ปัจจุบันเราจะเห็นว่าหลายคนเป็นหนี้บัตรกดเงิน เพราะไม่สามารถชำระเงินได้ตามที่สถาบันการเงินหรือธนาคารกำหนดไว้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างแพง และหลายคนไม่มีนิสัยที่ดีในใช้บัตรกดเงินสด ทำให้ดอกเบี้ยเพิ่มมากขึ้นในที่สุดเราก็มีหนี้ก้อนโตโดยไม่รู้ตัว หลายคนจำเป็นที่จะต้องใช้เงินสดในยามฉุกเฉิน แต่เราจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เป็นหนี้บัตรกดเงินสด เพราะหากเราเป็นหนี้ก็จะทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาด้วย ดังนั้นหากเราทำตาม 5 ขั้นตอนข้างล่างนี้อย่างเคร่งครัดแล้ว เราจะสามารถใช้บัตรกดเงินสดให้เกิดประโยชน์และไม่เป็นหนี้ในอนาคตได้นอกจากนั้นยังช่วยให้ไม่เกิดภาวะหนี้สินคั่งค้าง ซึ่งปัญหาที่ตามมาอาจถึงขั้นดำเนินคดีได้อีกด้วย

good financial habits

Gustavo Frazao/shutterstock.com

1.ศึกษาอัตราดอกเบี้ยอย่างละเอียด

1.ศึกษาอัตราดอกเบี้ยอย่างละเอียด

อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างแพง หากไม่ศึกษาอย่างดีก็ทำให้เป็นหนี้จนเกินตัวได้ เนื่องจากแต่ละสถาบันการเงินหรือธนาคารกำหนดดอกเบี้ยขั้นต่ำไม่เกิน 28%ต่อปี ตามวงเงินที่อนุมัติ ซึ่งแบ่งออกเป็น อัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 15%ต่อปี และค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 13%ต่อปี รวมแล้วทั้งอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมต้องไม่เกิน 28%ต่อปีเช่น สถาบันการเงินบางแห่งกำหนดอนุมัติวงเงิน100,000 บาทขึ้นไปอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ประมาณ 20-25%ต่อปี หากอนุมัติวงเงินต่ำกว่า 100,000 บาทอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 28%ต่อปี แล้วแต่สถาบันการเงินหรือธนาคาร ตัวอย่างเช่น วงเงินอนุมัติ 10,000 บาท =(10,000/100)x (28/365) = 7.6712 บาทต่อวันและดอกเบี้ยต่อเดือน (7.6712x30) =230.14บาท นอกจากนั้นการศึกษาอัตราดอกเบี้ยของแต่ละสถาบันอย่างละเอียดเราก็จะได้สิทธิพิเศษต่างๆจากสถาบันการเงินที่เราเปิดอยู่ก็ได้ และที่สำคัญก็จะทำให้เราได้อัตราดอกเบี้ยที่น้อยลงทำให้เราต้องจ่ายชำระหนี้น้อยลงตามมาอีกด้วย

2.การคำนึงถึงสิทธิประโยชน์ของบัตร

2.การคำนึงถึงสิทธิประโยชน์ของบัตร

สิทธิประโยชน์ของบัตรกดเงินสดของแต่ละสถาบันการเงินหรือธนาคารไม่เหมือนกัน หากเราตรวจสอบสิทธิประโยชน์ต่างๆช่วยเราได้ง่ายขึ้นว่าจะเลือกสมัครที่ไหนที่ให้ประโยชน์ต่อเรามากที่สุด มีวิธีเลือกดังต่อไปนี้ - บัตรกดเงินสดนั้นมีค่าธรรมเนียมแรกเข้ารายปี ฟรีตลอดชีพไหม - บัตรนี้สามรถกดเงินสดได้ทุกตู้ ATM ตลอด 24 ชั่วโมงหรือไม่ - ฟรีค่าธรรมเนียมในการถอนเงินสดจากตู้ ATM ทุกครั้ง - สามารถใช้วงเงินสดเชื่อได้ตลอดไปโดยสมัครเพียงแค่ครั้งเดียว - มีการจำกัดจำนวนครั้งของการเงินสดในแต่ละวันไหม - การชำระเงินขั้นต่ำในแต่ละงวดกำหนดสูงหรือไม่ - สมัครง่าย อนุมัติไว โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือบุคคลค้ำประกัน - คิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก และคิดแบบรายวันที่เรากดมาใช้จริงเท่านั้น - บัตรกดเงินสดนี้มีสิทธิประโยชน์อื่นๆไหม เช่น สามารถสะสมคะแนนจากการใช้บัตร เพื่อแลกรับของรางวัล หรือสามารถใช้สิทธิพิเศษในการผ่อนสินค้า 0%

3.การกดเงินสดเท่าที่จำเป็นต้องใช้

3.การกดเงินสดเท่าที่จำเป็นต้องใช้

อย่าลืมว่าอัตราดอกเบี้ยและการคิดคำนวณดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดนั้นคิดแบบรายวัน และจะคิดดอกเบี้ยทันทีเมื่อเรากดเงินสดมาใช้ ถ้าเรากดมาใช้เหมือนเป็นบัตร ATM ของเราเองโดยกดเงินสดมาใช้เยอะดอกเบี้ยก็ยิ่งเยอะตามมาด้วย เพราะทุกๆครั้งที่เรากดเงินสดออกมา 1,000 บาท จะเกิดดอกเบี้ยขึ้นอยู่ที่ประมาณ 76 สตางค์ต่อวัน ซึ่งดอกเบี้ยแค่นี้ก็สามารถทำให้เรามีหนี้ท่วมตัวได้หากเราไม่ระมัดระวังในการใช้จ่ายเท่าที่เราจำเป็นจริงๆ

4.พยายามชำระเงินทันทีที่มีโอกาส

4.พยายามชำระเงินทันทีที่มีโอกาส

อัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดนั้นคิดดอกเบี้ยแบบรายวันเราจึงต้องพยายามชำระเงินทันที เพราะยิ่งชำระหนี้ในระยะเวลาสั้นๆดอกเบี้ยก็จะไม่เยอะ แต่ถ้าหากเราชำระเงินนานเท่าไหร่ดอกเบี้ยก็ยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น จนกว่าเราจะชำระเงินครบทั้งหมดตามที่กดมาใช้ ดังนั้นไม่ต้องรอให้ใบแจ้งหนี้มาก่อนแล้วค่อยชำระ เพราะอย่าลืมว่าดอกเบี้ยเดินทุกวัน เมื่อไหร่ที่ชำระยอดหนี้หมดเร็วดอกเบี้ยก็จะหยุดเดินทันที และที่สำคัญหากมีการค้างชำระหรือชำระล่าช้าอาจจะมีค่าปรับอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก เช่น ค่าติดตามทวงหนี้ ค่าอากรแสตมป์ ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้เสียประวัติเครดิตบูโรได้ หากต้องการขอสินเชื่ออื่นๆในอนาคตก็จะทำให้เราไม่มีความน่าเชื่อถือ สถาบันการเงินหรือธนาคารคงไม่กล้าที่จะอนุมัติสินให้อย่างแน่นอนยังทำให้ไม่ต้องเสียค่าติดตามทวงหนี้หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆด้วย

5.พยายามชำระเงินเป็นก้อนที่ใหญ่ขึ้น

5.พยายามชำระเงินเป็นก้อนที่ใหญ่ขึ้น

ดอกเบี้ยจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่จ่ายชำระด้วย เนื่องจากหากมีการจ่ายชำระเงินยอดที่มากกว่าขั้นต่ำที่ทางสถาบันการเงินหรือธนาคารกำหนดก็จะทำให้ย่นระยะเวลาในการชำระหนี้แล้วยังสามารถประหยัดดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย 1 เท่าตัวด้วยและที่สำคัญหากเราไม่สะดวกไปจ่ายชำระเงินได้ที่สถาบันการเงินนั้นเราก็มีค่าธรรมเนียม15 บาท ในการชำระเงินตามเคาน์เตอร์เซอร์วิสต่างๆด้วย ซึ่งไม่คุ้มเลยหากว่าเราชำระขั้นต่ำ แล้วต้องเสียค่าบริการ 15 บาท กว่าจะชำระหนี้หมดคงต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเยอะแน่นอน เว้นแต่ว่ามีการยกเว้นค่าธรรมเนียมนี้ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากหากจ่ายชำระเงินมากกว่าขั้นต่ำซึ่งจะทำให้เราไม่ต้องเสียประวัติการชำระเงินแล้ว ยังทำให้เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอื่นๆตามมาอีกด้วย

ดังนั้นหากมีนิสัยที่ดีในการใช้บัตรกดเงินสดจะทำให้ได้รับประโยชน์สูงสุด พร้อมกับภาระดอกเบี้ยที่ต่ำลง ก็ควรที่จะมีวินัยที่ดีในการใช้เงินทั้งการถอนเงินและการชำระเงินที่ควรทำอย่างระเอียดและรอบครอบ ไม่ควรใช้เหมือนเป็น ATM ส่วนตัว แต่ควรใช้เท่าที่จำเป็นหรือในยามฉุกเฉินเท่านั้น อีกทั้งหากชำระเงินมากกว่าจำนวนเงินขั้นต่ำแล้วภาระหนี้สินก็จะหมดเร็ว และดอกเบี้ยก็จะน้อยลงด้วย หากทำตามสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดก็จะทำให้เราไม่มีหนี้ก้อนโตหรือจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมาในอนาคตได้อย่างแน่นอน