ในปัจจุบันนี้มีร้ายบุฟเฟต์มากมายหลายที่มาก และคนไทยหลายคนชอบกินอาหาารบุฟเฟย์มากเพราะมันคุ้มดี แต่หลายร้านก็ปิดตัวลงเนื่องจากรายได้ที่ไม่พอหรือค่าใช้จายที่มากเกินไป แล้วถ้าเราคิดอยากจะเปิดร้านบุฟเฟต์ที่เปิดแล้วรุ่งเรืองจะมีวิธีไหม? ในบทความนี้จะให้เรารู้ถึงทำยังไง ถึงจะเปิดร้านบุฟเฟ่ต์ให้มีคนมาเยอะๆและธุรกิจไปได้ด้วยดี
ร้านบุฟเฟต์แบบใดบ้างที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน?
ในปัจจุบันนี้แน่นอนว่าร้านบุฟเฟ่ต์เป็นที่นิยมในแถบเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่นอาหารนานาชาติหรืออาหารไทย ก็มีความแตกต่างหลากหลายและนิสัยของคนไทยเองก็ชอบกินอาหารแบบนี้อยู่แล้วพวกเขาไม่กังวลว่าจะต้องจ่ายเงิน หรือนั่งกินนานๆพวกเขาชอบด้วยซ้ำ หลายคนจึงหันมาทำธุรกิจร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ ไม่ว่าจะเป็นร้านหมูกระทะ ไก่ย่างส้มตำ ขนมจีน ชาบูชาบู เยอะมากมายเลยจริงๆว่าจะไปจังหวัดไหนคุณก็จะเห็นร้านพวกนี้เต็มไปหมดและคุณรู้ไหมแต่ละร้านคนเข้าเยอะมากเราจึงอยากรู้ว่าพวกเขามีเคล็ดลับอะไรบ้างที่ทำให้ร้านบุฟเฟ่ต์นั้นมีคนเข้ามาเยอะแบบนั้น ให้เรามาดูกันเลยว่ามีวิธีไหนบ้างที่ทำให้ร้านบุฟเฟ่ต์มีความประสบผลสำเร็จได้เรามีเคล็ดลับมาฝากกันให้เรามาดูกันเลย
มีวิธีใดบ้างเพื่อที่จะทำให้ร้านบุฟเฟต์ที่คุณลงทุนประสบความสำเร็จ?
ไม่มีหลายวิธีมากที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราสามารถที่จะประสบผลสำเร็จในการทำธุรกิจร้านบุฟเฟ่ต์ได้ เรามีอยู่ 5 เคล็ดลับด้วยการให้เรามาดู แต่ละเคสครับว่าต้องทำอย่างไรบ้างดังนี้…
1. ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าเมื่อเข้ามาร้านของคุณ
มาที่ข้อแรกก็คือการทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าแน่นอนว่าลูกค้าที่จะเข้ามากินอาหารบุฟเฟ่ต์นั้นพวกเขาจะต้องคำนึงถึงความคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายอย่างแน่นอน ถ้าคุณตั้งราคาแพงจนเกินไปพวกเขาก็จะรู้สึกไม่คุ้มค่าที่จะเข้ามาทานอาหารบุฟเฟ่ต์ในร้านของคุณแต่ถ้าคุณตั้งราคาที่เหมาะสมและ สามารถกินได้ไม่อั้นนั้นก็เป็นวิธีที่ดีมากเลยทีเดียว ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกว่ามั่นใจว่าเมนูที่ควรจะให้นั้นทำให้เขารู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่ได้เสียไป และอีกอย่างหนึ่งก็คือลูกค้าพวกเขาจะต้องเป็นกลุ่มที่สามารถเลือกได้เสมอเราไม่ต้องทำเหมือนกับว่าเราเป็นพ่อค้าแม่ค้าสามารถเลือกให้ลูกค้าได้แต่ลูกค้าจะรู้สึกว่าคุณบังคับเขาหรือรู้สึกอึดอัด และไม่มีความ สะดวกที่จะอยู่กินบุฟเฟ่ต์ในร้านของคุณดังนั้นต้องทำให้เขารู้สึกว่าไม่อยากไปที่ร้านอื่นเพราะร้านคุณดีที่สุด
2. ทำให้การบริหารจัดการร้านของคุณมีต้นทุนให้ดีก่อน
และเรื่องการบริหารจัดงานร้านให้มีต้นทุนอยู่เสมอเรื่องนี้ก็สำคัญมากเพราะคุณจะไม่สามารถบริหารจัดการอะไรได้ถ้าคุณไม่ตรวจวัดเองก่อนว่าคุณมีความสามารถ ในการจ่ายต้นทุนทั้งหมดไหมหรือคุณอาจจะคิดก่อนว่าในแต่ละเมนูที่คุณจะลงทุนกับมันนั้นมีอะไรบ้างและควรจะได้กำไรกลับมาเท่าไร ซึ่งปกติแล้วเราไม่สามารถบังคับลูกค้าได้ว่าจะต้องกินแบบนี้เท่านั้น ดังนั้นเราควรที่จะคิดถึงความเป็นจริงว่าถ้าเราเองไปกินร้านบุฟเฟ่ย์คุณจะอยากกินในร้านแบบไหน
3. ทำให้บริหารของเสียให้เหลือน้อยที่สุดเมื่อลูกค้าเข้าร้าน
ตามปกติแล้วถ้าคุณเปิดร้านบุฟเฟ่ต์อาจจะมีของเหลือเพราะลูกค้าชอบสักของในร้านเกินดังนั้นคุณจะทำยังไงให้ของในร้านเหลือน้อยที่สุด เพราะถ้าคุณอยากได้กำไรเพิ่มคุณจะต้องใส่ใจรายละเอียดและมองหาไอเดียที่จะทำให้ ไม่ขาดทุนในเรื่องต้นทุนวัตถุดิบ คุณอาจจะลดโอกาสที่ทำให้ลูกค้ากินของเหลือได้น้อยลงได้โดยการที่คุณอาจติดป้ายไว้ว่าถ้าของเหลือ อาจจะคิดเงินขีดละเท่าไหร่อะไรทำนองนี้ ก็จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าไม่ควรตักมาเกินที่ตัวเองจะกินไหว
4. ควรคิดให้ดีก่อนทุกครั้งที่จะคิดโปรโมชั่นต่างๆให้ลูกค้า
คนที่ทำร้านบุฟเฟ่ส่วนใหญ่พวกเขาจะรู้วิธีการทำตลาดก็คือลดราคาจากราคาเต็มอาจจะลดลงมาทำให้ลูกค้า อยากมาในช่วงที่มีโปรโมชั่นนะมีลูกค้าเต็มร้านอยู่ตลอดเวลาและนั่นแหละจะทำให้คุณมีโอกาส ทำให้ลูกค้าหลายเข้ามาในร้านของคุณไม่ใช่เข้าไปในร้านของคู่แข่งที่อาจจะเสนอราคาโปรโมชั่นดีกว่าของคุณหรือเปล่า ดังนั้นก่อนที่คุณจะทำโปรโมชั่น อะไร คนจะต้องได้ลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มาจากโปรโมชั่นที่คุณตั้งขึ้นนั้นก็จะทำให้คุณไม่เสียลูกค้ากลุ่มเดิมและยังสามารถมีลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามาหาคุณได้
5. รักษารสชาติและบริการที่เป็นพื้นฐานสำคัญที่สุด
ข้อหานี้คือการรักษารสชาติและบริการที่ดีเป็นข้อที่สำคัญที่สุดเพราะ ลูกค้าเขาจะมองที่ความคุ้มค่าแต่ก็ไม่เพียงแค่นั้นถ้ารสชาติของอาหารไม่อร่อยพวกเขาก็อาจจะไม่กลับมาอีกเลยหรือมีบริการที่ไม่ดีพวกเขาก็จะรู้สึกอยากไปร้านอื่นมากกว่าดังนั้นรสชาติอาหารและบริการเป็นเรื่องที่สำคัญมากพวกเขาจะรู้สึกว่าการเสียเงินของพวกเขาจะต้องไม่รู้สึกไม่ดีแต่ให้รู้สึกคุ้มค่ากับสิ่งที่เขาจะได้รับ ดังนั้นควรตั้งใจทําอาหารเอาใจใส่ในทุกๆจานและให้บริการอย่างดีและ ถ้าคุณต้องการลดค่าใช้จ่ายอย่าให้คุณเลือกที่จะให้บริหารเกี่ยวกับต้นทุนก่อนที่จะลดคุณภาพของอาหารหรือบริการ เพราะถ้าคุณลดคุณภาพ ของวัตถุดิบโอกาสของลูกค้าที่จะเลิกใช้บริการของคุณก็มากกว่าถ้าคุณเลือกลดต้นทุนลงจากสิ่งอื่นๆ การทำร้านบุฟเฟ่นั้นก็มีความละเอียดอ่อนที่คุณจะต้องคิดถึงด้วยเพราะความสะอาดเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ
มีข้อควรระวังอะไรบ้างในการเปิดร้านบุฟเฟต์?
เนื่องจากการเปิดร้านบุฟเฟ่ต์ เป็นร้านที่มีผู้คนเข้ามามากมายนับไม่ถ้วนจึงยากมากที่เราจะใส่ใจรายละเอียดทั้งหมดดังนั้นจะมี 5 ข้อด้วยการที่เราควรระวังถ้าเราคิดอยากจะเปิดร้าน หรือมีธุรกิจเกี่ยวกับร้านบุฟเฟ่ต์ต่างๆ ดังนี้…
1. ระวังต้นทุนของวัตถุดิบที่สูงเกินไป
ในเรื่องนี้เรามักจะใส่ใจเกี่ยวกับต้นทุนของวัตถุดิบที่เรานำมาประกอบอาหารในร้านอยู่แล้วแต่เราควรที่จะจำกัดหรือควบคุมการกินของลูกค้าแต่มันเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมากหรือทำไม่ได้เลยยิ่งถ้าพวกเขาจ่ายในราคาที่แพงอยู่แล้วเราก็ไม่สามารถที่จะบังคับเขาได้ ดังนั้น วัตถุดิบ ที่มีต้นทุนไม่เท่ากันในทุกๆปีเราจะต้องปรับตัวและวางแผนอย่างดีว่าจะส่งผลกับการขายของเรามากน้อยแค่ไหน
2. ควรคำนึงถึงกับพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมถ้ามีพื้นที่น้อยเกินไป
ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ทั่วไปพวกเขาจะได้กำไรจากราคาที่ลูกค้าจ่ายมาเป็นรายบุคคลซึ่งทำให้รองรับลูกค้าได้ ดังนั้นเราจะสังเกตได้ว่าร้านอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์หมูกระทะ ปิ้งย่าง หรือร้านชาบู ส่วนใหญ่มักมีขนาดใหญ่ เพื่อชดเชยกำไรต่อหัวที่หายไปนั่นเอง เราควรที่จะมีร้านแบบนี้และทำให้เรามีกำไรโดยที่ไม่ขาดรายได้
3. การควบคุมวัตถุดิบที่เสียเป็นข้อท้าทายมาก
การที่เราจะมีร้านอาหารประเภทบุฟเฟต์นั้นเราจะควบคุมการสูญเสียวัตถุดิบได้ยากมากเพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะกินเฉพาะสิ่งที่ตัวเองชอบ และอาหารก็จะเหลือถ้าเป็นอาหารที่ลูกค้าไม่ชอบดังนั้นเราต้อง เลือกว่าอาหารประเภทไหนที่ลูกค้าสามารถลุกไปตัดเองได้ หรือเราควรเก็บอาหารที่ลูกค้าชอบเพื่อเราจะเสิร์ฟให้ลูกค้าเอง เพราะว่าเราควรที่จะคาดเดาพฤติกรรมของลูกค้าว่ามีโอกาสที่อาหารเหลือสูงแค่ไหน มันจะควบคุม ไม่ให้ของเหลือ และส่งผลให้ต้นทุนของทางร้านเพิ่มขึ้นอีกด้วย ดังนั้นดีกว่าถ้าเราจะตั้งกฎในร้านของเราเช่นจะปรับเงินลูกค้าถ้าหากตากอาหารเกินความต้องการ
4. เวลาที่ลูกค้านั่งนานจนเกินเวลา
ร้านบุฟเฟ่ต์อาหารทั่วไปก็กินได้ไม่จำกัดแต่บางที่เขาก็กำหนดเวลาว่า 1-2 ชั่วโมงเพราะไม่ให้ลูกค้านั่งนานจนเกินไปแล้วรักษารอบของลูกค้าท่านอื่นที่จะมานั่งกิน แล้วเมื่อเปรียบเทียบ กับการขายแล้วถ้าเราทำแบบนี้ก็จะมีโอกาส ได้กำไรมากกว่า
5. การจัดการเรื่องเวลา หรือระบบการทำงาน
ทุกวันนี้มีการแข่งขันทางด้านธุรกิจเกี่ยวกับอาหารสูงมากดังนั้นเราต้องเน้นที่คุณภาพและรสชาติการบริการของเราให้รักษามาตรฐานไว้อย่างดีแล้วเมื่อเราพัฒนาคุณภาพของเราจะต้องเปลี่ยนลักษณะการให้บริการทำให้อาหารทุกจานสดใหม่อยู่ตลอดเวลา เมื่อร้านบุฟเฟ่ต์มีอาหารที่มากขึ้นก็จะต้องมีจำนวนพนักงานที่เพียงพอเพื่อที่จะบริการลูกค้าด้วยถ้าเรารักษา เรื่องนี้อย่างสมดุลแน่นอนว่ากิจการธุรกิจบุฟเฟ่ต์ของคุณจะเป็นไปได้ด้วยดีแน่นอน
สรุป: การเปิดร้านธุรกิจบุฟเฟ่ต์ดีและน่าสนใจมาก
เราจะเห็นได้ว่าการเปิดร้านบุฟเฟ่ต์ทั่วไปก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียแต่ถ้าคุณพยายามตามทันปัจจัยของเศรษฐกิจคนก็จะรู้ว่า ควรที่จะตามทันเศรษฐกิจยังไงเราควรที่จะมองหาว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคพวกเขาอยากกินของแบบไหนแล้วคาดการณ์ในเรื่องค่าใช้จ่ายไว้ว่าแต่ละมื้อเราจะต้องลงทุนเท่าไหร่ดังนั้นบุฟเฟ่ต์ที่มีราคากำหนดตายตัว การทำธุรกิจและทำงานทุกอย่างก็ต้องมีความเหนื่อยล้าอย่างแน่นอนยิ่งเป็นงานธุรกิจเกี่ยวกับบุฟเฟ่ต์จะต้องมีลูกค้ามากมายที่เราต้องเอาใจเขาดังนั้น เราอาจจะเหนื่อยที่บางครั้งอาจจะมีปัญหา และไหนยังจะต้องนับเงินอีกว่าวันนี้ขายได้เท่าไหร่มีต้นทุนยังไงและการเตรียมของสำหรับขายก็เยอะมากๆการบริการอาจจะควบคุมไม่ทั่วถึง ซึ่งบางครั้งลูกค้าก็อาจจะร้องเรียนได้ง่าย พวกเราต้องรักษาหัวใจของลูกค้าเอาไว้ ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจและเอาใจลูกค้า ให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่เขาจ่าย และที่เราควรระวังอีกอย่างหนึ่งก็คือร้านบุฟเฟ่ส่วนใหญ่แล้วจะมีลักษณะที่ลูกค้าสามารถเดินไปตักอาหารเองได้ดังนั้นเราจะต้องระวังว่าอาจจะมีการขโมยวัตถุดิบกลับบ้านหรือแบบนำอาหารไปบริการ คนที่ไม่ได้จ่ายเงิน อะไรประมาณนี้อาจจะมีช่องโหว่ที่ลูกค้ามา 4 คนแต่อาจจะ จ่ายเพียงแค่ 3 คนซึ่งอาจลืมนับไปว่าพวกเขามากี่คน
วิภาภรณ์
ถ้าอยากจะให้ร้านมีคนเข้าเยอะๆควรเน้นเรื่องราคา(ก็ไม่จำเป็นว่าต้องถูกมากเกินไปให้เหมาะสมกับกับคุณภาพ) และของต้องมีคุณภาพสดใหม่และรสชาติดี ถ้ามีทั้งหมดที่ว่าไปนี้นะ.... รับรองชนะเลิศเลย ต่อให้บริการไม่ดีซักเท่าไหร่คนก็กิน (แต่อาจจะไม่ไปบ่อยเพราะเสียอารมณ์5555) แต่เราว่าก็ขึ้นอยู่กับทำเลด้วยแหละ จะว่าไปเดี๋ยวนี้มีการทำโฆษณาเยอะมาก ไม่ว่าจะไกลจะลึกแค่ไหนคงไม่เป็นอุปสรรค
น้องทราย
ใครๆก็ชอบกินบุฟเฟ่ต์นะ ถ้ามีตังค์555 ร้านบุฟเฟ่ต์มีของให้เลือกกินหลายอย่างก็จริงแต่ราคาก็พอสมควรนะคะ เราก็กินบ้างแต่ไม่บ่อย เราชอบร้านที่มีของให้เลือกเยอะๆมีของมาเติมเรื่อยๆ เรื่องราคาจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ถ้าของที่เอามาให้ลูกค้ากินมีคุณภาพดี ปริมาณเยอะ เพราะคนที่ไปกินบุฟเฟ่ต์ก็คาดหมายเรื่องกินให้คุ้มอยู่แล้วค่ะ
น้ำหวาน
เดี๋ยวนี้ธุรกิจร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ก็เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่น่าสนใจเพราะว่ามีความคุ้มค่าสำหรับคนที่มาใช้บริการ แต่ก็เป็นธุรกิจหรือการลงทุนอีกแบบนึงที่จำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริการด้วย ว่าทำอย่างไรผู้คนถึงจะติดใจและ เข้ามาอุดหนุนได้อย่างไม่ขาดสาย บทความนี้จึงแนะนำค่ะถึงวิธีการที่จะต้องเตรียมตัวสำหรับคนที่ทำธุรกิจอาหารบุฟเฟ่ต์
Watchara
ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์แบบปิ้ง-ย่างหรือร้านจิ้มจุ่มเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไปจริงๆ ดูได้จากช่วงโควิด-19 มีเสียงเรียกร้องพอสมควรว่าอยากให้เปิดเสียที พอให้เปิดได้คนก็ไปกินกันเยอะเลย ส่วนตัวผมก็กินบ้างแต่ไม่บ่อยมาก ผมชอบร้านที่มีของให้เลือกหลากหลาย สะอาดทั้งพื้นที่ในร้านและอาหาร ราคาสมน้ำสมเนื้อ ถ้าเป็นแบบนี้ก็จะได้เจอกันอีกครับ
สิงค์
ตอนนี้เป็นยังบ้างครับ ร้านแบบนี้ยังอยู่รอดไหมครับ ลงทุนค่อยข้างมากเลยนะครับ แต่ก็ได้รับผลกระทบ ยาวเลยครับ หลายร้านแถวบ้าน ตอนก่อนที่จะมีโควิด-19 ร้านพวกนี้ขายดีมากเลย คนแน้นร้านทุกวัน แต่ตอนนี้ ปิดร้านกันเยอะเลย แล้วถ้าเปิดได้ ตอนนี้ก็น่าจะได้รับผลจากราคาหมูแพงด้วย ไม่รู้ว่ามันจะ ขึ้นราคาอะไรมากมายขนาดนี้
สันคอลอยมา
เราอยากจะมาเล่าประสบการณ์นะว่าร้านบุพเฟ่จะทำไงให้มีลูกค้า ซึ่งคำแนะนำในบทความนี้ก็ดีมากๆ แต่นี่เป็นประสบการณ์จริงที่เราเคยทำงานร้านบุพเฟ่แบบหมูกะทะมาก่อน เราเป็แค่ลูกจ้างนะแต่รู้มาว่าเขาใช้วิธีการโพสบนเฟสบุ๊คแล้วยิงแอด แล้วก็พยายามมีโปรโมชั่นเรื่อยๆ แล้วราคาต้องไม่ถูกจนเกินไปไม่งั้นร้านจะอยู่ไม่ได้ เพราะค่าใช้จ่ายมันเยอะ แค่นี้แหละที่อยากเล่า
หมูแฮม
ตอบคุณสิงค์... ตอนนี้ร้านผมเจอวิกฤติมากครับ ก่อนช่วงโควิดเพิ่งจะลงทุนเปิดร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง กำลังจะไปได้ดี พอมาเจอโควิดปิดมานานกว่าสี่เดือนลูกค้าหายหมดเลยครับ พอเริ่มคลายล๊อคดาวน์ร้านอาหารเปิดได้แต่มีการเน้นเรื่องมาตรการเว้นระยะห่าง คนที่เค้ามากินแบบนี้เค้าก็ต้องมากินกับเพื่อนอยู่แล้วคงไม่มีใครนั่งคนละโต้ะกันหรอกใช่ไหมครับ ตอนนี้ธุรกิจผมเลยยังซบเซาอยู่ครับ
หลิน
พูดในฐานะลูกค้านะคะ ไม่ชอบอย่างหนึ่งมากเลยเวลามีร้านพวกบุฟเฟ่ต์ ชาบู ปิ้งย่างเปิดใหม่มาโฆษณา แล้วพอเราไปกินบอกว่าภาพที่ใช้โฆษณาเพื่อการโฆษณาเท่านั้นค่ะ คือกุ้งหอยปูปลาที่เราอยากจะกินก็ไม่ได้กินสิคะ แล้วจะจ่ายเงินมาเพื่ออะไร อย่างน้อยก็โฆษณาป้ายให้ตรงกับปกด้วยค่ะ อันนี้สำคัญเลยแล้วก็เลือกพนักงานบริการดีๆค่ะ ลองจากนั้นก็น้ำจิ้มอร่อย บริการดีลูกค้าก็มาประจำแล้วค่ะ
น้อง ฟลินท์
ใช่ๆ เราก็เจอบ่อยๆเลย นะ ร้านอาหารไม่ตรงกับที่โฆษณาไว้ คือเราก็อยากไปกินแบบที่เขาบอกไว้ปะ แต่พอไปแล้วก็ผิดหวังจริงๆ ของไม่ค่อยจะอะไรเลย แถมบางอย่างก็ไม่ค่อยน่ากินด้วย เราไปทีเดียวเลยครับ แล้วก็บอกต่อเพื่อนๆที่ชอบกินแบบเดียวกับเราด้วย ดูสิว่ามันจะไปรอดไหม ไม่จริงใจกับลูกค้าแบบนี้ เสียความรู้สึกจริงๆครับ
น้อย
สำหรับธุรกิจในร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ ฉันคิดว่าสิ่งที่จะดึงดูดลูกค้าได้มากที่สุดก็คือการจัดโปรโมชั่นค่ะ ต้องคิดโปรโมชั่นดีๆเพื่อที่จะสามารถดึงดูดลูกค้าหรือไม่ขาดกำไรมากเกินไป นี่ขึ้นอยู่กับผู้ที่จัดโปรโมชั่นด้วยว่าจะมีการวางแผนการตลาดและจัดโปรโมชั่นอย่างไรดี เพื่อดึงดูดเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นและคนที่ทำงานประจำ ให้เข้ามาแบบเป็นหมู่คณะ
วรวุฒิ
เปิดร้านแบบนี้เงินทุนต้องมีนะครับ เปิดหลายเจ้าแล้ว แล้วก็ปิดหลายเจ้าแล้วด้วยครับ ยิ่งช่วงโควิดแบบนี้ใครที่จะเปิดร้านประเภทนี้ต้องคิดให้ดีๆนะครับ อย่างที่บ้านผม ตอนนี้ก็นั้งทานไม่ได้อีกแล้วครับ เพราะมีคนติดรายใหม่เข้ามาอีกแล้ว ช่วงโควิดแบบนี้ กลุ้มใจมากเลยครับ อยากทำอะไรหรือว่าอยากเปิดขายอะไรลำบากจริงๆ
Paninna>>
ก่อนหน้านี้ร้านอาหารแบบบุฟเฟ่ต์เป็นที่นิยมมาก แต่การเปิดร้านธุรกิจบุฟเฟต์ให้มีกำไรมันก็ยากเหมือนกันนะคะ ต้องลองทำไปสักพักถึงจะรู้ว่าควรจะปรับอะไร ตรงไหนบ้าง มีบทความแบบนี้มาให้คำแนะนำก็ดีมากเลยค่ะ ส่วนตัวนะ เวลาไปกินร้านบุฟเฟ่ห์เราชอบกินร้านที่อร่อย สะอาด และบริการดี แต่ตอนนี้ไม่ได้ไปกินเลยอะ พูดแล้วก็อยากไปนะ
นุจณี
สรุปเลยละกันคะ ว่าถ้าทำตามที่คุณบอก ในช่วงก่อนที่จะมีโควิด ร้านอาหารที่ทำตามคุณ อยู่รอดได้สบายๆเลยคะ แต่ ยุคโควิดแบบนี้ ต่อให้ทำดีทำอร่อยแค่ไหน มาเจอ เคอฟิว กับ ห้ามกันที่ร้านเข้าไปทุกอย่างก็จบแล้วละคะ แถวบ้านเรา ร้านแบบนี้ต่างก็เก็บข้างเก็บของกลับบ้านเกิดของตัวเองหมดแล้วละคะ คงสู้ต่อไม่น่าจะไหวนะคะ
Jatu36
แค่เห็นชื่อบทความนี้ ผมก็อยากจะออกไปหาร้านบุฟเฟ่ต์กินละครับ555 ใครๆก็ชอบกินนะ แต่ก็ไม่ใช่ทุกร้านที่ผมอยากจะกลับไปกินอีกครั้ง เคยเจอบางร้าน ค่าอาหารกับความหลากหลายของอาหารที่สามารถกินได้..ไม่ค่อยโอเคอะครับ บางร้านการบริการไม่ค่อยดี สิ่งที่จะมัดใจลูกค้าอย่าหนึ่ง คือ การบริการนะ หรือคนอื่นๆคิดยังไงกันครับ?