ในช่วงที่ไวรัสโควิดกำลังแพร่ระบาด ส่งผลให้หลายๆคนไม่สามารถทำมาหากินได้ตามปกติ เพราะตกงาน ทำให้ขาดรายได้ แต่รายจ่ายก็ยังมีเหมือนเดิม เผลอๆจะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ และตอนนี้เราไม่รู้ว่าทางรัฐบาลจะควบคุมการแพร่ระบาดได้เมื่อไหร่? หรือจะปลดล็อคตอนไหน? ไม่มีใครให้คำตอบได้
เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆทุกคนที่กำลังเจอปัญหาอยู่ในตอนนี้ ในบทความนี้ดิฉันได้นำข้อมูลเกี่ยวกับวิธีหาเงินเพื่อประทังชีวิตในช่วงโควิดมาฝากกันค่ะ ดิฉันหวังว่าเพื่อนๆน่าจะได้ประโยชน์ถ้าอ่านและนำเอาใช้กับตัวเอง เช่น ยื่นใช้สิทธิรับเงินชดเชยจากประกันสังคม, ใช้บริการสินเชื่อฉุกเฉิน, ทำงานที่ได้ค่าจ้างรายวัน, มีอะไรในบ้านที่ไม่ได้ใช้ก็เอาไปขายเลย, แล้วก็ปรับรูปแบบชีวิตของเราให้เข้ากับสภาพการณ์ตอนนี้ และดิฉันหวังว่าวิธีเหล่านี้น่าจะช่วยให้เพื่อนๆได้มีเวลาหายใจต่อไปได้อีกอย่างแน่นอนค่ะ ขออ่านไปพร้อมๆกันเลยนะคะ เผื่อว่าจะมีวิธีไหนที่พอจะทำได้บ้างค่ะ
ยื่นใช้สิทธิรับเงินชดเชยจากประกันสังคม
ส่วนใหญ่เมื่อเราทำงานมักจะทำประกันสังคมกันอยู่แล้ว ในฐานะ ผู้ประกันตน มาตรา 33 เมื่อเกิดเหตุการณ์สุดวิสัย เช่นสถานการณ์ตอนนี้ ในฐานะลูกจ้าง หรือพนักงานประจำเราไม่ได้ทำงานเพราะถูกกักตัว 14 เนื่องจากสัมผัสใกล้ชิดผู้ที่ติดเชื้อโควิดและตกงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างเนื่องจากนายจ้างหยุดกิจการเอง หรือหยุดชั่วคราวเพราะได้รับคำสั่งจากทางการ เราสามารถลงทะเบียนใช้สิทธิเพื่อรับเงินชดเชยการขาดรายได้ ซึ่งเราจะได้รับเงินชดเชย 62% ของค่าจ้างรายวัน หรือไม่เกินเดือนละ 9,300 บาท เป็นเวลา 90 วันค่ะ
ส่วนคนที่ลาออกเอง จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 45% ไม่เกิน 90 วันค่ะ
ส่วนคนที่ถูกเลิกจ้าง หรือถูกไล่ออกจะได้รับเงินชดเชยการขาดรายได้ 70% ไม่เกิน 200 วันค่ะ
ส่วนการลงทะเบียน ให้เข้าไปในเว็บไซต์ www.sso.go.th แล้วกรอกข้อมูลตามขั้นตอนค่ะ แต่ถ้าเราลาออกเอง หรือถูกเลิกจ้าง เราต้องไปขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานด้วยนะคะที่ เว็บไซต์ กรมการจัดหางาน ภายใน 30 วันและต้องไปรายงานตัวเดือนละ 1 ครั้งด้วยนะคะ
ใช้บริการสินเชื่อฉุกเฉิน
ถ้าหากเพื่อนๆได้ลงทะเบียนใช้สิทธิรับเงินชดเชยแล้วแต่ยังไม่พอจ่ายหนี้ และไม่พอใช้จ่ายในช่วงที่ตกงาน และไม่มีสมบัติอะไรที่สามารถเอาไปขายหรือจำนำได้ ดิฉันอยากแนะนำให้ไปปรึกษาสินเชื่อฉุกเฉิน ซึ่งถือได้ว่าเป็นทางเลือกหนึ่งที่ทำให้เรามีเงินประทังชีวิตไปได้ สินเชื่อฉุกเฉินที่แนะนำจะเป็นธนาคารของรัฐ ค่ะ ดอกเบี้ยจะถูกเพราะเขาต้องการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบในช่วงนี้จริงๆ ตอนนี้มีสินเชื่อของธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส ค่ะ
ธนาคารออมสิน : คนที่มีอาชีพอิสระ สามารถกู้ได้ในวงเงิน 10,000 บาท ดอกเบี้ยเดือนละ 0.10% ผ่อนได้นานถึง 2 ปี และใน 6 เดือนแรกยังไม่ต้องชำระ และไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ในการค้ำประกันด้วยค่ะ
ส่วนผู้ที่มีรายได้ประจำ สามารถกู้ได้ 50,000 บาท ดอกเบี้ย 0.35% ผ่อนได้นานถึง 3 ปี แต่ต้องมีบุคคลหรือหลักทรัพย์ในการค้ำประกันด้วยค่ะ โดยสามารถลงทะเบียนได้ที่ www.gsb.or.th ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน – 30 ธันวาคม 2563
ธนาคาร ธ.ก.ส. : สำหรับคนที่เป็นเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบสามารถยื่นกู้เงินกับ ธ.ก.ส.ได้ในวงเงิน 10,000 บาท ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 0.10 % ต่อเดือน ไม่ต้องใช้หลักประกัน และไม่ต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ยใน 6 เดือนแรก มีระยะเวลาในการผ่อน 2 ปี 6 เดือน สามารถลงทะเบียนออนไลน์ผ่านทาง Line BAAC Family และเลือก COVID -19 ลงทะเบียนรับความช่วยเหลือจาก ธ.ก ส. หรือค้นหาได้จาก ID : @baacfamily .
ทำงานที่ได้ค่าจ้างรายวัน
เมื่อเราตกงาน เราก็ขาดรายได้ แต่รายจ่ายมันมีทุกวัน เพื่อจะมีเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวในช่วงที่ตกงาน เราต้องหาเงินเพิ่มโดยทำงานที่ได้ค่าจ้างเป็นรายวัน หรือรายสัปดาห์ เพื่อจะมีเงินใช้จ่ายวันต่อวันได้ ส่วนงานที่ได้รับค่าจ้างรายวันส่วนมากจะเป็นงานบริการค่ะ เช่น ขับรถส่งอาหาร ส่งพัสดุ ส่งเอกสาร เป็นแคชเชียร์ในเชเว่น รับพิมพ์งาน หรือคีย์ข้อมูล ทำงานฟรีแลนซ์ หรือรับจ้างดูแลเด็ก และดูแลผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ หรือรับทำความสะอาด งานซักรีดเสื้อผ้า ในช่วงนี้ถ้าเราไม่เลือกงาน ก็พอจะมีงานที่เราจะทำได้บ้าง ถึงแม้รายได้จะไม่มากก็ถือว่ายังได้เงินมาใช้จ่ายได้ทุกวัน
แต่ถ้ารู้สึกว่าเราไม่สามารถทำงานต่างๆที่บอกมาได้ และงานก็หายาก ดิฉันอยากแนะนำให้ไปสมัครฝึกงานกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งมีหลักสูตรฝึกอาชีพให้ 15 วัน มีทั้งการปลูกผักไฮโดร์โปลิกส์ บาริสต้ามืออาชีพ การใช้สมาร์ทโฟนเพื่อสร้างยอดขาย การสอนทำอาหาร ทำขนม นอกจากจะได้อาชีพติดตัวแล้วคุณยังได้เบี้ยเลี้ยงอีกวันละ 150 บาท ถ้าเพื่อนๆคนไหนสนใจ สามารถติดต่อได้ที่สถาบันพัฒนาฝีมืแแรงงาน และสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทุกแห่งทั่วประเทศค่ะ
มีอะไรที่ไม่ได้ใช้เอาไปขายเลย
ตามปกติตอนที่เรามีรายได้ เรามักจะซื้อสินค้า ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆเอาไว้เป็นจำนวนมาก เช่น ทีวี เครื่องเสียง โน๊ตบุ๊ก ถ้าเราคิดว่าไม่ได้ใช้ และมันยังอยู่ในสภาพดี ส่วนบางคนก็ชอบสะสม ของแบรนด์เนม ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ถ้าเห็นว่ามีเยอะแล้ว และไม่ค่อยได้ใช้ ก็เอามาโพสต์ขายทางออนไลน์ได้ อย่างน้อยก็พอมีเงินใช้จ่ายในช่วงนี้ได้บ้าง ส่วนบางคนชอบสะสมทอง ช่วงนี้เป็นโอกาสดีเพราะทองคำตอนนี้ราคากำลังขึ้นเอาไปขายก็ได้กำไรเยอะ ส่วนบางคนรู้สึกว่าของที่สะสมมานานเป็นของที่หายาก และเราก็รักของต่างๆเหล่านี้และรู้สึกเสียดาย ไม่อยากขาย ก็เอาไปจำนำก่อนก็ได้ค่ะ เมื่อมีงานทำ มีรายได้เราก็ไปไถ่คืนมา ตอนนี้โรงรับจำนำลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดด้วย ถ้าเงินต้นไม่เกิน 15,000 บาท เขาเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 0.125 เท่านั้นเอง สิทธินี้เริ่ม 1 เมษายน -31 พฤษภาคม 2563 เท่านั้นนะคะ
เปลี่ยนรูปแบบชีวิตอีกนิดชีวิตจะดีขึ้น
ไม่ว่าใครเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์แบบกลืนไม่เข้า คายไม่ออก ต้องตกงานแบบกระทันหัน ไม่ทันได้ตั้งตัว และตรียมใจทำให้รู้สึกเครียดและกังวลอย่างมาก ถึงแม้เราจะไม่สามารถทำอะไรได้อย่างที่เราต้องการในตอนนี้ แต่ก็มีอีกหลายอย่างที่เราสามารถทำได้ เพื่อเราจะมีเงินประทังชีวิตให้ผ่านช่วงโควิดไปได้ อย่างเช่น รับเงินชดเชยจากประกันสังคม กู้เงินจากสินเชื่อฉุกเฉิน เอาของในบ้านไปขาย และหารายได้เพิ่ม วิธีเหล่านี้สามารถช่วยเราได้ก็จริงอย่างน้อยก็ในช่วง 1-3 เดือนนี้ แต่วิธีที่สามารถช่วยเราได้อย่างถาวรและยั่งยืนก็คือ การปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตของเราใหม่ ตอนนี้อะไรๆก็ไม่เหมือนเดิมอีกเดิมอีกแล้ว ถ้าเราทำใจยอมรับความเป็นจริง และค่อยๆปรับเปลี่ยนตามทีละอย่างไปเรื่อยๆในที่สุดเราก็จะรับมือได้ และชีวิตของเราก็จะดีขึ้นตามไปด้วยอย่างแน่นอนค่ะ
Toys
เกือบตกม้าตายแล้วครับ เพราะโควิด-19 นั้นน่ากลัวมากๆจนตอนนี้ก็ยังหาทางออกไม่ได้ แต่ที่แน่ๆผมว่าต้องมีสักประเทศล่ะครับที่สามารถผลิตยารักษาออกมาได้ แต่จะถึงตอนนั้นก็ต้องหารายได้ให้มากที่สุด ผมได้ทำตามที่บทความนี้บอกแล้วถือว่าเป็นความคิดที่ดีเลย หลายๆอย่าง ต้องขอบคุณบทความนี้มากๆที่ทำให้ทางของผมไม่ใช่ทางตัน
วุฒิ
เป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากเหมือนกันนะครับสำหรับ ช่วงที่มีการติดต่อไวรัสโคโรน่า คือทำให้เราขาดรายได้ แล้วทำให้เราคิดหาทางออกโดยหมายผึ้งการใช้บริการของสินเชื่อหรือการยืมเงินกับคนอื่น นอกจากสองวิธีนี้แล้วยังมีวิธีอื่นๆอีก ที่สามารถช่วยเราให้มีเงินเพิ่มขึ้น บทความนี้ได้อธิบายถึงวิธีที่จะช่วยให้เราได้รับเงินเพิ่มขึ้นผมชอบก็คือการขายของที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว
มะขามหวาน
เวลาที่ตกที่นั่งลำบากคนเรามักคิดอะไรไม่ค่อยออก แต่การที่มีคำแนะนำต่างๆมาช่วยให้เห็นทางออกมันดีมากนะคะ งานประจำคงหายากหากมีงานรับจ้างชั่วคราวอะไรก็ตามทำได้ทำไปก่อนค่ะ ของบางอย่างในบ้านที่ไม่ได้ใช้ชิ้นไหนนำออกขายได้ขายไปก่อนค่ะ ถือโอกาสโละของไปด้วย นี่เราก็อยากทำเหมือนกันนะ เผื่อบ้านจะโล่งขึ้นแล้วยังได้เงินมาใช้ด้วยค่ะ
กระปุก
ขอเงินชดเชยจากประกันสังคม กับไปขอสินเชื่อ ฉุกเฉิน ของ ออมสินกับ ธกศ. อันนี้คงไม่ใช่ทางเลือกของเราแน่ๆคะ เพราะไม่มีปัญญาที่จะทำแบบนั้นแน่นอนคะ สิ่งที่เราสามารถทำได้ คงจะมีแค่สองอย่างแล้วละ คือ รับจ้างหารายได้เพิ่มเข้ามา อันนี้ทำได้แน่นอน แล้วที่คิดว่าจะทำคือ ขายของในบ้าน นี่แหละ แต่การขายในบ้านอาจทำใจยากหน่อยเพราะว่าจะได้มามัน ก็ลำบากเหมือนกัน ขายไปแล้วจะซื้อใหม่ได้ไหมก็ไม่แน่ใจ แต่ก็ต้องเลือกใช่ไหม
น้ำอ้อย
ใช่แล้วค่ะการปรับเปลี่ยนชีวิตเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราจำเป็นต้องคิดนะคะ ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นค่ะอย่างเช่น สำหรับตัวฉันเองฉันตกงาน ฉันก็ลดค่าใช้จ่ายลงแล้วก็หางานอื่นๆที่สามารถทำได้ไม่ว่างานอะไรก็ตาม เริ่มจากฉันไปขับส่งอาหารกับ reserved บริการส่งอาหารแบบนี้ ตอนแรกก็คิดว่าจะทำไม่ได้แต่ตอนนี้ยึดเป็นอาชีพหลักไปแล้วค่ะ
เตเต้
ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ลายนิ้วมือแทบจะมองไม่เห็นแล้วครับ เห็นแต่คราบหมึกสีน้ำเงิน ที่มาจากโรงรับจำนำครับ ก็ได้ของพวกนี้ละครับที่พอเอามาใช้จ่ายในครอบครัวได้บ้าง เอาของที่ไม่จำเป็นจริงๆไปเปลี่ยนเป็นเงินดีกว่าครับ แต่สงสารเด็กๆครับ ผมเอาคอมไปจำนำ เพราะได้ราคาดีกว่า ตอนนนี้เด็กๆบ่นคิดถึงกันใหญ่เลยครับ เอาว่าสินเดือนนี้จะเอามาคืนให้นะ
นัด
สามารถหางานทำได้แล้วนะครับไม่มีช่วงเวลาที่ลำบากในตอน covid นี้ ผมก็ยังทำงานรับจ้างรายวันเลยเพื่อที่จะเลี้ยงชีวิตและครอบครัวไปก่อน บอกตามตรงเลยครับว่าอาชีพที่ทำอยู่ก็ตกงานก็เลยต้องหาอาชีพใหม่ ถึงแม้ว่าจะเป็นงานที่ได้รับค่าจ้างรายวันแต่ก็สามารถที่จะเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้อยู่นะครับสำหรับค่าครองชีพในช่วงนี้
ไวทย์ปวร
ผมไปรับจ้าง วิ่ง ส่งอาหารครับ ช่วงนั้นถือว่าลำบากจริงๆครับ ห้างที่ผมทำงานก็เข้าไปทำงานไม่ได้ ถึงแม้ที่ทำงานจะจ่ายเงิน 40% จากเงินเดือนที่เคยได้ก็เถอะครับ แต่มันไม่พอใช้จริงๆ วิ่งส่งอาหาร เลยต้องเป็นทางเลือกครับ สามารถทำรายได้จากงานนี้ หักลบค่าน้ำมันกับค่ากินแล้ว ก็ได้นะครับ วันละ3-4ร้อยบาท ถือว่าโอเคเลยครับ แต่ตอนนี้มาทำงานเดิมแล้วครับ นี่กำลังคิดเลยนะครับว่า ออกมาวิ่งเต็มตัวเลยดีไหม
ส้มเช้ง
เห็นด้วยกับคุณไวทย์ปวร มากๆเลย ใช้ทรัพยากรที่เรามีอยู่ให้เปลี่ยนเป็นเงินงัย ถ้าไม่มีเงินก็ใช้ความสามารถ....ไม่ยากเกินกำลังนะ ของที่มีเอามา live ขายถูกๆกันไปเลย อย่างน้อยก็เอาเงินมาไว้ดำรงชีวิตไปก่อน อีกอย่างตู้ปันสุขก็พอจะช่วยประทังชีวิตได้อยู่นะ ถ้าไม่มีเงินจริงๆหน่ะ5555 หรือไม่ก็ไปกรมแรงงานไปหางานที่นั่นก็ได้