ในแต่ละวันคนเราต้องมีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายแตกต่างกันไป และก็ต้องมีอยู่ทุกๆวัน แต่เมื่อมองถึงค่าใช้จ่ายรายเดือนของแต่ละคนก็เป็นค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นไปอีก เมื่อสิ้นเดือนการรับเงินเดือนก็กลับกลายเป็นความเครียดของใครหลายๆคนได้เพราะว่าต้องนำเงินนั้นมาใช้จ่ายบิลต่างๆจนเหลือเงินน้อยนิดเดียวเอาไว้ใช้ ส่วนบางคนก็มี ค่าใช้จ่ายตอนสิ้นเดือนที่ถาโถมเข้ามาแบบไม่เพียงพอเลยด้วยซ้ำ จึงทำให้หลายๆคนอยากรู้ว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยให้สามารถจัดการค่าใช้จ่ายเหล่านี้ให้เพียงพอต่อรายรับ และจะประหยัดค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้อย่างไรบ้าง บทความนี้จะมาบอกให้คุณได้รู้ถึงตัวช่วยที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ และวิธีแบบเดิมๆที่ก็ยังสามารถใช้ได้ผลอยู่จนทุกวันนี้ให้คุณได้ลองนำไปใช้ดูค่ะ ซึ่งจะนำมาฝากกัน 4 วิธี คือ = จดบันทึกรายรัยรายจ่าย = แยกประเภทของค่าใช้จ่าย = ชำระแบบตัดบัญชีอัตโนมัติ = ชำระโดยตัดบัญชีบัตรเครดิต
จดบันทึกรายรับรายจ่าย
การจดบันทึกรายรับ – รายจ่าย เป็นวิธีเบสิคมากๆที่ทำกันมาตั้งแต่รุ่นเก่าๆแล้ว แต่ก็ยังสามารใช้ได้ผลอยู่ในทุกวันนี้ แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนจาการจดบันทึกในสมุดธรรมดาๆเป็นการจดบันทึกในสมุดโน๊ตที่อยู่ในอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคแทน อย่างเช่น โทรศัพท์มือถือ แท็ปเล็ต ไอแพด ไอโฟน เป็นต้นค่ะ ซึ่งประโยชน์ของการจดบันทึกนี้ก็คือ คุณจะรู้ที่มาที่ไปของเงินของคุณที่เข้าออกอย่างชัดเจน ไม่ค่อยตกหล่นสูญหายไปง่ายๆ ซึ่งพอสามารถรู้ที่มาที่ไปของเงินแล้วก็จะสามารถจัดการเงินที่มีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถวางแผนการใช้จ่ายเงินได้ดีด้วย ว่าตอนนี้ใช้จ่ายสิ่งที่จำเป็นไปกี่บาท? และตอนนี้เหลืออยู่กี่บาท? จะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอีกกี่บาท? สามารถแบ่งหรือเหลือเงินเอาไว้เก็บได้กี่บาทในเดือนนี้? การจดบัทึกรายรับ – รายจ่ายทำให้คุณสามารถตอบคำถามตัวเองได้ทุกๆคำถามที่ยกตัวอย่างมานี้ค่ะ การที่คุณรู้คำตอบทั้งหมดนี้ช่วยอะไรได้อีก? คำตอบคือช่วยให้คุณไม่กงวลและไม่เครียดมากเกินไปเพราะรู้ที่มาที่ไปของเงินที่จ่ายออกไปอย่างชัดเจน และในทุกวันนี้คนรุ่นใหม่ก็มีเครื่องมือต่างๆมากมายนอกจากสมุดโน๊ตในโทรศัพท์ธรรดาๆแล้วก็ยังมีแอปพลิเคชั่นที่สร้างขึ้นมาเพื่อการทำบัญชีรายรับ – รายจ่ายโดยเฉพาะด้วยค่ะ เห็นมั้ยคะว่าทุกวันนี้สะดวกจริงๆ ดังนั้นเพื่อจะจัดการค่าใช้จ่ายอย่างดีควรลงมือจดบันทึกรายรับ – รายจ่ายกันได้แล้วนะคะเพราะทุกวันนี้ทำได้ไม่ยากเลย ซึ่งอยากจะนำตัวอย่างของแอปพลิเคชั่นที่ใช้ได้มาบอกกันก็คือ
Home Budget Lite – เป็นแอปพลิเคชั่นของทีศัพท์มือถือที่สามารถช่วยให้คุณจดบันทึกรายรับรายจ่ายได้อย่างสะดวกบนมือถือที่คุณพกพาคิดตัวไปทุกที่ และมีในภาษาไทยด้วยนะคะ การจดบันทึกผ่านแอปแบบนี้ช่วยให้การใช้จ่ายของคุณไม่ตกหล่นเลยเพราะไม่ว่าวันนี่คุณจะซื้ออะไรไปบ้างก็สามารถนำมาใส่ในแอปได้เลยทันทีเพื่อจะไม่ลืมเพราะจดได้ในมือถือที่คุณพกพาไปด้วยอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่แอปตัวนี้เท่านั้นคุณสามารถโหลดแอปอื่นที่สามารถใช้ได้มาใช้ได้ด้วย ซึ่งแอปเหล่านี้มีคุณสมบัติดังนี้ค่ะ
- สามารถจดบันทึกรายรับ – รายจ่ายได้
- สามารถดูภาพรวมของรายรับ – รายจ่ายได้เป็นรายวัน และเป็นรายสัปดาห์ และเป็นรายเดือนได้ด้วย
- สามารถช่วยคำนวณ และวิเคราะห์รายรับ – รายจ่ายประจำวันไปจนถึงประจำเดือนได้
- สามารถให้คุณระบุรายรับ – รายจ่ายลงไปในปฏิทินได้
- สามารถส่งข้อมูล หรือแชร์รายรับ – รายจ่ายไปยังที่อื่นๆได้ในรูปแบบไฟล์ CSV ได้
เห็นมั้ยคะว่าการจดบันทึกรายรับ – รายจ่าของคนรุ่นใหม่นั้นสะดวกและง่ายมากลองทำกันดูนะคะ และประโยชน์ของการทำรายรับ –รายจ่ายก็มีอีกคือ ทำให้คุณรู้จักค่าใช้จ่ายของคุณในแต่ละเดือน , ทำให้คุณรู้จักการคิดให้รอบคอบก่อนจะจ่ายเงินออกไป และไม่ใช่แค่จดบันทึกเพื่อจะรู้เรื่องเหล่านี้เท่านั้น อต่การจดบันทึกนั้นทำให้คุณดูได้ว่ามีค่าใช้จ่ายส่วนไหนบ้างที่สามารถลดลงได้ และเห็นว่าค่าใช้จ่ายส่วนไหนที่ไม่จำเป็นท่สามารภจะตัดออกไปได้และไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของคุณก็ตัดออกไปได้เลย เพื่อที่คุณจะได้มีเงินเหลือเพิ่มเติมมาอีกช่วยให้เก็บออมได้มากขึ้นง่ายขึ้นค่ะ
แยกประเภทของค่าใช้จ่าย
อย่างที่บอกว่าในแต่วัน และในแต่ละเดือนนั้นก็มีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายออกไปหลายอย่าง หลายประเภท ดังนั้นเพื่อจะเห็นภาพค่าใช้จ่ายที่ชัดเจนก็ต้องมีการแบ่งแยกประเภทออกมา ซึ่งสามารถที่จะแบ่งแยกประเภทออกมาได้สามประเภทหลักๆ คือ ค่าใช้จ่ายคงที่ , ค่าใช้จ่ายผันแปร , ค่าใช้จ่ายเพื่อการออม และการลงทุน เรามาดูการแบ่งค่าใช้จ่ายแต่ละอย่างกันค่ะว่าแบ่งอย่างไรบ้าง?
ค่าใช้จ่ายคงที่
ค่าใช้จ่ายคงที่ หรือเรียกอีกอย่างว่าค่าใช้จ่ายประจำ ก็จะมีดังนี้คือ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าผ่อนชำระหนี้สินต่างๆ ค่าโทรศัพทื ค่าอินเทอร์เน็ต เป็นต้นค่ะ ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้เป็นค่าใช้จ่ายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และเป็นค่าใช้จ่ายที่คุณสามารถรู้ล่วงหน้าและมีบิลทุกครั้งทำให้ค่าใช้จ่ายเหฃ่านี้ไม่ค่อยตกหล่นสูญหายสักเท่าไหร่ การแบ่งเงินไว้สำหรับค่าใช้จ่ายเหล่านี้จึงทำได้ไม่ยากและควรจะทำ ไม่อย่างนั้นจะส่งผลกระทบการใช้ชีวิตของเราค่ะ เช่นไม่จ่ายค่าน้ำค่าไฟก็จะโดนตัดน้ำตัดไฟได้ถ้าอย่างนั้นก็เดือนร้อนแน่ๆ
ค่าใช้จ่ายผันแปร
ค่าใช้จ่ายผันแปร หรือเรียกอีกอย่างได้ว่าค่าใชจ่ายที่มีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ ซึ่งก็จะเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่แน่นอนมีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวัน แต่ละเดือน เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่ารักษพยาบาล เป็นต้น ค่าใช้จ่ายเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้อยู่เสมอ ซึ่งจะทำให้การแยก หรือแบ่งค่าใช้จ่ายประเภทนี้ไว้จะยากนิดหน่อยเพราะไม่สามารถประมาณจำนวนค่าใช้จ่ายที่แน่นอนได้ อาจจะพยายามแบ่งเงินส่วนนี้ไว้ 30 – 40 % #
ค่าใช้จ่ายเพื่อการออม และการลงทุน
ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ที่ต้องแบ่งไว้เป็นส่วนที่จำเป็นมากๆเช่นกัน อาจจะไม่ได้เป็นค่าใช้จ่ายที่จะนำมาจ่ายในตอนนี้แค่เป็นเงินเพื่อค่าใช้จ่ายในอนาคตค่ะ ดังนั้นการแบ่งเงินไว้เพื่อค่าใช้จ่ายส่วนนี้ต้องมีการวางแผนที่ชัดเจนและตั้งใจ เช่นการเก็บเงินเพื่อ ซื้อรถ ซื้อบ้าน และการทำประกันเพื่อช่วงวัยเกษียณ เป็นต้น และในส่วนของการลงทุนนั้นก็เป็นสิ่งที่ตามมาค่ะ เมื่อคุณมีการเก็บออมแล้วก็สามารถแบ่งเงินนั้นมาลงทุนบ้างในความเสี่ยงที่คุณเองคิดว่าสามารถรับได้นะคะ อย่างเช่นคุณควรจะแบ่งเงินส่วนนี้จากรายได้ประมาณ 20% ค่ะ
การแยกและแบ่งค่าใช้จ่ายเป็นประเภทต่างๆ สามประเภทที่บอกมาแล้ว ก็ควรแยกบัญชีในส่วของค่าใช้จ่ายแต่ละประเภทด้วยนะคะ เพื่อจะได้ไมสับสนนำเงินไปใช้มั่วๆ เพราะถ้าไม่แยกบัญชีอาจจะมีการเผลอนำเงินจากบัญชีอื่นที่ไม่ใช่ของมันมาใช้ได้แล้วคุณก็จะงงเองนะคะ
ชำระแบบตัดบัญชีอัตโนมัติ
การจัดการค่าใช้จ่ายแบบคนรุ่นใหม่ที่สร้างความสะดวกอีกวิธีหนึ่งคือ ชำระค่าใช้จ่ายโดยตัดเงินในบัญชีไปเลยแบบอัตโนมัติ ซึ่งสามารถชำระค่าใช้จ่ายโดยวิธีนี้ได้หลายอย่างเช่น ค่าโทรศัพท์มือถือ ค่าบิลบัตรต่างๆ ค่าสาธารณูปโภคต่างๆได้ด้วยค่ะ ซึ่งประโยชน์ของการทำแบบนี้ยอกจากจะช่วยให้สะดวกแล้วยังช่วยประหยัดเงินและเวลาด้วยนะคะ เพราะบางครั้งก็ประหยัดค่าธรรมเนียม และค่าน้ำทันรถในการเดินทางไปจ่ายด้วยตัวเองค่ะ แต่เมื่อมีการชำระค่าใช้จ่ายด้วยวิธีแล้วอย่าละเลยการตรวจเช็ใบเสร็จการชำระเงินให้ดีด้วยนะคะจะได้ไม่ตกหล่นสูญหายแล้วต้องมาจ่ายซ้ำทีหลังอีก แล้วถ้าพบว่าใบเสร็จที่ได้รับมีบางอย่างถูกต้องก็รีบติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ทันทีให้เร็วที่สุดนะคะเพื่อความรวดเร็วนการตรวจสอบค่ะ
ชำระโดยตัดจากบัญชีบัตรเครดิต
สำหรับค่าใช้จ่ายบางอย่างการชำระโดยการตัดบัญชีบัตรเครดิตก็ดีกว่า เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต เป็นต้น เพราะการชำระแบบนี้อาจจะช่วยให้คุณสามารถสะสมแต้มและได้รับสิทธิพิเศษได้ด้วย และประโยชน์ของการชำระค่าใช้จ่ายผ่านทางบัตรเครดิตก็คือ ช่วยให้คุณไม่หลงลืมด้วย
สรุป
ไม่ว่าคุณจะมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง มากน้อยแค่ไหน การใช้วิธีเหล่านี้ที่นำมาฝากกันทั้งวิธีแบบเก่าโดยการจดบันทึก มารวมกับวิธีแบบใหม่ๆก็จะช่วยให้คุณสามารถจัดการค่าใช้จ่ายให้สะดวกรวดเร็วและประหยัดมากขึ้นได้ด้วย อาจจะไม่สามารถช่วยให้คุณลดค่าใช้จ่ายไปได้มากเท่าไหร่ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย และการแบ่งแยกประเภทค่าใช้จ่ายก็จะช่วยให้คุณมีการวางแผนการใช้เงินที่ดี และมาลดค่าใช้จ่ายจากการวางแผนการเงินได้การทำแบบนี้ก็ช่วยให้ค่าใช้จ่ายลดลงได้นะ สรุปว่าวิธีทั้ง 4 วิธีนี้ช่วยให้คุณแบ่งเงินเพื่อค่าใช้จ่ายได้อย่างเป็นสัดส่วน ช่วยสร้างความอดทน การมีวินัยในการเงินของคุณ เพื่อให้คุณสามรถบรรลุเป้าหมายได้และไม่ต้องหัวหมุนเพราะหมุนเงินไม่ทันอีกต่อไป เพราะคุณจะสามารถมองเห็นว่าเงินร่วงไหลไปทางไหนคุณก็จะปิดรอยร่วงนั้นได้ รับรองคุณจะมีเงินเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายได้แน่ๆ
Arisa
ชีวิตคนรุ่นใหม่ดูเหมือนง่ายๆสะดวกสบาย แต่ผมว่ามันก็ออกจะยุ่งๆนะครับต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆไม่รู้จบ พึ่งทำอันนี้เป็นก็มีอันใหม่มาให้ศึกษาอีกแล้ว การเงินก็เหมือนกัน เมื่อก่อนการชำระค่าบริการก็สะดวกไม่ต้องไปถึงสถานที่ต่างๆก็ลำระได้ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส แต่เดี๋ยวนี้ชำระได้ง่ายๆผ่านการตัดบัญชี ผ่านแอพธนาคาร มันก็ดีนะสะดวกดีแต่ก็น่าปวดหัวครับ
Freddy
ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปขนาดไหน การทำบัญชีครอบครัวก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยังจำเป็นต้องทำอยู่ เพราะว่าบัญชีประจำครอบครัวทำให้เราสามารถรู้ว่าเราหมดค่าใช้จ่ายไปกับสิ่งจำเป็นจริงๆไหม และมีรายจ่ายอะไรจริงๆที่เราสามารถตัดได้ไม่ต้องจ่ายจะช่วยให้ครอบครัวประหยัดไปด้วย และบทความนี้ได้อธิบายเรื่องอื่นๆที่สามารถตัดค่าใช้จ่ายได้ด้วยดีมากครับ
ใบหม่อน
การจัดการกับค่าใช้จ่ายเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราจำเป็นต้องคิดถึงในชีวิตของเราค่ะ แล้วถ้าเราไม่มีการจัดการค่าใช้จ่ายในแบบที่มีประสิทธิภาพจะทำให้เราไม่สามารถควบคุมการใช้เงิน ควบคุมค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ทำให้เงินติดลบได้ บทความนี้แนะนำเกี่ยวกับสีวิธีที่จะช่วยให้เราสามารถควบคุมการใช้จ่าย แล้วคอยเตือนเราไม่ให้ใช้เงินเกินตัวค่ะ
Tayika
แม้กระทั่งการจดบันทึกรายรับรายจ่ายสมัยนี้ไม่ต้องจดลงสมุดกันแล้วมาแบบแอปพลิเคชั่น Home Budget Lite เลยนะคะ อืม..สะดวกดี ถ้างั้นหมดข้ออ้างว่าลืมจดเพราะมันอยู่ในโทรศัพท์มือถือแล้ว555 เดี๋ยวนี้ถ้าอยากรรู้วิธีการจัดการเรื่องการเงิน การออมเงิน การลงทุน เข้ามาหาอ่านบทความทางอินเทอร์เน็ตได้ง่ายๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนต้องซื้อหนังสือเป็นเล่มๆเลย
แตงอ่อน
ไม่เคยคิดเรื่องค่าใช้จ่าย แบบ ผันแปรมาก่อนเลยคะ ปกติเราก็คิดว่ามันคือค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายรายวันแบบปกติอยู่แล้ว ไม่ว่าจะจ่ายแพงกว่าเดิมก็ตาม แต่ตอนนี้พอเข้าใจแล้วนึกภาพออกแล้วละคะว่า ทำไมค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ทำไมมันไม่เท่ากันทั้งที่เราไม่ได้จ่ายอะไรเลย แบบนี้ต้องคอยคิดเรื่องนี้ให้มากขึ้นแล้วละคะ เพราะว่าถ้าไม่ควบคุมเรื่องนี้ เราจะทำให้เงินหมดได้จริงๆคะ
นุ่นค่ะ
เรื่องค่าใช้จ่ายเนี่ยดูเบาไม่ได้เลยนะคะ ต้องเอาใจใส่เสมอไม่งั้นเผลอแป้ปเดียวเงินหมดได้ หรือเป็นหนี้ได้เลยนะ และคนรุ่นใหม่ก็มักละลเยการจัดการค่าใช้จ่ายนะเพราะคิดว่าหาเงินง่ายไง ก็เลยใช้จ่ายง่ายไปด้วย มีอะไรใหม่ๆก็ซื้อก็จ่ายหมด บทความนี้ช่วยเตือนได้ดีเลยสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ยังไม่ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการเรื่องเงินของตัวเองในสมัยนี้
ยุย
จริงๆการแยกประเภทค่าใช้จ่ายสำคัญมากๆเลยนะ เพราะว่าถ้า อย่างเช่น เราเองอยู่ตัวคนเดียวเนี่ยทำบัญชีรายรับรายจ่ายบางครั้งเครียดว่าทำไมเดือนนึงเราใช้เยอะจังเลย เงินเก็บไม่ค่อยมี แต่ถ้าเราแยกประเภทค่าใช้จ่าย เราจะรู้ว่าจริงๆแล้วเราใช้เงินไปกับอะไร ถ้าเราใช้เงินไปกับสิ่งที่จำเป็นค่าเช่าหอพักอะไรแบบนี้เยอะ แล้วค่าใช้จ่าย จิปาถะอย่างอื่นน้อย เราก็จะไม่เครียดกับการทำบัญชีด้วยค่ะ
มอมแมม
เราไม่ได้มานั่งจดอะไรแบบนี้แล้วล่ะค่ะ ตอนนี้เราใช้ App เหมือนกับคุณTayikaค่ะ แต่เราใช้ App Piggipo เป็นแอปที่เน้นการจดบันทึกเรื่องบัตรเครดิต เพราะเราเป็นคนมีบัตรเครดิตหลายใบ บางทีรู้สึกงงว่าใช้ใบไหนไปแล้วบ้าง แต่ App นี้ช่วยเราได้เยอะเพราะว่าเราก็จะสามารถดูได้ว่าบัตรใบไหนถึงกำหนดจ่ายเงินวันไหน แต่ละใบมีใช้ไปเท่าไหร่แล้ว แล้วก็มีแจ้งเตือนก่อนครบรอบชำระเงินด้วย ลองไปโหลดมาใช้กันดูนะคะ
น้องนุช
ส่วนตัวแล้วที่เรามักเจอเลยคือค่าใช้จ่ายแบบผันแปรคะ บางทีเราก็กำหนดว่าจะใช้ต่อเดือนเท่าไรแล้วนะ แต่บางทีสินค้าบางอย่างที่เราใช้เป็นประจำ อยู่ๆมันก็ขึ้นมาซะงั๊นแบบนี้เราต้องจ่ายเพิ่มอีก ทำให้เราต้องไปหยิบเงินที่เราตั้งจะเก็บออกมาใช้อีก เลยเป็นเรื่องยากจริงที่เราจะกำหนดการใช้เงินในแต่ละเดือนได้ แบบนี้เราคงต้องเผื่อค่าใช้จ่ายส่วนนี้เอาไว้แล้วละ
นาวา
ผมก็ทำการจดบันทึกรายรับรายจ่ายนะครับ ทำมานานแล้วหลายปีแล้วแต่ผมไม่เห็นว่าผมจะรวยขึ้นเลย แน่นอนว่าช่วยในการที่จะให้เรามีเงินเก็บ แต่ผมยังไม่เห็นช่องทางที่จะทำให้เรารวยขึ้นจากการเก็บเงินที่เรามีอยู่ หรือว่าผมจะหันไปหาหรือพัฒนาในด้านของการลงทุนแทนครับ เพราะผมกลัวว่าเงินที่ผมมีนัดจะหมดไปก็เลยไม่อยากจะเอาไปลงทุนอะไรที่มีความเสี่ยงครับ
แพนด้า
@ใบหม่อน เห็นด้วยค่ะว่าจำเป็นมากๆเพราะว่าถ้าไม่ได้ควบคุมค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนก็มีเงินมากแค่ไหนก็สามารถติดลบได้อย่างเช่นถ้าใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายใช้ทำอย่างอื่นไปตั้งมากมายแต่ไม่มาดูเงินในกระเป๋าตัวเองฉันว่ายังไงคุณแบบนี้ก็จาไม่มีเงินใช้ในอนาคตแน่แน่ก็เลยเห็นด้วยกับความคิดเห็นแล้วก็บทความนี้ที่บอกว่าต้องมีการจัดสรรปันส่วนเงินในชีวิตให้ดี
อภิรดี
อ่านมามีหลายตัวคะที่น่าทำตามมากๆคะ แต่มีตัวหนึ่วคะที่เราว่ามันไม่น่าจะได้เรื่องเลย นั้นคือที่บอกว่า ตัดหนี้ผ่านบัตรเครดิต นะคะ เราว่าตัวนนี้น่าจะเป็นการสร้างหนี้ ให้เรามากกว่าที่จะลดค่าใช้จ่ายของเรานะคะ เพราะถ้าอยากจะจ่ายอัตโนมัติ ทำไมไม่หักจ่ายผ่านบัญชีของเราเองไปเลยคะ ไม่ต้องมาเสียดอกเบี้ยให้บัตรเครดิตอีก
Gluta
การทําบัญชีรายรับรายจ่าย ดิฉันไม่เห็นว่าจะได้ผลประโยชน์ตรงไหน ก็ทำมาตั้งแต่เด็กครูก็สอนให้ทำ แต่พ่อแม่เราไม่เคยทำนะ ดิฉันก็เคยจดอยู่เหมือนกันนะคะแต่จดไปจดมาเราก็ได้แค่รู้ว่าเราได้รับเงินมาเท่าไหร่ใช้จ่ายไปเท่าไหร่ แต่ก็รู้แหละว่าพอรู้แบบนี้แล้วเราก็ต้องปรับเปลี่ยนถ้าสมมุติว่ารายจ่ายของเรามากเกินไปหรืออะไรไม่จำเป็นแต่มันก็ทำได้ยาก เราก็ไม่ค่อยได้ผลโดยช่วยให้เก็บเงินได้เยอะขึ้นเลย