ลูกติดนิสัยที่ไม่ดีมาจากโรงเรียนแก้ไขอย่างดี

@โกวิทย์ อันนี้เห็นด้วยเลยนะครับ เด็กก็จะเลียนแบบคนที่เลี้ยงเขา ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นพ่อแม่ ปู่ย่าตายายหรือญาติคนไหนก็ตาม การสอนให้ลูกเป็นคนมีน้ำใจก็เหมือนกัน สอนอย่างเดียวแต่ถ้าพ่อแม่ไม่ทำลูกก็จะไม่มีทางเป็นคนมีน้ำใจแน่นอน การพูดจาไพเราะสุภาพ ก็เหมือนกันครับ ถ้าพ่อแม่พูดจาหยาบคายไม่มีทางหรอกที่ลูกจะพูดจาสุภาพไพเราะได้

ต้องถามก่อนนะคะว่าลูกติดโทรศัพท์ขนาดไหน ถ้าติดมากถึงขั้นงอแงเมื่อไม่ได้เล่นโทรศัพท์ บอกเลยนะคะว่าพ่อแม่ต้องใจแข็งในเรื่องนี้ ให้คำว่าใช่หมายความว่าใช่ ถ้าบอกลูกว่าจะให้ลูกเล่นได้ถึงกี่โมงถึงกี่โมงก็ต้องทำตามนั้น และถ้าพ่อแม่ปล่อยปละละเลย รับรองว่าจะเลยเถิดกันไปใหญ่ ขอให้คิดมาตรการเด็ดขาดเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์เลยค่ะ

อย่าชมลูกบ่อยเกินไป ถ้าลูกไม่ได้ทำดีก็อย่าชมครับ แต่ถ้าลูกทำดีจริงก็ต้องชมเชยและอธิบายเหตุผลว่าทำไมถึงชมเชย และอย่าลืมว่าถ้าลูกทำให้ดีก็ต้องมีการสั่งสอนด้วยครับ การสั่งสอนก็คือการอธิบายเหตุผลว่าทำไมถึงเรียกว่าดีหรือไม่ดี ซึ่งเหตุผลนั้นก็ต้องมีการอธิบายตามอายุของเด็กด้วยนะครับ เพราะเด็กที่อายุมากแล้วก็ต้องการเหตุผลที่หนักแน่น

ก็มีค่าใช้จ่ายต่างกันหลายเรื่องนะคะ เกือบจะทุกเรื่องในชีวิตเลยล่ะ ทั้งค่ากินค่าใช้ค่าที่อยู่ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าเดินทาง อยู่ตัวคนเดียวมันประหยัดกว่า คนโสดก็จะประหยัดกว่า คนมีครอบครัวก็เหมือนมีคนมาอยู่เพิ่มมากขึ้น ค่าใช้จ่ายก็จะเยอะขึ้น แม้แต่ค่าอาหาร แทนที่จะมามื้อนึงจ่ายแค่ 40-50 บาท พอมีครอบครัวก็กลายเป็นมื้อละ 100-200 บาท อะไรประมาณนี้ค่ะ...

อีกวิธีหนึ่งที่ผมเห็นและคิดว่ามันน่ารักมากเลยครับ วีธีนั้นจะเน้นสอนความตรงต่อเวลาของเด็กๆครับ โดยในญี่ปุ่นถ้ามีเด็กคนไหนช้า เพื่อนๆก็จะต้องรอหน้าบ้านจนกว่าจะลงมาแล้วเดินไปพร้อมกัน ซึ่งเป็นวิธีที่ดีและน่าทำตามมากครับและถ้าหากถามว่าทำไมถึงใช้วิธีนี้ เหตุผลมันก็เพราะใครก็คงไม่อยากให้เพื่อนรอหรอกจริงไหมครับ เด็กๆก็คิดเหมือนกันครับ

ตอนนี้ธุรกิจแบบนี้กำลังได้รับความนิยมเลยนะ คนเปิดเพจแล้วก็อัพยอดคนติดตาม แล้วก็เอามาปล่อยขายให้กับคนที่สนใจขายสินค้าออนไลน์ ได้ราคาดีด้วย แต่เราไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรนะ ว่าการทำแบบนี้เป็นเรื่องต้องของของเขาไหม เพราะการเพิ่มยอดแบบนี้ ส่วนใหญ่มักจะเปิดเพจที่ไม่ค่อยเหมาะเท่าไรเวลาที่จะอัพยอดคนติดตามของเขา