั้งแต่ตอนนี้
ภัครินทร์
"การมีเงินเยอะๆ อาจไม่ได้ตอบโจทย์ความสุขในชีวิตอย่างแท้จริง" อันนี้เห็นด้วย 100% เลยคะ คนที่มีเงินเยอะใช่ว่าจะมีความสุขนะคะ ไม่เชื่อ ลองๆดูคนที่มีเงินเยอะๆดูสิ จริงอยู่เขาอาจจะมีทุกอย่างที่เขาอยากได้ มีบ้าน มีรถยนต์ แต่สิ่งหนึ่งที่เรามักเจอในข่าวคือ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับคนในครอบครัว ดังนั้นเราว่า จนแต่มีความสุข ดีกว่า
เขียว
สำหรับมนุษย์เงินเดือนการทำงานแบบจำเจถือว่าเป็นเรื่องนึงที่น่าเบื่อในการทำงานมากเลยนะคะ ทำอย่างไรล่ะคะที่จะทำให้มีความสุขระหว่างการทำงานและทำงานที่ทำอยู่ทุกวันทำให้มีชีวิตชีวาหรือไม่น่าเบื่อ ก็ต้องสร้างแนวคิดใหม่ๆในการทำงาน หรือหาวิธีที่จะทำงานแล้วรู้สึกมีความสุขนะคะ ไม่อย่างนั้นสิ่งที่ตามมาก็คือเสียสุขภาพจิตหรือไม่สบายไปด้วย
Mint
@เขียว ชอบในส่วนนี้เหมือนกันเลยค่ะ การทำงานให้มีความสุข เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราทำงานได้นานนาน แต่ถ้าเราทำไปด้วยความเบื่อหน่ายหรือว่าความทุกข์เราก็จะคิดหางานใหม่เรื่อยๆ ถึงแล้วงานใหม่ๆก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีความสุขนะเราอาจจะเครียดกว่าเดิมก็ได้เพราะต้องไปเริ่มทำอะไรใหม่ๆเจอผู้คนใหม่ๆและการทำงานในช่วงที่ก็มีปัญหาหมดนั่นแหละ
ประถมพงษ์
บทสรุปของบทความนี้ สั้นแล้วก็ตรงจุดดีครับ ที่บอกว่า "ผลลัพธ์ที่ดีทุกอย่างต้องเกิดจากความสมดุล" อันนี้บอกทุกอย่างเลยครับ ว่าเราจะมีความสุขหรือว่าไม่มีความสุขครับ บางครั้งคนที่รวยล้นฟ้าก็ไม่ได้มีความสุขเสมอไปนะครับ ในทางตรงกันข้ามคนที่จนแทบไม่มีอะไรเลย เขากลับมีชีวิคแบบที่มีความสุข ที่เรียกว่าเงินก็ไม่อาจซื้อได้
PAPER
@ประถมพงษ์ อืม...จริง... ความสมดุลสำคัญ ความสุขจะเป็นตัววัดนะว่าเราประสบความสำเร็จรึป่าว? เงินไม่ใช่ตัววัดนะ ผมคิดว่างั้น ผมว่าคุณคงคิดเหมือนผม ถ้าพอใจแล้วก็จบ แต่คนที่ไม่เคยพอมันไม่จบก็จะเหนื่อยกว่า อันนี้เห็นมาจากคนที่รู้จักที่พยายามหาเงินเยอะๆจนไม่มีเวลาสำหรับการหาความสุข ชีวิตแบบนั้นผมไม่เอาด้วยละคนนึง
(picpic(
ความสมดุลนี่แหละสำคัญ ทุกคนควรต้องมีจุดนี้ แต่ในความเป็นจริงก็คือ หลายคนยังหาจุดที่เป็นความสมดุลของตัวเองไม่เจอ ชีวิตเลยจะสับสนหรืออาจจะยุ่งๆนิดนึง ดีค่ะที่มีบทความแบบนี้มาแนะนำจะได้ช่วยให้มีการวางแผนการเงินแบบที่เพิ่มความสุขในชีวิตได้ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือว่าทำอาชีพส่วนตัว ใครๆก็อยากมีความสุขทั้งนั้น
ตัวต่อ
จะเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือไม่ บทความนี้ก็เป็นประโยชน์กับคนที่เข้ามาอ่านมาอ่านนะครับ ผมว่าหลายคนคงหันมาสนใจเรื่องการวางแผนการเงินกันมากขึ้นแล้วล่ะ รวมถึงตัวผมเองด้วย คนที่วางแผนเรื่องการเงินมาก่อนหน้านี้คงพอรับมือได้เมื่อเจอกับเศรษฐกิจผันผวนช่วงที่มีโรคระบาด ผมเองก็กระเทือนไปพอสมควร ตอนนี้ต้องวางแผนให้ดีละครับ
แสนรัก:)
การเลือกวิธีใชเงินตามที่บทความนี้แนะนำมาน่าสนใจดีนะคะ หลายคนคิดไม่ถึงอะว่าการทำแบบนั้นมันจะช่วยเราได้ วิธีคิดเนี่ยมันสำคัญจริงๆเนอะ จริงๆแล้วบทความนี้ไม่ใช่แค่การวางแผนการเงินเพื่อเพิ่มความสุขของมนุษย์เงินเดือนเท่านั้น คนที่ทำอาชีพอะไรก็ตามลองมาอ่านดูได้ค่ะ มีอะไรหลายอย่างที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์กับคุณนะ
Nilapas#%
หลายคนคิดว่าเงินคือสิ่งที่ทำให้มีความสุขเพราะเราสามารถเอาเงินไปซื้ออะไรก็ได้ที่เราชอบแล้วเราก็จะมีความสุข ซึ่งมันก็จริงค่ะ แต่ความสุขนั้นเป็นความสุขที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เพราะว่าเรามีของที่อยากได้อยู่ตลอดเวลา การที่ต้องหาเงินมาตอบสนองความต้องการของตัวเองมันจะเหนื่อยมากเลยอะ ความสุขที่แท้จริงมันไม่น่าต้องเหนื่อยขนาดนั้นนะ
2Kajit/]
การมีความสุขกับเงินที่เรามีอยู่เป็นเรื่องสำคัญจริงๆ ถ้ามีเงินอยู่แค่นี้ แต่อยากได้เท่าโน่น มันก็แย่สิครับ ต้องลำบากไปหางานทำเพิ่ม ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอก็เจ็บป่วยอีก ผมไม่ได้หมายความว่าให้ทำงานแค่อย่างเดียวไม่ต้องไปหาอาชีพเสริมทำนะครับ ผมแค่อยากบอกว่าให้ทำงานและใช้เงินแบบพอดี ไม่ต้องหักโหมกับตัวเองน่ะครับ