เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้เลยที่ว่า เงินคือสิ่งจำเป็นในการใช้ชีวิตเพราะเราทุกคนเกิดมาไม่มีช่วงเวลาไหนที่ไม่ใช้เงินเลยคนเราต้องใช้เงินเพื่อการดำรงอยู่ตลอดมา นั่นจึงเป็นเหตุผลที่คนเราต้องทำงานเพื่อหาเงินหรือหาวิธีต่างๆเพื่อสร้างรายได้ให้กับตัวเองและครอบครัว โดยเฉพาะโลกการเงินทุกวันนี้สังคมทุกวันนี้ทำให้เราทุกคนเห็นความสำคัญของเงินมากขึ้นทุกวันแล้วคนทุกวันนี้ก็ใช้ชีวิตเพื่อตรากตรำทำงานหาเงิน แต่คุณลองคิดดูว่าถ้าคุณใช้ทั้งชีวิตเพื่อทุ่มเทให้กับการทำงานทั้งหมดคุณจะเอาเวลาไหนมาชื่นชมกับชีวิต? คุณจะเอาเวลาไหนมาให้กับครอบครัว? คุณจะเอาเวลาไหนมาใช้ทำในสิ่งที่คุณรัก? ดังนั้นบทความนี้อยากจะช่วยให้คุณหยุดคิดสักนิดหน่อยแล้วการทำงานหาเงินการสร้างรายได้ของคุณจะมีความหมายมากยิ่งขึ้น การหาเงินหรือสร้างรายได้ในแนวทางที่ควรจะเป็นมี 3 แนวทางคือ การหาเงินให้พอใช้จ่าย การหาเงินในหลายๆช่องทาง การหาเงินให้เหลือเก็บไว้ใช้ในยามที่ขาดรายได้ ส่วนประเภทของการหารายได้นั้นหลักๆแล้วมี 2 ประเภทคือ Active Income รายได้จากการทำงาน และ Passive Income รายได้จากทรัพย์สิน ในบทความนี้จะมาให้ความรู้เรื่องเหล่านี้ซึ่งช่วยให้คุณหารายได้อย่างถูกวิธีค่ะ

ประเภทของรายได้

ประเภทของรายได้

ประเภทของรายได้พื้นฐานหลักๆแล้วของคนเรานั้นมาจากสองประเภท คือ Active Income รายได้จากการทำงาน และ Passive Income รายได้จากทรัพย์สิน คนเราโดยปกติจะมีรายได้มาจากสองประเภทนี้ ซึ่งสำหรับบางคนก็มีความเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะได้รับรายได้มาจากทั้งสองประเภทพร้อมกัน คือคนนั้นอาจจะทำงานด้วย แล้วมีผลตอบแทนจากทรัพย์สินด้วยก็เป็นไปได้ทั้งนั้น  คราวนี้เรามาดูกันว่ารายได้ทั้งสองประเภทนี้มีรายละเอียดอย่างไร? ต่างกันอย่างไร? รายได้ประเภทไหนดีที่สุด?

Active Income รายได้จากการทำงาน

คนส่วนใหญ่ขอย้ำว่าส่วนใหญ่เลยนะคะมีรายได้มากจาก Active Income คือมีรายได้มาจากการทำงาน รายได้ที่มาจากการทำงานอย่างเช่น เงินเดือน โบนัส ค่าจ้าง ค่าแรง คือเงินที่ได้มาจากการใช้เวลาใช้แรงทำงานถ้าไม่ทำก็ไม่ได้เงินตรงนี้ นี่คือรายได้ในแบบที่เรียกว่ารายได้จากการทำงาน ถ้าคุณหยุดงานไม่ทำงานคุณก็ขาดรายได้ ในชีวิตคนเราเมื่อเริ่มต้นหารายๆได้ก็ต้องผ่านการมีรายได้จากการทำงานกันมาก่อนเป็นส่วนใหญ่ แล้วถึงจะสามารถหารายได้จากทรัพย์สิน หรือ Passive Income ได้  รายได้จากการทำงานก็เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างพื้นฐานทางการเงินที่ดีฝึกเราให้เห็นคุณค่าของเงินเพราะกว่าจะได้มานั้นต้องเสียแรงเสียเวลามากขนาดไหน แต่ข้อควรระวังของการมีรายได้จากการทำงานคือ รายได้จากการทำงานเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่สามารถสร้างความมั่นคงทางการเงินได้ดีมากพอถ้ามองไปในอนาคตในระยะยาว ดังนั้นการพยายามเปลี่ยนไปหารายได้จากทรัพย์สินจึงเป็นทางเลือกที่ควรจะทำถ้ามีโอกาสค่ะ

Passive Income รายได้จากทรัพย์สิน

จริงอยู่ที่คนส่วนใหญ่มีรายได้มาจากการทำงาน แต่เศรษฐกิจและสังคมสมัยนี้ทำให้มีผู้คนมากขึ้นที่พยายามหารายได้จากทรัพย์สิน หรือ Passive Income รายได้จากทรัพย์สินคืออะไร? อย่างเช่น เงินที่ได้จากดอกเบี้ยเงินที่ได้จากค่าเช่าห้อง ค่าเช่าหอ ค่าเช่าคอนโด ค่าเช่ารถ เงินที่ได้จากเงินปันผล เงินจากกำไรปันผลที่มาจากธุรกิจ เงินที่ได้จากค่าสิขสิทธิ์ การที่คุณมีรายได้จากทรัพย์สินคุณต้องมีทรัพย์สินก่อนต้องเป็นผู้ครอบครองทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่คุ้มค่าถ้าทำได้เพราะคุณจะไม่ต้องเสียเวลาเสียแรงในการทำงานหนักอีกแต่กลับมีรายได้มากกว่าเดิม การมีรายได้จากทรัพย์สินแม้วันนี้คุณไม่ใช้แรงไม่ใช้เวลาทำงานคุณก็ได้เงิน ยกตัวอย่างเช่น คุณซื้อคอนโดปล่อยให้เช่าเดือนทั้งเดือนคุณไม่ทำงานเลยสิ้นเดือนคุณก็มีเงินเข้ากระเป๋าจากค่าเช่าคอนโด อีกตัวอย่างหนึ่ง คุณมีเงินก้อนใหญ่เอาไปฝากธนาคาร และเริ่มการลงทุนในหุ้น หรือกองทุนรวม คุณไม่ได้เสียเวลาเสียแรงทำงานคุณก็ได้รับดอกเบี้ย และเงินปันผล ดังนั้นการมีรายได้จากทรัพย์สินถือเป็นแนวทางที่ฉลาด และเป็นการหารายได้ที่ดีกว่า Active Income หรือรายได้จากการทำงานมากนัก

แนวคิดในการสร้างรายได้พื้นฐานที่สำคัญ

แนวคิดในการสร้างรายได้พื้นฐานที่สำคัญ

ตอนนี้คุณคงอยากเป็นคนหนึ่งที่มีรายได้จากทรัพย์สินแล้วใช่มั้ยคะ? ถ้าใช่ก็ขอให้พยายามต่อไปถึงแม้ตอนนี้คุณจะมีรายได้จากการทำงานอยู่แต่การบริหารเงินอย่างดีจะช่วยให้คุณสามารถใช้การหารายได้จากการทำงานมาเป็นพื้นฐานของการมีรายได้จากทรัพย์สินได้ค่ะ เพราะการที่คุณจะเป็นผู้ครอบครองทรัพย์สินที่สามารถสร้างรายได้ให้คุณได้นั้นคุณต้องมีรายได้จากการทำงานก่อนแล้วเก็บออมเงินเพื่อนำไปซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ซื้อรถ หรือนำไปลงทุน เพื่อสร้างรายได้จากทรัพย์สินเหล่านี้ค่ะ ดังนั้นตอนนี้ไม่ว่าคุณจะมีรายได้จากการทำงานหรือทรัพย์สินแนวทางความคิดที่คุณต้องมี หรือเป้าหมายสำหรับการหารายได้ที่คุณต้องมี คือ หารายได้ให้พอใช้ หารายได้หลายๆทาง มีเงินใช้และมีรายได้แม้ไม่ทำงาน มาดูแนวความคิด 3 อย่างนี้กันค่ะ

พอใช้

ไม่ว่าคุณมีรายได้ประเภทไหน คุณควรมีรายได้ที่เพียงพอต่อการใช้จ่ายของคุณ แต่ละคนไม่เหมือนกันดังนั้นเรื่องนี้ไม่สูตรสำเร็จทุกคนต้องคิดด้วยตัวเองและกำหนดด้วยตัวเองว่าเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอต่อการใช้จ่าย ก่อนจะคิดเรื่องการลงทุน หรือครอบครองทรัพย์สิน การหารายได้ให้เพียงพอต่อการใช้จ่ายแล้วยังเหลือเก็บควรเป็นพื้นฐานสำคัญที่ควรคิดถึงเมื่อทำงานหาเงินค่ะ แม้แต่คนที่มีรายได้จากทรัพย์สินก็อาจจะไม่พอใช้ได้ถ้าไม่ระวังนะคะ

หลายทาง

ถ้าคุณมีรายได้จากการทำงานก็ไม่ควรมีรายได้จากการทำงานที่เดียว คุณอาจจะทำงานเสริม หรือพัฒนาความสามารถเพื่อพร้อมจะทำงานหลากหลายได้ค่ะ ส่วนคนที่มีรายได้จากทรัพย์สินก็ควรพยายามครอบครองทรัพย์สินมากกว่าหนึ่งอย่าง หรือกระจายความเสี่ยงในการลงทุนค่ะ  เผื่อว่าการลงทุน หรือทรัพย์สินบางอย่างเกิดขาดสภาพคล่องคุณจะได้ไม่เดือดร้อนค่ะ

ว่างก็มีเงินใช้

ถ้าคุณมีรายได้จากการทำงาน แล้วยังไม่มีทรัพย์สินให้ครอบครองคุณควรตั้งใจบริหารเงินค่าใช้จ่ายให้เหลือเก็บออมให้มากๆ จะต้องมากแค่ไหน? ลองคิดดูว่าถ้าคุณไม่ไปทำงานหนึ่งเดือนคุณจะมีเงินพอใช้ไหม? ถ้ายังไม่มีคุณอาจจะเดือดร้อนได้ดังนั้นเป้าหมายของคุณควรจะให้ความสำคัญกับการเก็บออมเงินเป็นสิ่งสำคัญค่ะ ส่วนที่คนมีรายได้จากทรัพย์สินอยู่แล้วก็พยายามบริหารให้มีเงินสดหมุนเวียนในแต่ละเดือนเพื่อเงินในกระเป๋าจะไม่ขาดสภาพคล่องนะคะ ถ้ารายได้ที่คุณได้รับมีแต่รายปีคุณอาจจะขาดเงินสดหมุนเวียนในแต่ละเดือนได้ดังนั้นต้องพยายามกระจายความเสี่ยงค่ะ

อยากมีเงินมั่นคงมั่งคั่งการหารายได้คือส่วนสำคัญอันดับแรก

อยากมีเงินมั่นคงมั่งคั่งการหารายได้คือส่วนสำคัญอันดับแรก

การหารายได้เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่จะทำให้คนเรามีความมั่นคงทางการเงินได้ ไม่ว่าจะหารายได้ประเภทไหนก็ตาม เพราะถ้าคุณขาดรายได้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมั่นคงทางการเงิน ถึงแม้คุณจะมีมรดกตกทอดมากมายแค่ไหนเงินนั้นก็มีวันหมดไปถ้าคุณไม่บริหารให้เงินงอกเงย การบริหารเงินที่มีไม่ว่ามากหรือน้อยเป็นส่วนหนึ่งของการหารายได้ค่ะ แล้วคุณจะมีทั้งความมั่นคงและความมั่งคั่งทางการเงินค่ะ