อธิบายอาการของคนที่หวาดกลัวการเป็นหนี้ หรือ Debt Phobia

ในสมัยปัจจุบันที่สภาพเศรษฐกิจนั้นไม่ค่อยดีการที่ไม่เป็นหนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ได้เลวร้ายอะไร ซึ่งก็จะสังเกตเห็นได้ว่ามีโค้ชการเงินหลายท่านหันมาแนะนำให้คนเรานั้นรู้จักการออมเงินกันหลากหลายวิธีมากมายในโลกออนไลน์ และแน่นอนว่าคนที่นำวิธีการออมเงินตามคำแนะนำของโค้ดการเงินไปใช้ก็เป็นเรื่องดี  ดีกว่าคนที่ไม่ได้ทำตามและใช้เงินเกินตัวเป็นไหนๆแต่ถ้าเป็นคนธรรมดาที่นำวิธีออมเงินไปใช้มันก็จะไม่มีปัญหาอะไรมีแต่ข้อดีทั้งนั้น แต่สำหรับคนที่อาการหวาดกลัวการเป็นหนี้นั้นมันเป็นอีกเรื่อง เพราะคนที่มีอาการดังกล่าวจะมักมีความเครียดกับการออมเงินแต่ไม่ได้บอกว่าเขาไม่ชอบการออมเงินนะ คนประเภทนี้ถือว่าออมเงินเก่งเลยทีเดียว แต่มีปัญหาตรงที่ว่าคนที่มีอาการหวาดกลัวการเป็นหนี้เขากลัวที่จะใช้เงินมากกว่า ซึ่งบางทีคนที่มีอาการนี้คือหวาดกลัวการเป็นหนี้ทำให้ลดรายจ่ายตัวเองลงซึ่งบางทีก็มีรายจ่ายที่น้อยมากๆอยู่แล้วแต่ก็พยายามลดรายจ่ายลงเรื่อยๆจนไปทำให้แม้แต่สิ่งจำเป็นก็ไม่ยอมที่จะจ่าย จนทำให้คนรอบข้างมองคนที่มีอาการเช่นนี้ ว่าคนขี้เหนียว เพื่อนๆต้องแยกให้ออกระหว่างคนที่ขี้เหนียวกับคนที่ประหยัดใช้เงินเป็นนะครับไม่เหมือนกันครับ มาดูกันว่าอาการหวาดกลัวการเป็นหนี้นั้นมีอาการอย่างไร สาเหตุปัจจัยมาจากอะไร และส่งผลดีและผลเสียอย่างไรบ้างกัน

อาการของคนที่หวาดกลัวการเป็นหนี้ หรือ Debt Phobia มีอาการอย่างไร?

พูดถึงเรื่องเงินและการเป็นหนี้ก็ต้องเป็นเรื่องของคนวัยทำงานขึ้นไป ซึ่งใช่ครับ อาการหวาดกลัวการเป็นหนี้ หรือ Debt phobia มักพบได้ในผู้คนวัยทำงานขึ้นไปครับ ซึ่งจะมีอาการเบื้องต้น คือ กลัวว่าตัวเองนั้นจะไม่มีเงินใช้ในอนาคตทำให้เกิดการกังวลกับรายจ่ายจดเกินเหตุของตนเองในทุกๆอย่าง และมักจะคิดไปเองอยู่เสมอว่าตัวเองจะเป็นหนี้ทั้งที่จริงๆแล้วในบัญชีของตนเองนั้นก็มีเงินเก็บอยู่มากมาย ทำให้ไม่กล้าคิดที่จะแตะเงินในบัญชีแม้แต่บาทเดียว ซึ่งบางคนหนักถึงขั้นที่คิดว่าหนี้นั้นเป็นสิ่งที่เลวร้ายมากซึ่งจริงๆแล้วถ้ามีการศึกษาเรื่องการเงินกันมาจะให้ได้ว่าหนี้นั้นมีทั้งหนี้ดีและหนี้ไม่ดีแต่คนที่มีอาการหวาดกลัวการเป็นหนี้จะมองว่าหนี้ทุกอย่างเป็นสิ่งไม่ดีทั้งหมด ซึ่งนั้นทำให้คนที่มีอาการดังกล่าวกลัวที่จะใช้เงินกับทุกๆอย่างไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้านซื้อรถหรือการลงทุนไปด้วยซึ่งเป็นวิธีคิดที่ผิดอย่างมากเพราะปัจจุบันการออมเพียงอย่างเดียวไม่ช่วยให้คุณมีเงินพอใช้ได้ในอนาคตเพราะคุณจะต้องเจอกับเงินเฟ้อ ซึ่งถ้าเป็นอาการนี้แล้วไม่มีใครเข้ามาให้คำปรึกษาหรือแนะนำคนที่มีอาการหวาดกลัวการเป็นหนี้ หรือ Debt phobia ก็จะมีอาการนี้ติดตัวไปตลอดชีวิตเลยล่ะครับถือว่าน่ากลัว

สาเหตุและปัจจัยของคนที่มีอาการหวาดกลัวการเป็นหนี้มากจากไหน?

สาเหตุและปัจจัยของคนที่มีอาการหวาดกลัวการเป็นหนี้ ก็มาได้จากสองสาเหตุหลักคือประสบการณ์ เช่น คนๆนั้นเคยเป็นหนี้มาก่อนและรับรู้ถึงความยากลำบากในการปลดหนี้จนเมื่อทำการปลดหนี้ได้แล้วทำให้รู้สึกหวาดกลัวและไม่อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก หรือจากพื้นฐานครอบครัวเพราะบางคนก็มาจากคำสอนของคนในครอบครัวที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆ ว่าให้ประหยัดเงินทุกบาททุกสตางค์จนเกินเหตุทำให้ติดเป็นนิสัย ซึ่งไม่ว่าจะมาจากสาเหตุไหนก็ทำให้คนคนนั้นมีอาการหวาดกลัวการเป็นหนี้ซึ่งทำให้คนที่มีอาการหวาดกลัวการเป็นหนี้พยายามใช้ชีวิตทุกวันเหมือนกับว่าลำบากไม่มีเงินทั้งๆที่ในบัญชีของตัวเองนั้นมีเงินเก็บเยอะกว่าบ้างคนที่ไม่ได้ใช้ชีวิตลำบากเท่าตัวเอง และมีคุณภาพชีวิตที่ต่ำเพราะพยายามลดรายจ่ายทุกอย่างมีแม้แต่สิ่งที่จำเป็นก็ลดเพื่อที่จะได้มีรายจ่ายให้น้อยที่สุด และอย่างที่บอกว่าคนที่มีอาการแบบนี้เป็นคนในช่วงวัยทำงานขึ้นไปซึ่งคนในช่วงวัยทำงานเป็นช่วงที่สำคัญในการสร้างเนื้อสร้างตัวซึ่งถ้ามีอาการหวาดกลัวการเป็นหนี้ต้นเหตุของการใช้เงินอย่างประหยัดจนเกินเหตุทำให้แทนที่จะมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันในช่วงสร้างเนื้อสร้างตัวคนเหล่านี้จะไม่มีอะไรเลยนอกจากเงินในบัญชีที่พอเวลาล่วงเลยไปเจอกับเงินเฟ้อคุณค่าของเงินก็ต่ำลงซึ่งจะมีแต่จนลงเรื่อยๆ

ผลดีและผลเสียของอาการหวาดกลัวการเป็นหนี้

แน่นอนว่าอาการหวาดกลัวการเป็นหนี้นั้นส่งผลทั้งในด้านดีและด้านไม่ดี มันก็เหมือนกับเหรียญนั้นแหละครับที่มีสองด้าน เหมือนโลกเราที่มีทั้งกลางวันและกลางคืน อาการหวาดกลัวการเป็นหนี้ก็เช่นกัน ให้มาดูกันที่ผลดีของอาการหวาดกลัวการเป็นหนี้กันก่อนดีกว่า

ผลดีของอาการหวาดกลัวการเป็นหนี้ คือ จะทำให้มีความสามารถสูงในการเก็บเงิน เพราะอย่างที่บอกผู้ที่มีอาการหวาดกลัวการเป็นหนี้จะไม่กล้าใช้เงินแม้กับสิ่งที่จำเป็นและประหยัดประหยัดเอามากๆประหยัดจนเกินเหตุ จนคนรอบข้างมองว่าเป็นคนขี้เหนี่ยว ขี้งก ทำให้เขามีเงินเก็บเยอะ และเงินเก็บเหล่านี้จริงๆไม่ได้ทำให้เขารวยได้แต่เมื่อเกิดอะไรฉุกเฉิน เช่นอุบัติเหตุเงินเหล่านี้ที่เขาเก็บมาก็สามารถช่วยได้มาก และแน่นอนว่าเมื่อมีอาการหวาดกลัวการเป็นหนี้ทำให้ประหยัดจนเกินเหตุเพราะฉะนั้นแล้วคนเหล่านี้จะมีนิสัยที่ไม่สิ้นเปลื่องหรือมีพฤติกรรมการใช้เงินเกินตัวไม่มีทางใช้เงินไปกับสิ่งที่ไร้ประโยชน์อย่างแน่นอน ล้านเปอร์เซ็นเพราะแม้แต่ของจำเป็นบ้างอย่างคนพวกนี้ยังพยายามไม่ซื้อเลย

ผลเสียของคนที่มีอาการหวาดกลัวการเป็นหนี้ คือ ไม่มีทางรวยและประสบความสำเร็จในชีวิตก็อย่างที่บอกในข้อดีว่าคนพวกนี้จะเก็บเงินเก่งเพราะไม่ใช่เงิน เพราะฉะนั้นลืมไปได้เลยเรื่องการลงทุน เพราะคนพวกนี้เขาจะไม่มีทางทำอะไรกับเงินที่หามาได้กับสิ่งที่มีความเสี่ยงอย่างการลงทุน และเมื่อไม่มีการลงทุนอย่างที่บอกแหละว่าเก็บเงินเพียงอย่างเดียวจะเจอกับสภาวะเงินเฟ้อแล้วจะทำให้ยิ่งเก็บยิ่งจน ทำให้คนประเภทนี้ไม่สามารถที่จะสร้างเนื้อสร้างตัวได้ มีแต่เงินที่เก็บอยู่แต่ในบัญชีที่มีแต่จะเสื่อมค่าลงทุกวันเพราะเจอเงินเฟ้อ และผลเสียอีกอย่างคือคนเหล่านี้จะมองแต่อนาคต และไม่มองในปัจจุบัน ทำให้ส่งผลเสียกับการใช้ชีวิตประจำวัน และทั้งหมดทั้งมวลข้อเสียจริงของคนที่มีอาการหวาดกลัวการเป็นหนี้ คือ จะไม่มีทางที่จะมีชีวิตที่สบายเพราะหวาดกลัวที่จะไม่มีเงินตลอดเวลา

การไม่เป็นหนี้เป็นเรื่องดีแต่ต้องมีความสมดุลในการใช้เงิน

เพื่อนๆเคยได้ยินคำนี้กันไหมครับ การไม่เป็นหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ พอจะคุ้นกันไหมครับ ผมว่าคำนี้หรือประโยคๆนี้ ได้ถ่ายทอดความรู้สึกที่โดนใจใครหลายคนที่กำลังเป็นหนี้อย่างแน่นอน เพราะมันเป็นเรื่องจริงๆว่าการไม่เป็นหนี้เป็นเรื่องที่ดี แต่สำหรับคนที่มีอาการหวาดกลัวการเป็นหนี้นั้นทำให้ไม่เป็นหนี้มันก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่ทั้งหมดเพราะคนที่มีอาการหวาดกลัวการเป็นหนี้เขามักจะมุ่งเน้นไปที่การเก็บออมเงินอย่างเดียวซึ่งถ้าให้ไปขอคำแนะนำจากโค้ชด้านการเงินไม่มีใครแนะนำอย่างแน่นอนว่าคุณจะต้องเก็บออมเพียงอย่างเดียวถึงโค้ชการเงินทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคุณต้องรู้จักประหยัดและเก็บออมแต่ไม่ใช่แค่นั้นโค้ดด้านการเงินจะต้องพูดเสริมด้วยอีกว่าเก็บออมเพื่อใช้ในการลงทุน

ซึ่งคนที่มีอาการหวาดกลัวการเป็นหนี้เขาจะเอาแค่ส่วนแรกที่โค้ดการเงินทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าให้เก็บออมและประหยัดซึ่งนั้นเป็นวิธีที่ผิดอย่างแรง ซึ่งในปัจจุบันพิสูจน์แล้วว่าการเก็บออมเงินเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้คุณรวยได้ พิสูจน์จากราคาอาหาร ยกตัวอย่างก๋วยเตี๋ยว เมื่อ 10ปี 20ปี ก่อนราคาเท่าไร และปัจจุบันราคาเท่าไร  เพราะฉะนั้นถ้าคุณกำลังมีความคิดแบบคนที่มีอาการหวาดกลัวการเป็นหนี้อยู่ ขอให้เปลี่ยนความสักใหม่ ไม่ว่าคุณจะมีอาการหวาดกลัวการเป็นหนี้มาจากพื้นฐานของครอบครัวที่สั่งสอนมาตั้งแต่เด็กๆหรือจากประสบการณ์ที่เคยเป็นหนี้ก็ตาม ขอให้เปลี่ยนใหม่ถ้าคุณได้มาอ่านบทความนี้แล้ว