สถานการณ์ความไม่สงบ ในหลายพื้นที่โดยเฉพาะเรื่องของการเมือง ส้รางความกดดันและความขัดแย้งมากขึ้น และมีผลจนถึงระบบการเงินต่างๆ และกินระยะเวลามายาวนานทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจนั้นดูไม่ค่อยจะดีนัก แล้วก็ยังไม่สามารถประเมินวิเคาระห์เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ว่าจะเป็นไปอย่างไรต่อไป ซึ่งทุกวันนี้ นักเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการต่างๆก็ออกมาวิเคาระห์เหตุการณ์ในมุมต่างๆแต่ก็ไม่สามารถให้ข้อมูลที่ชัดเจนได้ บางคนก็พูดว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นแจ่จะขยายตัวช้าๆ บางคนก็พูดว่าจะแย่ลงและทรงตัวแบบนี้ไปอย่างต่อเนื่อง ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัดว่าจะสามารถเชื่อถือการประเมินเหล่านั้นได้ เพราะมีการบิดเบือนความเป็นจริงอยู่บ้าง คุณจึงจำเป็นต้องมีวิจารณญาณที่ดีเมื่อเสพข่าวสารเหล่านี้เพื่อจะตื่นตระหนกมากเกินไป เพราะความเป็นจริงแล้วไม่มีใครสามารถให้ข้อมูลที่จริงได้ และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจนี้ก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้ไปจนถึงปีหน้า เพราะสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่คงตัวและความไม่แน่นอนในหลายๆด้าน โดยเฉพาะเรื่องของการร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังจะผ่านการทำประชามติซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าผลจะออกมาในรูปแบบไหนกันแน่ ประขาขนก็กำลังรอผลกันอยู่อย่างใจจดใจจ่อเพราะมันเกี่ยวข้องกับปากท้องการทำมาหากินของประชาชนด้วย แต่ไม่ว่าผลนั้นจะออกมาอย่างไรก็ตาม คุณที่เป็นคนหนึ่งในประชาชนของประเทศก็ต้องติดตามผลทั้งจากรับบาล และธนาคารในเรื่องของเงินในประเทศต่อไป
แต่ให้เรามาสนใจเหตุการณ์ตอนนี้ และเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวใครหลายๆคนมาก กับภาวะเศรษฐกิจที่กระทบต่อกลุ่มคนชนชั้นกลาง ซึ่งในหลายปรเทศทั่วโลกคนกลุ่มนี้ถือว่ามีจำนวนมาที่มากพอสมควรกลุ่มอื่นๆ ในประเทศไทยก็เช่นกันคนกลุ่มชนชั้นกลางนั้นถือว่ามีจำนวนมากและน่าจะเป็กลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในทุกวันนี้เป็นอันดับต้นๆเลยก็ว่าได้ เรื่องราวเป็นยังไงกันบ้างเรามาดูกันค่ะ
ชนชั้นกลางคือ
ชนชั้นกลาง มักจะเป็นคำที่เรียกกันบ่อยอยู่นะ ส่วนมากก็จะมีการใช้คำนี้ในหนังสือ หนังสือพิมพ์ ในข่าว ในบทความเรื่องเศรษฐกิจ แต่คุณรู้ไหมว่าคำนี้มีความหมายที่ครอบคลุมและกว้างอยู่มาก มาดูกันว่าปกติแล้วมีการใช้คำว่า ชนชั้นกลาง เพื่อถึงอะไรบ้าง? มาเริ่มต้นกันตั้งแต่ประวัติศาสตร์สักหน่อย ในสมัยก่อนนั้น ชนชั้นในสังคม ของแต่ละประเทศมักจะถูกแบ่งออกเป็น 2 – 3 ชนชั้น เช่น
- ชนชั้นปกครอง (กษัตริย์และอำมาตย์)
- ชนชั้นแรงงาน (หรือไพร่)
แต่ต่อมาเมื่อประเทศต่างๆเริ่มมีการค้าพัฒนาขึ้นจึงมีการตั้งชนชั้นกลางขึ้นมา ซึ่งคนชนชั้นกลางนี้ก็คือ เหล่าพ่อค้าวานิชยืในสมัยก่อน แต่ความหมายที่เรียกชนชั้นกลางในปัจจุบันนี้แตกต่างออกไป ปัจจุบัน คำว่า ชนชั้นกลาง จะถูกจัดแบ่งด้วยบานะทางเศรษฐกิจเป็นหลัก โดนใช้เรียกคนที่มีรายได้ปานกลาง ฐานะทางเศรษฐกิจปานกลาง ไม่รวยถึงขั้นเศรษฐี และไม่ลำบากถึงขั้นเป็นคนยากจน หรือเรียกง่ายๆในทุกวันนี้ก็คือ มนุษย์เงินเดือน นั่นเอง ซึ่งเป็นบุคคที่มีรายได้ประจำ จากการเป็นลูกจ้า หรือเป็นเจ้าของกิจการเล็กๆ ที่ยังคงมีความสามาถในการจับจ่ายซื้อของ และใช้บริการต่างๆได้ในระดับหนึ่ง และยังคงมีความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายแต่ไม่ถึงกับหรูหราฟู่ฟ่า และไม่ถึงกับอดมื้อกินมื้อ ปากกัดตีนถีบ หรือหาเช้ากินค่ำขนาดนั้น นี่คือนิยามของคำว่าชนชั้นกลาง ซึ่งต่อไปในบทความจะเรียกว่ามนุษย์เงินเดือนละกันเพื่อจะได้จำง่ายๆ นึกภาพออกง่ายๆ
ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจต่อคนชนชั้นกลาง
ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจต่อคนชนชันกลางนั้น จะเป็นผลกระทบที่มีต่อตัวบุคคลโดยตรง ซึ่งไม่ว่าข้อมูลที่พูดถึงภาวะเศรษฐกิจที่มนุษย์เงินเดือนได้รับนั้นจะเป็นอย่างไรก็ไม่สามารถเชื่อถือได้จริง เพราะคนเหล่านั้นที่ออกมาวิเคราะห์ก็ไม่ได้ตกอยู่ในสภาพที่ได้รับผลกระทบจริงๆ ซึ่งเมื่อมีการสำรวจความคิดเห็นของมนุษย์เงินเดือนตัวจริง ก็พบว่ามีความคิดเห็นที่น่าแปลกใจอยู่บ้าง เนื่องภาวะเศรษฐกิจทุกวันนี้ย่ำแย่ แต่มนุษย์เงินเดือนบางคนกลับไม่เดือดร้อนสักเท่าไหร่ ยังมีความคิดเห็นที่ว่าสถานการณ์ทางการเงินของตนเองและครอบครัวนั้นกลับดีขึ้นด้วยซ้ำ
เมื่อมีความคิดเห็นแบบนี้ก็ยิ่งสร้างความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น จากผลการวิเคาระห์ต่างๆที่ออากมาพูดกัน ทำให้สังคมเกิดข้อสงสัยที่ว่า จะเชื่อถือหรือหาความจริงได้จากที่ไหนกัน? ซึ่งถ้าว่ากันตามผลวิเคาระห์จากธนาคารแห่งประเทศไทยถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศเราก็จะมีข้อสรุปแบบกลางๆว่า (สถานการณ์เศรษฐกิจทุกวันนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อคนชนชั้นกลางมากนัก ทั้งในแง่บวกและในแง่ลบ เป็นสถานกาณ์ที่คงตัว) อาจจะมีขึ้นมีลงบ้างเล็กน้อยเท่านั้น แต่อย่างที่บอกไป ผลการวิเคราะห็นี้ก็ไม่ตรงกับความเป็นจริงของมนุษย์เงินเดือนจริง เพราะบางคนกลับได้รับผลกระทบที่แย่มากต่อภาวะเศรษฐกิจทุกวันนี้ที่ตกต่ำลง จึงไม่อาจสรุปคำตอบที่แน่ชัดได้
แต่ไม่ว่าจะยังไง ไม่ว่าสภาพการณ์ของมนุษย์เงินเดือนคนอื่นๆ หรือผลการวิเคาระห์จะออกมายังไง ถ้าคุณเองเป็นคนหนึ่งที่เป็นคนชนชั้นกลาง หรือมนุษย์เงินเดือน ลองหันมาสำรวจตัวเองว่าคุณเองได้รับกระทบมากน้อยแค่ไหนต่อภาวะเศรษฐกิจทุกวันนี้ ถ้ามันไม่แน่เกินไปก็ต้องคอยประคองตัวค่อไป แต่ถ้ามันแย่ลงเรื่อยคุณคงต้องรีบหาทางออกโดยด่วน สิ่งที่คุณจะต้องสำรวจตัวเองก็มีดังนี้ คือ สภาพคล่องทางการเงินของคุณเป็นอย่างไรบ้าง? ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นมีอะไรติดขัดไหม? ค่าใช้จ่ายที่เป็นหนี้มีการค้างชำระหรือไม่? มีเงินออมเงินสำรองหรือไม่? คำถามเหล่านี้เป็นตัวช่วยให้คุณสำรวจตัวเองได้ค่ะ
การวิเคราะห์ทางการเงินในช่วงปี 2561
การวิเคราะห์ทางการเงินในช่วงปี 2561 มีผลวิเคราะห์ที่ออกมาดังนี้ มีการชี้ว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้นจะอยู่ในสภาวะทรงตัวมากกว่าปีก่อน ใน่สวนของเงินงบประมาณที่ภาครัฐมีการเบิกจ่ายยังคงชะลอตัวอยู่ในขณะที่การใช้จ่ายเงินของภาคเอกชนก็ยังคงอยู่ในภาวะที่ทรงตัวเท่าเดิมเท่ากับปีก่อนๆ แต่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวมาจากเศรษฐกิจของจีนทำให้ภาคธุรกิจของภาคเอกชนยังมีความชะลอตัวทางการเงินของการลงทุนเหมือนเดิม ในส่วนของภาคการท่องเที่ยวนั้นกลับมีการบายตัวขึ้นอย่างชัดเจนจากเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของจีน
เมื่อดูจากผลวิเคราะห์จากธนาคารแห่งประเทศไทยแล้วนั้น ก็เรียกว่าพอจะเชื่อถือได้บ้างแต่ก็อย่าไปปักใจเชื่อไปทั้งหมด 100 % นะคะเผื่อใจเอาไว้บ้างจากความไม่แน่นอน แต่ผลการวิเคราะห์จากธนาคารแห่งประเทศไทยก็จะออกมาแบบไม่หวือหวามากนักพอจะรับได้อยู่มีความคาบเกี่ยวกับความเป็นจริงอยู่บ้าง ไม่เหมือนผลการวิเคราะห์จากนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์แหล่งอื่นๆที่ไม่ค่อยเกี่ยวโยงกับความเป็นจริงเลย ซึ่งบางบทวิเคราะห์ก็บอกว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยนั้นกำลังตกต่ำอย่างที่สุดและจะล่มสลายอีกไม่นาน ไม่ได้มีการขยายตัวหรือเติบโตอย่างแท้จริง
ซึ่งความไม่ตรงกันของข้อมูลจากนักวิเคราะห์ต่างๆทำให้คุณและสังคมเห็นว่า คุณต้องทำความเข้าใจและใช้วิจารณญาณอย่างมากเมื่อติดตามข่าวสารทางเศรษฐกิจทุกวันนี้ และยังคงต้องติดตามข่าวสารนี้ไปเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง แล้วก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่าจะเชื่อถือข่าวสารจากแหล่งไหนมากที่สุดค่ะ
สรุป
จากที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ในฐานะทางสังคม และเศรษฐกิจแบบไหนก็ตาม การติดตาข่าวสารและรับข้อมูลที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำมาปรับใช้กับสถานการณ์การเงินของคุณ และพยายามเสพข่าวสารและเปรียบเทียบข่าวสารจากหลายๆแห่ง เพื่อจะได้ข้อมูลที่จริงที่สุด และต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง และไม่ว่ามนุษย์เงินเดือนอย่างเราจะได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน การสำรวจตัวเองอยู่เสมอก็จะช่วยได้มากไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะไปทางไหน จะแย่ลงหรือดีขึ้นคุณก็พร้อมรับมือได้ค่ะ
Petch
ผมก็เป็นคนนึงที่ครอบครัวเป็นคนชั้นกลาง ถามว่าได้รับผลกระทบไหม? ก็มีบ้างครับ แต่ผมใช้วิธีพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสในช่วงนี้ ดูว่าอะไรเป็นที่นิยมและเป็นกระแสก็จะทำการตลาดในจุดนั้นก็เลยทำให้ไม่ได้รับผลกระทบมากเท่าไหร่ แต่ถามว่ามีชีวิตอู้ฟู้สุขสบายเหมือนคนชั้นสูงไหมก็ไม่ถึงขนาดนั้น คนพวกนั้นเค้าสายป่านยาวครับไม่ลำบากอะไรอยู่แล้ว
Chulabhorn
อันนี้จริงครับ จะอยู่ในชนชั้นกลางและชนชั้นสูง หรือจะฐานะยากจน ถ้าไม่รู้จักตรวจสอบตัวเองอยู่เสมอ ไม่ได้ติดตามสภาพสังคมสภาพเศรษฐกิจก็ล้มได้เหมือนกัน ถ้าถามสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยตอนนี้ที่เป็นขาลงถึงลงมากแล้ว จะอยู่ในชนชั้นไหนก็ได้รับผลกระทบกันนั่นแหละครับผมว่า เพียงแต่ขึ้นอยู่กับวิธีรับมือของแต่ละคนหลังจากนี้ต่างหาก
น้ำฝน
ชนชั้นกลางเป็นแบบนี้เองเหรอคะ ไม่รวยหรือไม่จนจนเกินไป จะเป็นอีกกลุ่มคนนึงที่น่าสนใจเพราะว่า เขาเป็นกลุ่มคนที่เป็นผู้ประกอบการและมีการลงทุน และมีกำลังเพียงพอที่จะขับเคลื่อนทำให้การทำงานของเขาส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศไทย บทความนี้ทำให้เห็นว่าเขาได้รับผลกระทบมากจากความผันผวนทางเศรษฐกิจ เพราะเป็นกลุ่มคนที่ทำธุรกิจกันเยอะเหมือนกันค่ะ
ฐิตตา
"การวิเคราะห์ทางการเงินในช่วงปี 2561ชี้ว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้นจะอยู่ในสภาวะทรงตัวมากกว่าปีก่อน" แล้วในปี 2563 นี้ล่ะคะ เศรษฐกิจบ้านเราอยู่ในสภาวะไหนมีใครรู้บ้างคะ? เราว่าชนชั้นไหนก็ได้รับผลกระทบทั้งนั้น คนที่เคยเป็นชนชั้นกลางจะเปลี่ยนสถานะเป็นคนยากจนบ้างหรือเปล่า ไม่แน่นะอาจจะมี ทำไงได้ก็ต้องสู้ต้องอดทนกันต่อไปค่ะ
พงศพัตร
ดีนะครับที่บ้านผมมีชั้นเดียว เลยไม่ได้เป็นชาชั้นสูง บ้านผมเป็นชน ชั้นเดียวครับ ยิ่งตอนนี้ ช่วงโควิด-19 ยังไม่แน่ใจเลยครับว่าจะเป็นชนชั้นไหนดี เราว่าน่าจะกลายเป็นคนไร้บ้านแน่นอนครับ หลายคนที่เคยมีอันจะกิน ก็ต้องดิ้นรนมากขึ้น งั๊นจะว่ายังไงสำหรับคนที่ไม่มีอนู่แล้ว เขาต้องดิ้นกันมากขนาดไหน หลายคนดิ้นจนตายแล้วก็มี
สุดใจ
เราว่าคนชนชั้นกลางเนี่ยดีสุดแล้วนะ ขนาดตอนนี้ที่เจอวิกฤติเศรษฐกิจจากโควิด คนชนชั้นกลางยังสามารถอยู่ได้ไม่เดือดร้อนนักเมื่อเทียบกับคนที่มีธุรกิจหรือเรียกว่าคนร่ำคนรวย หรือเมื่อเทียบกับคนที่ยากจนไปเลย เพราะเราก็ถือว่าเป็นคนหนึ่งที่เป็นคนชนชั้นกลาง ฐานะที่บ้านปานกลาง ไม่รวยมาก ไม่จนมาก ชีวิตตอนนี้ก็ไม่ได้ลำบากมากเท่าไหร่ก็เลยพูดได้
มีตังค์
พูดถึงเศรษฐกิจแบบนี้จะชนชั้นไหนก็เดือดร้อนหมดทุกชนชั้นนั่นแหละ เศรษฐกิจแบบนี้มันเป็นทั่วทั้งโลก เรานึกว่าคำนี้มันจะหมดไปจากโลกซะแล้วนะเนี่ย คำว่า"ชนชั้น" เนี่ย ไม่น่าจะเอามาใช้แล้วในยุคนี้ บอกตรงๆว่าไม่ชอบคำนี้เลย ทำยังกับอยู่อินเดียอย่างนั้นแหละ จะดีกว่านะคะถ้าบทความนี้ใช้คำว่า คนที่ทำธุรกิจ หรือคนทั่วๆไปที่ไม่ได้เดือดร้อนทางการเงินมาก อย่างนี้จะฟังดูดีกว่าคะ
มิว
แต่เราว่าจะชนชั้นไหนก็ได้รับผลกระทบหมดนะคะ นอกจากคนที่มีเงินใช้เป็นมหาเศรษฐีจริงๆนี้คงไม่ได้รับผลกระทบ ชนชั้นกลางอาจจะได้รับผลกระทบบ้าง แต่เราเองไม่ใช่ชนชั้นกลาง แต่ก็ไม่ได้จนตรอกขนาดนั้น แต่ยอมรับเลยว่าช่วงพิษเศรษฐกิจที่ผ่านมานี้ได้รับผลกระทบไม่น้อยแต่ก็ยังพออยู่ได้สงสารหลายคนค่ะที่ต้องปิดกิจการ เศรษฐกิจเวลามีปัญหานี้มันไม่ไว้หน้าใครจริงๆ
มิร่า
บ้านผมมีสองชั้นครับ ชั้นบนกับชั้นล่างครับ ตอนนี้ ชั้นล่างไม่ค่อยได้อยู่กันเท่าไรครับ จะมาอยู่ชั้นบนกันซะส่วนใหญ่ครับ ชั้นล่างเอาไว้เก็บของเก็บเครื่องมือช่างของที่บ้านนะครับ แต่อยู่ชั้นบนก็เสียวๆนะครับ มันไม่ได้อยู่ติดดินเลยครับ เวลาลงชั้นล่างมันก็เลยรู้สึกแปลกๆครับ แต่ดีอย่างครับที่อยู่ชั้นบนคือช่วงเวลากลางคืนอากาศเย็นสบายครับ แถมวิวยังสวยด้วยครับ
วายุ
คนชนชั้นกลางก็ได้รับผลกระทบด้วยเหมือนกันครับ ไม่ว่าชนชั้นไหนจะเป็นชนชั้นต่ำหรือชนชั้นสูงก็ได้รับผลกระทบด้วย เพราะว่าเราทุกคนต้องอยู่ในโลกและสภาพเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในตอนนี้ไม่ได้ดีขึ้น ทำให้เกิดผลที่ตามมาก็คือประชาชนได้รับผลกระทบนั่นแหละครับ เรื่องนี้ส่งผลในค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายในแต่ละวันก็เพิ่มมากขึ้นด้วยในขณะที่รายรับก็ลดลง
ไออุ่น
@วายุ ใช่ค่ะเห็นด้วย คนรวยยังลำบากเดือดร้อนเลยทุกวันนี้ ขนาดดาราที่เราคิดว่าเขามีเงินถุงเงินถัง ก็ยังทยอยขายทรัพย์สินเริ่มต้นจากขายรถเห็นหลายคนเหมือนกันนะคะ อย่างนั้นก็อย่าว่าแต่คนที่อยู่ในชนชั้นกลางเลย แล้วคนชั้นล่างคนยากคนจนจะเหลืออะไร ก็ลำบากกันหมดค่ะดูข่าวทุกวันนี้ก็สงสารมาก แต่ก็ช่วยอะไรได้ไม่มากคิดว่าลำบากทั่วถึงกันหมดค่ะ