เมื่อเราพูดถึงเรื่องเงินๆทองๆยิ่งเป็นการวางการเงิน เราก็จะรู้สึกขัดๆเพราะคิดว่ามันยากและเราต้องมีระเบียบ การปรับตัวเพื่อจะไปวางแผนการเงินอย่างดีนั้นก็ต้องวางแผนอย่างดีโดยการคิดใคร่ครวญอย่างมีเป้ามหมายว่าเราจะวางแผนอย่างไรให้ประสบความสำเร็จนั่นเอง ดังนั้นเราต้องสร้างวินัยกับตัวเองว่าจะตั้งใจเก็บเงิน การพูดแบบนี้ดูเหมือนยากและเราอาจรู้สึกว่าต้องเปลี่ยนหลายอย่าง แต่ความจริงมันช่วยเรามาก เราต้องนึกผลประโยชน์ที่เราจะได้รับไม่ใช่คิดถึงว่ามันยากและยุ่งยาก เพราะนี่จะส่งผลดีในอนาคตแน่นอนถ้าเราเคร่งครัดกับตัวเองในตอนนี้ ไม่ได้หมายความว่าเราต้องประหยัดมากจนต้องห้ามกินห้ามใช้จนเกินไป เราก็ต้องรู้จักตัวเองว่าเราจำเป็นขนาดไหน ดังนั้น เราจะมาดูกันว่า คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดเรื่องการเงินอย่างไรบ้าง?และเรื่องที่เราควรเข้าใจใหม่มีอะไรบ้าง?และมีอะไรที่สามารถช่วยเราให้จัดการการเงินไดง่ายขึ้นด้วย? ให้เรามาดูด้วยกันต่อไปนี้
7 เรื่องทางการเงินที่คนส่วนใหญ่ มักเข้าใจผิด
คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดการเรื่องอะไร? ให้เราดูว่ามีอะไรบ้างที่เราอาจจะเข้าใจผิดแบบนั้น
1.ไม่ยอมเสียค่าธรรมเนียม
เมื่อเราชำระค่าใช้จ่ายต่างๆล่าช้าทำให้ต้องเสียค่าธรรมเนียม เราก็ยอมจ่ายและบางทีเราอาจเสียค่าใช้จ่ายต่างก่อนกำหนด เช่น จ่ายล่วงหน้าก่อนเวลาเดดไลน์มาถึง หรือตัดให้มีการจ่ายโอนค่าต่างๆเหล่านี้โดยอัตโนมัติ แต่เราควรคำนึงและระวัง เพราะว่าบางทีอาจจะซ่อนมาตามบิลรายเดือนที่เราต้องจ่ายเป็นประจำด้วย ดังนั้นเราต้องให้ควาสนใจกับบิลต่างๆอย่างดีเพื่อเราจะไม่พลาดกับการจ่ายเงินโดยไม่จำเป็น
2.ไม่ควรเพิกเฉยต่อคะแนนจากบัตรเครดิต
การที่เราชำระบัตรเครดิตขั้นต่ำและจ่ายช้านั้น จะทำให้เราจ้องมีภาระอีกจากดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมากแต่ถ้าเราทำบัตรเครดิตมาซื้อสินค้าต่างๆเป็นประจำเราจะได้ประโยชน์ เช่น การจ่ายผ่านบัตรเครดิตเพื่อซื้อสินค้าในราคาที่ถูกลงตามโปรโมชั่นที่บัตรเครดิตร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าบางแห่ง ซึ่งในหลายๆครั้งเราก็จะพบว่า การสะสมคะแนนและคะแนนเหล่านี้สามารถนำไปรับเครดิตเงินคืนหรือจะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษได้นั่นเอง
3.ไม่ใช้จ่ายเงินหุนหันพลันเล่น
พอพูดถึง คนรวย เราก็จะนึกได้ว่าพวกเขาใช้เงินฟุ่มเฟือยซื้อของแพงและใช้จ่ายอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ใช่ ให้เราลองนึกดูกว่าเราจะรวยได้ก็ต้องขยันและใช้ความพยายามอย่างมากจริงไหม ดังนั้น พวกเขาจะต้องระวังการใช้เงินอย่างดีเพื่อจะมาถึงวันที่เขาร่ำรวย เราต้องยอมรับเรื่องนี้ เพราะฉะนั้น เราจะต้องเลียนแบบพวกเขาคือ ระวังการใช้จ่ายอย่างรวดเร็วแบบไม่ยั้งคิด ระวังที่จะใช้เงินฟุ่มเฟื่อยเกินไปและระวังเรื่องหนี้ พยายามที่จะไม่ก่อหนี้นั่นเอง
4.ระวังการจ่ายเงินตามแผนการตลาด
ถ้าคุณรีบซื้อ รีบจ่าย ภายในเวลาที่กำหนด คุณจะได้ของแถมนั่น นี่ นู่น เป็นต้น สารพัดวิธีการใช้เงินของพวกเขาคือ เขาจะเปรียบเทียบราคาสินค้า เขาจะดูภาพรวมทั้งหมด และเอาคุณประโยชน์ของสินค้าที่ซื้อมาเปรียบเทียบกับราคา ว่ามันเหมาะสมกับเงินที่เขาต้องจ่ายไปหรือไม่นั่นเอง
5.หวังผลระยะยาว
ให้เรามองการณ์ไกลมากกว่าคิดแต่ภาพภายหน้าระยะสั้นๆ ตัวอย่างที่เขายก เช่น Eric Schmidt อดีต CEO แห่ง Google เคยกล่าวว่า เขาจะไม่ซื้อขายหุ้นโดยติดตามความเคลื่อนไหวตลาดแบบวันต่อวัน แต่เขาใช้วิธีดูระยะยาวของมัน
6.ไม่มีแหล่งรายได้ทางทางเดียว
การที่เรามีรายได้จากหลายๆทางช่วยเราให้เราให้มีเงินเพิ่มขึ้นแน่นอน ผู้คนที่ร่ำรวยทั้งหลายไม่เคยพึ่งพาแหล่งรายได้เพียงแห่งเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจต่างๆ เพิ่มเติม การมีงานฟรีแลนซ์ก็ด้วย
7.พยายามไม่เหมือนคนอื่น
ชีวิตเราไม่จำเป็นต้องเลียนแบบใครก็ได้ ให้เราใช้ชีวิตให้เป็นตัวเองที่สุด ที่เรารู้สึกชอบโดยไม่มีใครบอกว่าต้องทำแบบนั้นแบบนี้ เราควรที่จะเจียมในเรื่องการอย่างได้อยากมี ให้สิ่งเหล่านี้มาเป็นอันดับรองแต่สำคัญที่สุดนั้นเราต้องเป็นตัวเอง เพื่อเราจะมีความสุขนั่นเอง
4 เรื่องที่ต้องทำความเข้าใจใหม่กับการวางแผนการเงินมีอะไรบ้าง?
เราก็ได้รู้ไปแล้วว่าคนส่วนใหญ่เข้าใจผิดอย่างไร หนึ่งในนั้นอาจเป็นเราก็ได้ที่เข้าใจผิด ดังนั้นเรามาดูว่าอะไรที่เราจะต้องทำความเข้าใจใหม่กับการวางแผนการเงิน
1.ต้องวางแผนการเงิน
บางคนที่มีรายได้ไม่ค่อยมาก หรือไม่ค่อยมีเงินพอกับค่าใช้จ่ายต่างๆ พวกเขาไม่ได้วางแผนการเงินอย่างดีนั่นเอง จึงทำให้พวกเขาคิดว่า ถ้าเราจนก็ไม่จำเป็นที่จะต้องวางแผนหรอก แต่นั่นเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องเลย ขอให้เลิกคิดแบบนี้เพราะไม่ได้ช่วยอะไรเผลอๆแย่กว่า เพราะฉะนั้น เราต้องรีบวางแผนเลยเพราะการวางแผนแบบนี้จะทำให้เรารู้สถานะการเงินของเรานั้นเป็นอย่างไร?
จริงๆเรารู้อยู่แล้วว่าเงินไม่พอใช้ แต่มันไม่เพียงบอกแค่นั้นเราจะรู้อีกว่าเราใช้จ่ายอะไรไปแล้วบ้าง จะได้มาดูอีกทีว่าเราจำเป็นอะไรไม่จำเป็นอะไร หรือมีค่าใช้จ่ายอะไรที่เราต้องตัด แต่ถ้าเราเช็คแล้วว่ารายได้เราน้อยเกินไปที่จะพอสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เราก็จำเป็นต้องหางานเสริม ที่ทำในเวลาว่างก็ได้เพื่อให้รายได้นั้นพอสำหรับค่าใช้จ่ายด้วย และเหลือเก็บเพื่อใช้ยามฉุกเฉินหรือจำเป็นได้ด้วย
2.รวยแล้วไม่จำเป็นต้องวางแผนก็ได้ จริงหรือ!?
ไม่จริงอย่างที่คิด อย่างที่เราได้รู้ไปว่า คนรวยบางคนอาจคิดว่า มีเงินเยอะแล้ว ใช้ๆไปก็ไม่หมดหรอก ก็ไม่ต้องมาวางแผนอะไร แต่นี่เป็นความคิดที่หลอกตัวเองและไม่ถูกต้องเลย ก็เป็นเรื่องจริงทีว่าเรารวยแล้วก็ไม่ต้องกังวลอะไรมากกับเงินๆทองๆว่าจะพอกับค่าใช้จ่ายต่างๆไหม แต่การจะทำให้ทรัพย์สินหรือเงินทองที่มีอยู่สร้างผลตอบแทนที่งอกเงยขึ้นมาได้มากน้อยเท่าไหร่นั้นก็ขึ้นอยู่กับการวางแผนทางการเงินให้ดีด้วย ยังมีส่วนประกอบอื่นที่สำคัญในการวางแผนการเงินนอกจากการลงทุนอย่างเช่น เรื่องภาษี เรื่องการวางแผนมรดก เรื่องการทำประกันชีวิต ที่ก็ต้องเป็นคนรวยที่มีเงินมาก ๆ เท่านั้นที่ควรจะต้องกังวลเรื่องเหล่านี้เสียด้วยซ้ำ ดังนั้นไม่ว่าจะมีเงินหรือไม่มี รายได้จะน้อยหรือมาก ก็ไม่ควรนำมาเป็นข้ออ้างในการที่จะไม่วางแผนทางการเงินได้
3.เพิ่งเริ่มทำงานยังไม่เห็นต้องรีบวางแผนเลย
หลายคนอาจจะคิดแบบนี้ เพราะเมื่อก่อนเราไม่ต้องวางแผนอะไร เราขอเงินพ่อแม่มานานในช่วงที่เราเรียน พอเราเรียนจบหาเงินเองได้ มีรายได้ ก็อยากที่จะอิสระเพราะว่าเราหาเงินด้วยแรงของตัวเอง จึงทำให้เราคิดว่าไม่ต้องวางแผนก็ได้ ให้เป็นเรื่องของอนาคต แต่ว่าเป็นความคิดที่ไม่ถูกสักเท่าไหร่ ถ้าไม่เริ่มเราก็จะผลัดวันประกันพรุ่งได้ เพราะการวางแผนการเงินใม่ใช่ว่าชีวิตของเราจะไม่มีความสุข
เราจะใช้เงินหรือจะกินแบบได้ดั่งใจไม่ได้ แต่มันไม่จริงอย่างที่คิด เพราการวางแผนไว้แต่แรกๆนั้น คือตอนเริ่มทำงานนั่นเอง การที่เราเริ่มทำแบบนี้ยิ่งได้เปรียบเพราะส่งผลกับชีวิตเราอย่างมาก เพราะถ้าในอนาคตเรามีการจัดการอย่างดีเราก็จะไม่มีเรื่องกวนใจมาก เช่น ค่าใช้จ่ายน้อย ทำให้เก็บเงินได้มาก และเงินเก็บก็จะมีเวลาที่นานกว่าในการสร้างผลตอบแทนให้ในอนาคตนั่นเอง
4.มีแผนการเงินเป็นของตัวเอง
การวางแผนการเงินเป็นหน้าที่รับผิดชอบของเราเองและเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ไม่สามารถทำตามคนอื่นได้ เพราะเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน นิสัยการใช้เงินต่างๆ ใช้ชีวิตก็ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นคนอื่นจะมาตัดสินใจแทนเราไม่ได้ด้วยว่าควรทำแบบนั้นแบบนี้และเราก็ไม่ทำแบบนั้นด้วย สถานการณ์ของเราแต่ละคนแตกต่างกัน เราก็น่าจะรู้ตัวเองดีว่าเราเป็นคนอย่างไร และปรับการจัดการเงินแบบแผนของเราเอง ซึ่งบางทีสถานการณ์ของเราอาจไม่แน่นอนน่าจะมีการปรับเปลี่ยนด้วย ดังนั้น เราควรที่จะวางแผนการเงินของเราเอง
แอพที่ช่วยให้คุณจัดการเงินได้ง่ายขึ้นมีอะไรบ้าง?
บางทีเมื่อเราวางแผนจัดการเงินให้เป็นระบบระเบียบอาจจะเป็นเรื่องยากด้วยในบางครั้ง ดังนั้น เราต้องพึ่งบางอย่างที่ช่วยเราได้มากขึ้นซึ่งก็คือ แอพที่สามารถ ช่วยให้เราจัดระเบียบมากขึ้นนั่นเอง ให้เรามีดู 4 แอพพลิเคชั่นเหล่านี้ด้วยกัน
1.MONEY LOVER
เงินที่เราจ่ายออกไปเกิดจากที่ไหนกับใคร เเละเเนบภาพถ่าย ฟีเจอร์กันลืมสำหรับลูกหนี้ว่ายืมเงินเราไปเท่าไหร่เเละเหลืออีกกี่บาทที่ยังไม่คืนเรา รายงานสรุปค่าใช้จ่ายรายเดือนว่าเราใช้ไปเท่าไหร่แล้ว คาดการณ์อนาคตการเงินของเราล่วงหน้าได้ 3 เดือน ว่าเราต้องจ่ายอะไรบ้างโดยอ้างอิงจากบิลเเละการจ่ายเงินในทุกเดือนของเรา กระปุกออนไลน์เพื่อให้เราบรรลุถึงสิ่งที่อยากได้โดยเเยกเป็นกระปุกตามที่เราต้องการเก็บเงิน
2.WEPLE MONEY
บันทึกรายรับ-รายจ่าย เป็นรายเดือนแยกหมวดหมู่ชัดเจน ช่วยให้รู้ว่าเงินหายไปไหนอย่างไร สรุปรายรับรายจ่ายเป็นกราฟวงกลม ทำให้ดูได้ง่ายว่าได้ใช้จ่ายส่วนไหนไปมากน้อยเพียงไร ฟีเจอร์เก็บข้อมูลได้หลากหลาย เช่น ข้อมูลเบี้ยประกัน เงินกู้ ยอดหนี้
3.COINKEEPER
สามารถตั้งงบประมาณรายเดือนเพื่อคุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดช่วยให้เราบริหารเงินทั้งเดือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดูยอดเงินเเละค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้ภายในหน้าเดียว สามารถจำกัดวงเงินของเราได้ว่าช่วงเวลานี้ต้องใช้จ่าย รองรับทุกสกุลเงินทั่วโลก
4.MOBILLS
สามารถสร้างตารางรายรับ-รายจ่ายประจำเดือนได้ตามต้องการ มีระบบติดตามการใช้จ่าย ถ้าเราใช้จ่ายเกินที่วางเเผนจะมีการเเจ้งเตือน มีระบบแจ้งเตือนค่าใช้จ่ายประจำเมื่อถึงกำหนดที่ต้องชำระ
สรุป ทำไมเราต้องให้ความสำคัญกับการเงิน?
เราต้องให้ความสำคัญการเงิน เพราะนี่ส่งผลกับเราในตอนนี้และกับอนาคตด้วย เช่น ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จำเป็นและไม่จำเป็นเราให้ตัวเองมีเงินเก็บมากขึ้นที่จะใช้ในอนาคตเผื่อเราวางแผนที่เราจะทำอะไรในอนาคตเราก็จะมีเงินนั้นไว้ ทำให้เราไม่ต้องเครียด สบายกว่าเดิมด้วยซ้ำและทำให้เราเห็นปัญหาที่แท้จริงว่าสิ่งที่เราประสบนั้นมันเกิดจากอะไร ดังนั้น เราอย่าคิดว่ามันยากที่ต้องจัดระเบียนมากมายแต่ถ้าเราคิดว่ายากมันก็จะยาก เราต้องลบความคิดนั้นและเริ่มทำจะได้รู้ว่ามันช่วยให้ชีวิตเรามีความสุขขึ้นนั่นเอง
หนิว
เรื่องของโลกการเงินนี่มันกว้างใหญ่เหลือเกิน ผมพยายามอย่างมากที่จะศึกษาเรียนรู้ให้มากที่สุดแล้วนำมาปรับใช้ ผมว่าแผนการเงินที่ดีที่เกิดผลกับบางคนอาจจะไม่ได้ผลกับอีกคนก็ได้ เพราะพฤติกรรมของคนเราเรื่องเงินนั้นต่างกันมาก ผมก้เลยคิดว่าเราไม่ควรยึดติดเมื่อหาความรู้ได้ว่าคนรวยคนประสบความสำเร็จทำอย่างนั้นทำอย่างนี้แล้วดี เราก็อย่าไปตามเขาซะหมดเพราะคนเราไม่เหมือนกันให่เรามาปรับใช้แทนน่าจะดีกว่าครับ
Khem
ขนาดเรื่องเงินก็ยังมีเรื่องที่เข้าใจผิดกันอยู่อีกนะคะ ทำไมเรื่องนี้จึงสำคัญเพราะว่าผู้คนให้ความสำคัญเรื่องของการเงินมากเลยทีเดียว คือถ้าไม่ระมัดระวังหรือมองข้ามจะทำให้เงินที่มีอยู่ลดลง หรือว่าจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมอะไรก็ตามที่เราไม่รู้เพิ่มเติมขึ้นมาอีก ดังนั้นบทความนี้จึงอธิบายให้เราเข้าใจซึ่งสิ่งที่เราจำเป็นต้องคิดถึงเมื่อเรามีเงินอยู่ในมือนะคะ
น้ำหนึ่ง
น่าสนใจมากเลยทีเดียวนะคะ ช่วยเปิดกว้างทางความคิดให้กับผู้ที่วางแผนทางการเงิน ทำให้รู้ด้วยค่ะว่าจะทำยังไงดีกับการวางแผนการเงินในอนาคต วันนี้ช่วยให้มีความเข้าใจมากขึ้นอยู่กับการวางแผนทางการเงิน รวมไปถึงสิ่งที่ควรทําและไม่ควรทําในกรณีเกี่ยวกับการวางแผนเรื่องของความคิด เพื่อที่จะช่วยให้เรามีเงินเก็บในอนาคตได้มากขึ้นค่ะ
Phudit
คนส่วนใหญ่ไม่วางแผนการใช้เงินไว้ล่วงหน้าและไม่ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายหรอกครับ เราไม่ได้ถูกปลูกฝังมาแบบนั้น จริงๆก็รู้นะว่าเป็นสิ่งที่ควรทำแต่มันขี้เกียจน่ะ ผมไม่ได้ว่าใครนะเพราะผมก็เป็นครับ แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่ามันไม่ใช่แค่สิ่งที่ควรทำแต่มันเป็นสิ่งที่ต้องทำเลยละ วันนี้ยังมีงานทำพรุ่งนี้จะมีหรือเปล่าไม่รู้ ชีวิตคนเราไม่แน่นอนหรอกครับ
ธนากร
ไม่ใช่แค่คนรวยเท่านั้นครับที่ต้องวางแผนเรื่องการเงิน ยิ่งคนไม่มีนี่ละครับยิ่งต้องวางแผนให้ใช้เงินอย่างคุ้มค่าที่สุดเลยครับ แต่คนจนติดกับง่ายกว่าครับ เพราะว่า โปรต่างๆอย่างที่บอกมันล่อใจครับ อย่างบอกว่าจ่ายเท่านั้นซื้อเท่านี้ แล้วจะได้ส่วนลดได้เงินคืน คนที่อยากได้เรื่องพวกนี้ ติดกับกันทุกคนเลย แต่พอซื้อแล้วก็มาบ่นว่าซื้อมาทำไม งงครับตอนซื้อไม่คิด
แก้มแดง
อ่านไปอ่านมาก็มารู้ว่าเราเข้าใจผิดหลายเรื่องเลยนะคะ แต่ก็ดียังมีบทความนี้ที่มาช่วยให้เข้าใจถูกต้องขึ้นมาบ้าง ถ้าเข้าใจผิดแบบนี้ไปตลอดคงไม่ดีแน่ๆ เพราะความเข้าใจผิดๆทำให้เราไปผิดทาง หลงทาง และหาเป้าหมายไม่เจอค่ะ ก็ว่าทำไมเรามีสภาพการเงินแบบแปลกๆเพราะเข้าใจผิดหลายเรื่องนี่เอง เดี๋ยวจะลองใชแอพที่แนะนำมาด้วย เลือกก่อนว่าใช้แอพไหนดี
ไก่ย่างตัวโต
อีกอย่างนึงนะครับต้องแยกระหว่างความอยากได้กับความจำเป็นออกจากกันให้ได้นะครับ เช่น บางครั้งสิ่งที่เราอยากได้มันอาจจะไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็นที่ตัวเราต้องใช้ก็ได้ บางคนซื้อทุกอย่างที่คิดว่าอยากได้ก็ทำให้เป็นหนี้และมีปัญหาเรื่องเงิน แต่ถ้าเราคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ได้จำเป็น...เงินเรามันก็จะไม่ได้หลุดออกจากกระเป๋าง่ายๆครับ
แนน
จริงๆต้องบอกว่าการตลาดและโฆษณาโฆษณาในสมัยนี้ทำดีมากทำให้เราซื้อของ ที่ไม่จำเป็นจริงๆกับชีวิตของเรา โฆษณามันดูดีจริงๆอ่ะบางทีราคาก็ไม่แพงด้วยทำให้เราก็เผลอใจเพราะเงินในกระเป๋ามายิ่งสมัยนี้มีพวก application บนมือถือชุดเดียวก็ซื้อของเสร็จแล้ว อยู่บ้านไม่ต้องไปไหนก็ซื้อของได้ สมัยนี้เนี่ยยิ่งเทคโนโลยีไปไกล เราก็ยิ่งเสียนิสัยกันเยอะขึ้น
กาญจน์ธนัศ
เดียวนี้เทคโนโลยี่ ทำให้เราควบคุมค้าใช้จ่ายได้ด้วยนะครับ ดีเลยครับมี แอพฯ ต่างๆ ที่เราสามารถเลือกใช้งานได้ ไม่ต้องมาคอยนั้งจดบันทึก รายรับ-รายจ่าย ให้เหมือนเมื่อก่อน แล้วที่ผมชอบคือ มันคำนวนให้เราได้ด้วยเรื่องของการใช้จ่ายเงิน ดีนะครับ เหมือนเรามีเลขาส่วนตัวที่คอยแจ้งเรื่องการใช้เงินของเรา เดียวจะลองๆไปใช้ดูนะครับ
แมน
จริงนะครับบางคนบอกว่าคนรวยใช้เงินฟุ่มเฟือย ก็ใช่ครับบางคนแต่สำหรับบางคนกว่าจะรวยมาได้ก็ต้องประหยัดอดออมเหมือนกัน ไม่เห็นไหมครับว่าคนรวยบางคนก็ขี้เหนียวเหลือเกิน จึงเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะครับว่าคนรวยจริงๆแล้วไม่ใช่คนฟุ่มเฟือย แต่เป็นคนขี้เหนียวต่างหาก เพราะกว่าจะได้แต่ละบาทของเขาเก็บเงินขยันและเก็บทุกบาทจริงๆ
แพรว
อืมๆๆ!!! อ่านบทความนี้ตอนแรกก็ยังเข้าใจอยูนะคะ แต่พอมา เรื่องที่เกี่ยวกับหัวเรื่องที่2 ที่บทควานี้เขียนเอาไว้ คือเริ่มงงแล้วคะ อันนี้เป็นบทความที่ให้คนไทยอ่านไหมคะ หรือว่าเขียนเอาหวัง โกอินเตอร์ หรือยังไงคะ คื่อเขียนมาเป็นภาษาต่างประเทศแบบนี้ เราก็งงเลยคะ แล้งก็คิดว่าคนที่อยากรู้เรื่องแบบนี้ถ้าเป็นคนที่ไม่เก่งภาษา น่าจะไปที่อื่นกันหมดคะ
Higth
@แพรว ผมก็งงเหมือนกันครับ แต่ถ้าพยายามทำความเข้าใจก็เริ่มจะเข้าใจบ้างจริงๆก็ได้ประโยชน์อยู่นะครับเกี่ยวกับเรื่องใหม่ๆ มีหลายเรื่องที่เราเข้าใจผิดเราก็มีหลายเรื่องที่เราสามารถใช้ประโยชน์ได้ เพื่อที่จะเข้าใจเรื่องเงินและปรับเปลี่ยนวิธีการใช้เงินของเรามากขึ้นถึงแม้เรื่องจะงงๆนิดนึงแต่ก็ได้ประโยชน์ครับ ผมคิดว่างั้นนะ