ในปัจจุบันนี้มีร้ายบุฟเฟต์มากมายหลายที่มาก และคนไทยหลายคนชอบกินอาหาารบุฟเฟย์มากเพราะมันคุ้มดี แต่หลายร้านก็ปิดตัวลงเนื่องจากรายได้ที่ไม่พอหรือค่าใช้จายที่มากเกินไป แล้วถ้าเราคิดอยากจะเปิดร้านบุฟเฟต์ที่เปิดแล้วรุ่งเรืองจะมีวิธีไหม? ในบทความนี้จะให้เรารู้ถึงทำยังไง ถึงจะเปิดร้านบุฟเฟ่ต์ให้มีคนมาเยอะๆและธุรกิจไปได้ด้วยดี

ร้านบุฟเฟต์แบบใดบ้างที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน?

ร้านบุฟเฟต์แบบใดบ้างที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน?

ในปัจจุบันนี้แน่นอนว่าร้านบุฟเฟ่ต์เป็นที่นิยมในแถบเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่นอาหารนานาชาติหรืออาหารไทย ก็มีความแตกต่างหลากหลายและนิสัยของคนไทยเองก็ชอบกินอาหารแบบนี้อยู่แล้วพวกเขาไม่กังวลว่าจะต้องจ่ายเงิน หรือนั่งกินนานๆพวกเขาชอบด้วยซ้ำ หลายคนจึงหันมาทำธุรกิจร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ ไม่ว่าจะเป็นร้านหมูกระทะ ไก่ย่างส้มตำ ขนมจีน ชาบูชาบู เยอะมากมายเลยจริงๆว่าจะไปจังหวัดไหนคุณก็จะเห็นร้านพวกนี้เต็มไปหมดและคุณรู้ไหมแต่ละร้านคนเข้าเยอะมากเราจึงอยากรู้ว่าพวกเขามีเคล็ดลับอะไรบ้างที่ทำให้ร้านบุฟเฟ่ต์นั้นมีคนเข้ามาเยอะแบบนั้น ให้เรามาดูกันเลยว่ามีวิธีไหนบ้างที่ทำให้ร้านบุฟเฟ่ต์มีความประสบผลสำเร็จได้เรามีเคล็ดลับมาฝากกันให้เรามาดูกันเลย

มีวิธีใดบ้างเพื่อที่จะทำให้ร้านบุฟเฟต์ที่คุณลงทุนประสบความสำเร็จ?

มีวิธีใดบ้างเพื่อที่จะทำให้ร้านบุฟเฟต์ที่คุณลงทุนประสบความสำเร็จ?

ไม่มีหลายวิธีมากที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราสามารถที่จะประสบผลสำเร็จในการทำธุรกิจร้านบุฟเฟ่ต์ได้ เรามีอยู่ 5 เคล็ดลับด้วยการให้เรามาดู แต่ละเคสครับว่าต้องทำอย่างไรบ้างดังนี้…

1. ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าเมื่อเข้ามาร้านของคุณ

มาที่ข้อแรกก็คือการทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าแน่นอนว่าลูกค้าที่จะเข้ามากินอาหารบุฟเฟ่ต์นั้นพวกเขาจะต้องคำนึงถึงความคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายอย่างแน่นอน ถ้าคุณตั้งราคาแพงจนเกินไปพวกเขาก็จะรู้สึกไม่คุ้มค่าที่จะเข้ามาทานอาหารบุฟเฟ่ต์ในร้านของคุณแต่ถ้าคุณตั้งราคาที่เหมาะสมและ สามารถกินได้ไม่อั้นนั้นก็เป็นวิธีที่ดีมากเลยทีเดียว ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกว่ามั่นใจว่าเมนูที่ควรจะให้นั้นทำให้เขารู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่ได้เสียไป และอีกอย่างหนึ่งก็คือลูกค้าพวกเขาจะต้องเป็นกลุ่มที่สามารถเลือกได้เสมอเราไม่ต้องทำเหมือนกับว่าเราเป็นพ่อค้าแม่ค้าสามารถเลือกให้ลูกค้าได้แต่ลูกค้าจะรู้สึกว่าคุณบังคับเขาหรือรู้สึกอึดอัด และไม่มีความ สะดวกที่จะอยู่กินบุฟเฟ่ต์ในร้านของคุณดังนั้นต้องทำให้เขารู้สึกว่าไม่อยากไปที่ร้านอื่นเพราะร้านคุณดีที่สุด

2. ทำให้การบริหารจัดการร้านของคุณมีต้นทุนให้ดีก่อน

และเรื่องการบริหารจัดงานร้านให้มีต้นทุนอยู่เสมอเรื่องนี้ก็สำคัญมากเพราะคุณจะไม่สามารถบริหารจัดการอะไรได้ถ้าคุณไม่ตรวจวัดเองก่อนว่าคุณมีความสามารถ ในการจ่ายต้นทุนทั้งหมดไหมหรือคุณอาจจะคิดก่อนว่าในแต่ละเมนูที่คุณจะลงทุนกับมันนั้นมีอะไรบ้างและควรจะได้กำไรกลับมาเท่าไร ซึ่งปกติแล้วเราไม่สามารถบังคับลูกค้าได้ว่าจะต้องกินแบบนี้เท่านั้น ดังนั้นเราควรที่จะคิดถึงความเป็นจริงว่าถ้าเราเองไปกินร้านบุฟเฟ่ย์คุณจะอยากกินในร้านแบบไหน

3. ทำให้บริหารของเสียให้เหลือน้อยที่สุดเมื่อลูกค้าเข้าร้าน

ตามปกติแล้วถ้าคุณเปิดร้านบุฟเฟ่ต์อาจจะมีของเหลือเพราะลูกค้าชอบสักของในร้านเกินดังนั้นคุณจะทำยังไงให้ของในร้านเหลือน้อยที่สุด เพราะถ้าคุณอยากได้กำไรเพิ่มคุณจะต้องใส่ใจรายละเอียดและมองหาไอเดียที่จะทำให้ ไม่ขาดทุนในเรื่องต้นทุนวัตถุดิบ คุณอาจจะลดโอกาสที่ทำให้ลูกค้ากินของเหลือได้น้อยลงได้โดยการที่คุณอาจติดป้ายไว้ว่าถ้าของเหลือ อาจจะคิดเงินขีดละเท่าไหร่อะไรทำนองนี้ ก็จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าไม่ควรตักมาเกินที่ตัวเองจะกินไหว

4. ควรคิดให้ดีก่อนทุกครั้งที่จะคิดโปรโมชั่นต่างๆให้ลูกค้า

คนที่ทำร้านบุฟเฟ่ส่วนใหญ่พวกเขาจะรู้วิธีการทำตลาดก็คือลดราคาจากราคาเต็มอาจจะลดลงมาทำให้ลูกค้า อยากมาในช่วงที่มีโปรโมชั่นนะมีลูกค้าเต็มร้านอยู่ตลอดเวลาและนั่นแหละจะทำให้คุณมีโอกาส ทำให้ลูกค้าหลายเข้ามาในร้านของคุณไม่ใช่เข้าไปในร้านของคู่แข่งที่อาจจะเสนอราคาโปรโมชั่นดีกว่าของคุณหรือเปล่า ดังนั้นก่อนที่คุณจะทำโปรโมชั่น อะไร คนจะต้องได้ลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มาจากโปรโมชั่นที่คุณตั้งขึ้นนั้นก็จะทำให้คุณไม่เสียลูกค้ากลุ่มเดิมและยังสามารถมีลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามาหาคุณได้

5. รักษารสชาติและบริการที่เป็นพื้นฐานสำคัญที่สุด

ข้อหานี้คือการรักษารสชาติและบริการที่ดีเป็นข้อที่สำคัญที่สุดเพราะ ลูกค้าเขาจะมองที่ความคุ้มค่าแต่ก็ไม่เพียงแค่นั้นถ้ารสชาติของอาหารไม่อร่อยพวกเขาก็อาจจะไม่กลับมาอีกเลยหรือมีบริการที่ไม่ดีพวกเขาก็จะรู้สึกอยากไปร้านอื่นมากกว่าดังนั้นรสชาติอาหารและบริการเป็นเรื่องที่สำคัญมากพวกเขาจะรู้สึกว่าการเสียเงินของพวกเขาจะต้องไม่รู้สึกไม่ดีแต่ให้รู้สึกคุ้มค่ากับสิ่งที่เขาจะได้รับ ดังนั้นควรตั้งใจทําอาหารเอาใจใส่ในทุกๆจานและให้บริการอย่างดีและ ถ้าคุณต้องการลดค่าใช้จ่ายอย่าให้คุณเลือกที่จะให้บริหารเกี่ยวกับต้นทุนก่อนที่จะลดคุณภาพของอาหารหรือบริการ เพราะถ้าคุณลดคุณภาพ ของวัตถุดิบโอกาสของลูกค้าที่จะเลิกใช้บริการของคุณก็มากกว่าถ้าคุณเลือกลดต้นทุนลงจากสิ่งอื่นๆ การทำร้านบุฟเฟ่นั้นก็มีความละเอียดอ่อนที่คุณจะต้องคิดถึงด้วยเพราะความสะอาดเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ

มีข้อควรระวังอะไรบ้างในการเปิดร้านบุฟเฟต์?

มีข้อควรระวังอะไรบ้างในการเปิดร้านบุฟเฟต์?

เนื่องจากการเปิดร้านบุฟเฟ่ต์ เป็นร้านที่มีผู้คนเข้ามามากมายนับไม่ถ้วนจึงยากมากที่เราจะใส่ใจรายละเอียดทั้งหมดดังนั้นจะมี 5 ข้อด้วยการที่เราควรระวังถ้าเราคิดอยากจะเปิดร้าน หรือมีธุรกิจเกี่ยวกับร้านบุฟเฟ่ต์ต่างๆ ดังนี้…

1. ระวังต้นทุนของวัตถุดิบที่สูงเกินไป

ในเรื่องนี้เรามักจะใส่ใจเกี่ยวกับต้นทุนของวัตถุดิบที่เรานำมาประกอบอาหารในร้านอยู่แล้วแต่เราควรที่จะจำกัดหรือควบคุมการกินของลูกค้าแต่มันเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมากหรือทำไม่ได้เลยยิ่งถ้าพวกเขาจ่ายในราคาที่แพงอยู่แล้วเราก็ไม่สามารถที่จะบังคับเขาได้ ดังนั้น วัตถุดิบ ที่มีต้นทุนไม่เท่ากันในทุกๆปีเราจะต้องปรับตัวและวางแผนอย่างดีว่าจะส่งผลกับการขายของเรามากน้อยแค่ไหน

2. ควรคำนึงถึงกับพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมถ้ามีพื้นที่น้อยเกินไป

ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ทั่วไปพวกเขาจะได้กำไรจากราคาที่ลูกค้าจ่ายมาเป็นรายบุคคลซึ่งทำให้รองรับลูกค้าได้ ดังนั้นเราจะสังเกตได้ว่าร้านอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์หมูกระทะ ปิ้งย่าง หรือร้านชาบู ส่วนใหญ่มักมีขนาดใหญ่ เพื่อชดเชยกำไรต่อหัวที่หายไปนั่นเอง เราควรที่จะมีร้านแบบนี้และทำให้เรามีกำไรโดยที่ไม่ขาดรายได้

3. การควบคุมวัตถุดิบที่เสียเป็นข้อท้าทายมาก

การที่เราจะมีร้านอาหารประเภทบุฟเฟต์นั้นเราจะควบคุมการสูญเสียวัตถุดิบได้ยากมากเพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะกินเฉพาะสิ่งที่ตัวเองชอบ และอาหารก็จะเหลือถ้าเป็นอาหารที่ลูกค้าไม่ชอบดังนั้นเราต้อง เลือกว่าอาหารประเภทไหนที่ลูกค้าสามารถลุกไปตัดเองได้ หรือเราควรเก็บอาหารที่ลูกค้าชอบเพื่อเราจะเสิร์ฟให้ลูกค้าเอง เพราะว่าเราควรที่จะคาดเดาพฤติกรรมของลูกค้าว่ามีโอกาสที่อาหารเหลือสูงแค่ไหน มันจะควบคุม ไม่ให้ของเหลือ และส่งผลให้ต้นทุนของทางร้านเพิ่มขึ้นอีกด้วย ดังนั้นดีกว่าถ้าเราจะตั้งกฎในร้านของเราเช่นจะปรับเงินลูกค้าถ้าหากตากอาหารเกินความต้องการ

4. เวลาที่ลูกค้านั่งนานจนเกินเวลา

ร้านบุฟเฟ่ต์อาหารทั่วไปก็กินได้ไม่จำกัดแต่บางที่เขาก็กำหนดเวลาว่า 1-2 ชั่วโมงเพราะไม่ให้ลูกค้านั่งนานจนเกินไปแล้วรักษารอบของลูกค้าท่านอื่นที่จะมานั่งกิน แล้วเมื่อเปรียบเทียบ กับการขายแล้วถ้าเราทำแบบนี้ก็จะมีโอกาส ได้กำไรมากกว่า

5. การจัดการเรื่องเวลา หรือระบบการทำงาน

ทุกวันนี้มีการแข่งขันทางด้านธุรกิจเกี่ยวกับอาหารสูงมากดังนั้นเราต้องเน้นที่คุณภาพและรสชาติการบริการของเราให้รักษามาตรฐานไว้อย่างดีแล้วเมื่อเราพัฒนาคุณภาพของเราจะต้องเปลี่ยนลักษณะการให้บริการทำให้อาหารทุกจานสดใหม่อยู่ตลอดเวลา เมื่อร้านบุฟเฟ่ต์มีอาหารที่มากขึ้นก็จะต้องมีจำนวนพนักงานที่เพียงพอเพื่อที่จะบริการลูกค้าด้วยถ้าเรารักษา เรื่องนี้อย่างสมดุลแน่นอนว่ากิจการธุรกิจบุฟเฟ่ต์ของคุณจะเป็นไปได้ด้วยดีแน่นอน

สรุป: การเปิดร้านธุรกิจบุฟเฟ่ต์ดีและน่าสนใจมาก

สรุป: การเปิดร้านธุรกิจบุฟเฟ่ต์ดีและน่าสนใจมาก

เราจะเห็นได้ว่าการเปิดร้านบุฟเฟ่ต์ทั่วไปก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียแต่ถ้าคุณพยายามตามทันปัจจัยของเศรษฐกิจคนก็จะรู้ว่า ควรที่จะตามทันเศรษฐกิจยังไงเราควรที่จะมองหาว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคพวกเขาอยากกินของแบบไหนแล้วคาดการณ์ในเรื่องค่าใช้จ่ายไว้ว่าแต่ละมื้อเราจะต้องลงทุนเท่าไหร่ดังนั้นบุฟเฟ่ต์ที่มีราคากำหนดตายตัว การทำธุรกิจและทำงานทุกอย่างก็ต้องมีความเหนื่อยล้าอย่างแน่นอนยิ่งเป็นงานธุรกิจเกี่ยวกับบุฟเฟ่ต์จะต้องมีลูกค้ามากมายที่เราต้องเอาใจเขาดังนั้น เราอาจจะเหนื่อยที่บางครั้งอาจจะมีปัญหา และไหนยังจะต้องนับเงินอีกว่าวันนี้ขายได้เท่าไหร่มีต้นทุนยังไงและการเตรียมของสำหรับขายก็เยอะมากๆการบริการอาจจะควบคุมไม่ทั่วถึง ซึ่งบางครั้งลูกค้าก็อาจจะร้องเรียนได้ง่าย พวกเราต้องรักษาหัวใจของลูกค้าเอาไว้ ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจและเอาใจลูกค้า ให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่เขาจ่าย และที่เราควรระวังอีกอย่างหนึ่งก็คือร้านบุฟเฟ่ส่วนใหญ่แล้วจะมีลักษณะที่ลูกค้าสามารถเดินไปตักอาหารเองได้ดังนั้นเราจะต้องระวังว่าอาจจะมีการขโมยวัตถุดิบกลับบ้านหรือแบบนำอาหารไปบริการ คนที่ไม่ได้จ่ายเงิน อะไรประมาณนี้อาจจะมีช่องโหว่ที่ลูกค้ามา 4 คนแต่อาจจะ จ่ายเพียงแค่ 3 คนซึ่งอาจลืมนับไปว่าพวกเขามากี่คน