ปัจจุบันนี้เราเห็นว่ามีหลากหลายอาชีพมากที่ทำได้ง่าย การขับรถส่งอาหารก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่สร้างรายได้ที่ดี และทำไม่ยากซึ่งการส่งอาหารนะอาหารโดย Application อาหารตามที่เราจะต้องไปส่งด้วยการที่ลูกค้าจะสั่งอาหารผ่านแอพพลิเคชัน แล้วก็ให้เราไปตามที่อยู่ของลูกค้า หลายๆคนชอบเพราะว่ามันสะดวกตอบตามที่ไม่ต้องขับรถออกไปข้างนอก และในปัจจุบันนี้เราก็เห็นว่าหลายคนนิยมมากที่จะสั่งอาหารไปกินเองที่บ้าน ซึ่งเราก็ถือว่าเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ที่ดีมากและสามารถที่จะ เลือกรับงานตั้งแต่ 10:00 ถึง 22:00 ได้ ดังนั้น สำหรับคนที่อยากจะขับรถส่งอาหารก็ต้องดูก่อนว่ามีแอพพลิเคชันอะไรบ้างและต้องทำอะไรบ้าง และต้องรู้อะไรบ้างก่อนทำงานขับรถส่งอาหารนี้ค่ะ

GrabFood

GrabFood

ค่าตอบแทนของ Grab Foodจะเป็นรายได้จากการส่งอาหารสำเร็จปกติแล้วค่าบริการส่งอาหารนั้นจะอยู่ที่ 50 บาทต่อครั้งและหักค่าคอมมิชชั่น 15% ได้รับจริงประมาณ 42 เรื่องค่าตอบแทนของ Grab Food จะเป็นรายได้จากการส่งอาหารสำเร็จปกติแล้วค่าบริการส่งอาหารนั้นจะอยู่ที่ 50 บาทต่อครั้งและหักค่าคอมมิชชั่น 15% ได้รับจริงประมาณ 42.50บาท รักค่าส่งที่เก็บเงินสดกับลูกค้าก็จะได้ 10 บาทต่อครั้งและหักค่าคอมมิชชั่น 15 เปอร์เซ็นต์แต่ถ้าได้รับจริง 8.50 บาท ต่อมาคือค่าส่งเพิ่มเติมตามระยะทางถ้าหากว่ามากกว่า 60 กิโลเมตรก็จะเป็นประมาณ 10 บาทต่อกิโลเมตรซึ่งจะหักค่าคอมมิชชั่น 15% ค่ะ และค่าบริการต่าง ๆ ยังต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% แต่สามารถยื่นขอคืนภาษี ณ ที่จ่ายได้ ในการยื่นภาษีประจำปีนั่นเองค่ะ

ข้อดีข้อเสียของ GrabFood

เมื่อพูดถึงข้อดีข้อเสียก็ต้องมีอยู่แล้วว่าข้อดีคืออะไรและข้อเสียคืออะไรก่อนจะทำงานนี้เราก็ต้องรู้และรับให้ได้ ให้เรามาดูถึงข้อดี คือ เราจะเห็นยอดรายได้รวมตั้งแต่ก่อนกดรับงาน เราสามารถเลือกวันเวลาทำงานได้ตามความต้องการ มีทีมงานที่พร้อมจะดูแลช่วยเหลือเราตลอดเวลา ซึ่ง Application เปิดบริการในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น หาดใหญ่และพัทยาค่ะ ที่ดีไปกว่านั้นก็คือเราสามารถสมัครได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายนั้นเอง

จุดอ่อนของ GrabFood

ต่อมาเราก็จะพูดถึงจุดอ่อนของ การทำอาชีพนี้ คือ เงินค่าบริการส่งอาหารจะได้รับในวันถัดไปและได้รับเงินค่าส่งเพิ่มเติมตามระยะทางทุกวันพุธ ต้องกดแย่งลูกค้าผ่าน Application ที่เราจะไปส่งอาหาร มีผู้ขับขี่จำนวนมากซึ่งก็ต้องแย่งลูกค้ากัน และสามารถรับงานได้แค่ช่วงเวลา 10:00-22:00 เท่านั้นค่ะ

วิธีสมัครขับ GrabFood

ต่อมาเรามาดูว่าวิธีสมัครขับ Grab Food เป็นอย่างไรและต้องทำอะไรบ้าง เราสมัครด้วยตัวเองที่ Grab สำนักงานใหญ่ ชั้น 30 อาคารธนภูมิ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ สมัครงานนั้นจะต้องอายุ 18 ถึง 59 ปีค่ะ ซึ่งจะต้องเตรียมเอกสารการสมัครด้วย คือ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาเล่มจดทะเบียนรถจักรยานยนต์พร้อมพ.ร.บสำเนาใบขับขี่รถจักรยานยนต์ สำเนาสมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทยของตนเอง และต่อมาก็คือวิธีสมัครคือ กรอกใบสมัครเพื่อที่จะ เพื่อที่จะลงทะเบียนเบื่องต้น โดยที่เราจะได้รับรหัส OTP ทาง SMS แล้วเราก็ต้องกรอกรหัสเพื่อยืนยันการลงทะเบียนรายการอัพโหลดเอกสารและสแกนหรือถ่ายรูปเอกสาร ซึ่งก็จะมีการเรียนรู้ขับ Grab โดยการทำแบบทดสอบค่ะ เพื่อที่เราจะทดสอบความเข้าใจในการใช้แอพพลิเคชั่นเราก็จะต้องเข้าร่วมการอบรมที่สำนักงานใหญ่อย่างที่บอกไปนั้น ซึ่งจะเปิดการอบรมวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 11:00 13:00 15:00 17:00 แต่ถ้าเป็นวันเสาร์ก็จะเปิดเวลา 11:00 13:00 15:00 และ 17:00 ก็สามารถเปิดระบบเริ่มทำงานได้ทันทีค่ะ

เราจะเห็นว่างานนี้ก็เป็นงานที่เหนื่อยเพราะว่าจากชั่วโมงทำงานแล้วก็มากพอสมควรเพราะว่าเราต้องขับรถเดินทางไปหลายที่รับสินค้าและไปส่งสินค้าบางวันก็อาจจะฝนตกหรืออากาศร้อนมากๆทำให้เราเพลียอ่อนล้าได้ แต่นี่ก็ขึ้นอยู่กับการที่เราสามารถเลือกวันเวลาได้ว่าเราจะทำหรือไม่ทำและก็ขึ้นอยู่กับว่าเราขยันทำงานหรือไม่ถ้าเรารักในการทำงานนี้เราก็จะสนุกกับมันและ หารายได้ให้กับตัวเองได้ดีเลยทีเดียวค่ะ

LINE MAN และ LALAMOVE

LINE MAN และ LALAMOVE

ค่าตอบแทนของ LINE Man และ LALAMOVE ซึ่งค่าบริการส่งอาหารเริ่มต้น 55 บาทต่อครั้งและจะหักค่าคอมมิชชั่น 15% ซึ่งเราจะได้รับจริง46.75 บาท และค่าส่งเพิ่มเติมคือ 9 บาทต่อ 1 กิโลเมตรหากระยะทางนั้นเกิน 1 กิโลเมตรขึ้นไปจะหักค่าคอมมิชชั่น 15% และได้รับจริง 7.65 บาทค่ะ ต่อมาคือการบริการช่วงระยะเวลาการทำการตั้งแต่ 21:00 -22.59 ก็จะได้เพิ่ม 50 ก็จะได้เพิ่ม 50 บาทซึ่งก็จะหักค่าคอมมิชชั่น 15% และได้รับจริง 42.5 บาทค่ะ และการบริการช่วงนอกเวลาการทำการตั้งแต่ 23:00-06:00 ก็จะได้เพิ่ม 100 บาทและก็จะหักค่าคอมมิชชั่น 15 เปอร์เซ็นต์ได้รับจริง 85 บาทนั่นเองค่ะ รายการที่มีค่าบริการต่างๆจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% แต่เราสามารถขอยื่นภาษี ณ ที่จ่ายได้ในการยื่นภาษีประจำปีค่ะ

ข้อดีข้อเสียของ LINE MAN และ LALAMOVE

เมื่อเรามาพูดถึงข้อดีของการเลือกทำงานนี้ข้อดีก็คือ เราสามารถเลือกกดรับงานเองได้ รับงานได้ถึง 2 แอพพลิเคชันคือ LINE MAN และ LALAMOVE วิ่งรับงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถเปิดแอพพลิเคชันบริการทั้งในกรุงเทพฯและพัทยานั่นเองค่ะ ในส่วนของข้อเสียนั้นก็คือ ต้องกดแย่งลูกค้าผ่าน Application มีผู้ขับขี่จำนวนมากซึ่งต้องแย่งลูกค้ากัน และ App นี้จะต้องมีค่าสมัครแรกเข้า 400 บาทค่ะ

วิธีสมัครขับ LINE MAN และ LALAMOVE

ซึ่งเราสามารถสมัครได้ด้วยตัวเองถ้าเป็นที่กรุงเทพฯอยู่ที่อาคารวรรณสรณ์ชั้น 11 ถนนพญาไท แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ และถ้าเป็นที่ พัทยาที่ c park pattaya ต.สุขุมวิท ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งอายุผู้สมัครนั้นก็ตั้งแต่ 18 ถึง 55 ปีค่ะ โดยเอกสารที่ต้องเตรียมนั้นมีอยู่ 7 อย่างคือ บัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ รูปถ่ายป้ายทะเบียนรถ ป้ายภาษีรถ รูปถ่ายรถด้านหน้าและหลัง รูปถ่ายผู้สมัคร สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทยของตัวเองค่ะ

foodpand

foodpand

foodpand ค่าตอบแทนจะอยู่ที่ 100 บาทต่อชั่วโมงซึ่งจะหักภาษี ณ ที่จ่ายประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์และมีโอกาสที่จะสร้างรายได้ ที่สูงเลยทีเดียวประมาณ 36,000 บาทต่อเดือน ซึ่งได้มากเลยทีเดียวค่ะ ต่อไปนี้ให้เรามาดูว่าข้อดีข้อเสียนั้นมีอะไรบ้างที่เราจะต้องรู้ไว้ก่อนทำอาชีพขับรถส่งอาหารฟู้ดแพนด้า

ข้อดีข้อเสียของ foodpand

ข้อดีของการส่งอาหาร foodpand คือ มีระบบจ้างงานเป็นประจำซึ่งจะมีสวัสดิการพนักงานและประกันกลุ่มให้ด้วย ไม่ต้องกดแย่งงานเพราะมีระบบจ่าย งานอัตโนมัติตามพื้นที่ค่ะ แบ่งโซนชัดเจนไม่ต้องขับขี่ในทางระยะไกล วิ่งรับงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการในหลายๆที่เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต หัวหิน ขอนแก่น โคราช อุดรธานี อุบลราชธานี ลำพูน หาดใหญ่ และเชียงราย ซึ่งเป็นเรื่องดีอย่างหนึ่งที่สามารถสมัครได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรด้วย ค่ะ

ข้อเสียของการขับรถส่งอาหาร foodpand คือ เราไม่สามารถเลือกรับงานเองได้ ไม่ได้รับเงินทันทีโดยจะจ่ายเงินตามรอบบัญชีของบริษัท และส่วนใหญ่รับ เฉพาะพนักงานประจำจึงไม่เหมาะที่จะทำเป็นงานพาร์ทไทม์

วิธีสมัครขับ foodpand

วิธีสมัครนั้นสามารถสมัครได้ด้วยตัวเองถ้าสนใจอยากทำงานนี้ที่ย่านสุขุมวิท สีลม ธนบุรีที่สำนักงานสาขาสุขุมวิท 59/33 ซอยสุขุมวิท 26 แขวงคลองตันเขตคลองเตย กรุงเทพมหานครค่ะ ซึ่งผู้สมัครนั้นจะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไปนั่นเองค่ะ เอกสารที่ต้องเตรียมคือ บัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ สมุดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ การดำเนินการในลักษณะของการบริการส่งอาหารนั้นซึ่งจะเป็นแบบเดลิเวอรี่จะตอบโจทย์ของคนในปัจจุบันที่ต้องการ ที่จะหางานง่ายๆและสะดวกรวดเร็ว เพราะปัจจุบันนี้เราเห็นว่าสามารถรับประทานอาหารได้จากร้านอาหารโดยที่ไม่ต้องเดินทางไปไหนก็เป็นเรื่องดี และเป็นประโยชน์กับลูกค้าและเราก็มีงานทำที่จะ ได้รายได้ดีแบบนี้ด้วยเช่นกัน และ FoodPanda เปิดรับออเดอร์แบบ 24 ชั่วโมง ลักษณะการทำงานนั้นก็คือรับออเดอร์จากลูกค้าแล้วส่งต่อไปยังร้านอาหาร Partner อีกที เมื่อทำอาหารเสร็จพนักงานก็ส่งอาหารไปรับเมนูเพื่อที่จะส่งไปหาลูกค้านั่นเองค่ะ

GET Driver

GET Driver

ค่าตอบแทนของ GET Driver ก็จะขึ้นอยู่กับระยะทางและช่วงเวลาและความต้องการของลูกค้าในช่วงเวลานั้น โดยปกติแล้วรายได้จะอยู่ที่เดือนละ 15,000-25,000 บาท ข้อดีของการทำงานขับรถส่งอาหาร GET Driver นี้คือ สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถวิ่งรับงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีประกันสุขภาพและประกันภัยรถจักรยานยนต์ มีแผนเงินสะสมประจำปีและเงินช่วยเหลือยามฉุกเฉินค่ะ ส่วนเรื่องของข้อเสียการทำงาน GET Driver นี้คือ ยังไม่เปิดบริการในพื้นที่ต่างจังหวัดและร้านอาหารที่เข้าร่วม Application อาจยังไม่มากเท่ากับแอพพลิเคชันอื่นๆที่เปิดบริการมาก่อนแล้ว โดยวิธีการสมัครขับรถ GET Driver นั้นออนไลน์www.getthailand.comผู้สมัครจะต้องมีอายุประมาณ 18 ปีขึ้นไป

Skootar

Skootar

Skootar รายได้ต่อเที่ยวจะอยู่ที่ประมาณละ 55 ถึง 200 บาทค่ะด้วยการที่จะหักภาษี ณ ที่จ่ายด้วย 3% นั้นเอง เมื่อพูดถึง ข้อดีของการทำงานส่งอาหารนี้คือ วิ่งรับงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปี สิทธิ์ซื้อ รถจักรยานยนต์ราคาพิเศษ และสามารถรับเงินได้ทันทีหลังจากจบงานโดยไม่ต้องรอถึงวันสรุปยอดค่ะ และข้อเสียของการทำงานนี้คือแอปพลิเคชันนั้นเปิดบริการทั้งระบบ iOS และ Android แต่ผู้ขับขี่นั้นสามารถใช้สมาร์ทโฟนของระบบ Android รับงานได้เท่านั้นค่ะ และร้านอาหารที่เข้าร่วมกับแอพพลิเคชันก็ยังมีไม่มากเท่ากับแอปอื่นๆสักเท่าไหร่ที่เปิดบริการมาก่อนหน้านี้ ยังไม่มีการใช้บริการในพื้นที่ต่างจังหวัดด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นงานส่งเอกสารทำให้มีงานเยอะช่วงเวลาการทำการต่างๆ และงานก็จะน้อยในช่วงตอนเย็นหลังเลิกงาน ซึ่งงานนี้มีค่าสมัครเข้า 300 บาทค่ะ และวิธีสมัครขับ ซึ่งสามารถสมัครได้ทางออนไลน์และจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับในภายหลังนั้นเองค่ะ อายุการทำงานและสมัครงานนี้ก็ไม่ต่างอะไรมาก 18 ปีขึ้นไปค่ะ และเอกสารที่ต้องมีนั้นคือ รูปบัตรประจำตัวประชาชน รูปภาพใบอนุญาต รูปภาพหน้าสมุดบัญชีธนาคาร รูปภาพสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนที่ยินยอมให้ใช้รถจักรยานยนต์ค่ะ

“ขับรถส่งอาหารทำได้ไม่ยาก”

“ขับรถส่งอาหารทำได้ไม่ยาก”

การขับรถส่งอาหารนั้นทำได้ไม่ยากเลยค่ะเราจะเห็นว่ามีทั้ง 5 Application  ที่เราสามารถเลือก ทำงานที่เราสะดวกได้และเราจะเห็นว่าสร้างรายได้ที่ดีจริงๆ ซึ่งเราได้เห็นไปแล้วว่าข้อดีข้อเสียนั้นมีอะไรบ้างแต่ถ้าหากว่าเรารับได้เราก็สามารถทำ งานนี้ได้อย่างสบายใจ จริงๆที่ปัจจุบันนี้มีงานทำแบบนี้แต่อายุของการทำงานนี้ก็ต้อง 18 ปีขึ้นไปโดยส่วนใหญ่แล้ว ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีเลยทีเดียวที่จะทำงานอาชีพนี้เพราะปัจจุบันนี้เราเห็นว่างานที่สะดวกและสร้างรายได้ที่ดีนั้นก็หายากซึ่งงานนี้ก็เป็นงานที่ขอแนะนำว่าเป็นงานที่เราสามารถทำได้ซึ่งไม่ยากเลยจริงๆและเหมาะกับผู้ที่เป็นวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ด้วย ซึ่งถ้าเราอยากทำงานนี้เราก็จะต้องอ่านรายละเอียดก่อนทำงานนี้เพื่อที่เราจะประสบผลสำเร็จในงานขับรถส่งอาหารได้นั่นเองค่ะ