รับมืออย่างไรดีถ้ารู้สึกใจหายเมื่อใกล้เกษียณ

แนะนำง่ายๆนะครับ ร่างกายของคนเราก็เหมือนเครื่องยนต์ ที่ทำงานหนักมาเกือบ 60 ปี จะมีการเสื่อมไปบ้างตามอายุการใช้งาน จึงควรมีการดูแลสุขภาพ โดยนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทำกิจกรรมสบายๆ เช่น เดินออกกำลังกาย ปลูกต้นไม้ ปลูกผักสวนครัวพร้อมการตรวจร่างกายประจำปี เพื่อให้มีโอกาสตรวจพบโรคในช่วงเริ่มต้น ซึ่งจะรักษาให้หายขาดได้ และมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าปล่อยไว้จนร่างกายทรุดหนักครับ

เราต้องมีประกันสุขภาพที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายจากการรักษาพยาบาลได้ และจะต้องทำมาตั้งแต่ก่อนจะเกษียณสักระยะหนึ่งแล้ว เพื่อให้ได้ความคุ้มครองต่อเนื่องไปจนถึงช่วงหลังเกษียณ เพราะโดยส่วนมาก บริษัทประกันในประเทศไทยมักจะไม่ค่อยทำประกันสุขภาพให้กับผู้สูงอายุ หรือถ้าจะรับประกันก็คิดเบี้ยประกันในอัตราที่สูงมาก หรือ ไม่รับประกันโรคที่เป็นอยู่ก่อนการทำประกัน ด้วยนะคะ

ผมใช้ บัญชีเงินฝากประจำซูเปอร์ ซีเนียร์ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างเงินฝากกับประกัน โดยผู้ฝากต้องมีอายุ 55-70 ปี ฝากเงินเป็นระยะเวลา 30 เดือน โดยจะได้รับความคุ้มครองการเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ กระดูกแตกหัก และค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ พร้อมทั้งทำบัตรเดบิตที่มีความคุ้มครองอุบัติเหตุ สะดวกในการเบิกถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มและยังได้ความคุ้มครองความเสี่ยงจากอุบัติเหตุด้วยครับ

สำหรับดิฉัน เมื่อเกษียณแล้ว มีเวลาว่างมากขึ้น จากที่เคยพบปะผู้คนเพื่อนร่วมงานทุกวัน ก็ต้องอยู่บ้านคนเดียว ทำให้เหงา เกิดความเบื่อหน่าย เลยต้องหากิจกรรมงานอดิเรกที่ชอบทำ เช่น เลี้ยงสัตว์ เล่นดนตรี วาดรูป หรือทำงานฝีมือ และตัวเองยังชอบศึกษาหาความรู้ ก็เลยหาหลักสูตรที่ชอบมาเรียน เช่น การจัดดอกไม้ การทำขนม การถ่ายรูป ก็ดีค่ะ ไม่ปล่อยให้มีเวลาเหงาค่ะ

ดิฉันทำอยู่ คือ ไปเป็นที่ปรึกษา วิทยากร อาสาสมัคร หรือทำกิจกรรมการกุศลและด้วยเป็นคนที่ชอบคิดโน่นคิดนี่ เจอความสับสบวุ่นวายตลอดเวลา ก็ใช้วิธีการปรับจิตใจให้ผ่อนคลายและสงบ ทำตัวเองให้มีคุณค่า โดยการนำความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ทั้งในการทำงาน และประสบการณ์ชีวิตที่มีอยู่ออกมาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุดค่ะ

เราควรมีเงินสำรองเก็บเอาไว้ในบัญชีออมทรัพย์ที่มีบัตร ATM หรือบัตรเดบิต เพื่อให้สามารถนนำมาใช้จ่ายได้ทันที และเก็บเอาไว้ในรูปกองทุนรวมตลาดเงิน ที่ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น , บัญชีเงินฝากคุ้มครองผู้สูงอายุ อุ่นใจดี สำหรับเงินส่วนที่เหลือ แนะนำให้ลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น พันธบัตร หุ้นกู้ หุ้นสามัญ ทองคำ หรืออสังหาริมทรัพย์ ตามความเชี่ยวชาญของแต่ละบุคคล ครับ

อย่างแรกคุณต้องรู้ก่อนว่าเงินที่ต้องใช้หลังเกษียณเป็นจำนวนเท่าไหร่ เมื่อทราบแล้วว่าเราจำเป็นต้องมีเงินเพื่อใช้หลังเกษียณเท่าไหร่ ก็ให้รีบสำรวจเงินออมของตัวเองในขณะนี้เลยว่ามีมากน้อยแค่ไหนแล้วจะได้วางแผนถูกว่าต้องขยันเก็บออมเพิ่มอีกมากน้อยแค่ไหนแล้วลองสำรวจแหล่งรายได้หลังเกษียณกัน ว่าหลังจากหยุดทำงานไปแล้ว เราจะยังมีรายได้เหลือจากทางไหนบ้าง