10 อาชีพเกษตรกรสร้างรายได้ มีอะไรบ้าง?

อาชีพเกษตรกรเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ดีมาก แต่หลายคนคิดว่ามีรายได้น้อยและเหนื่อย แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่างที่ทำแล้วเหนื่อย เราเองก้ต้องดูด้วยว่างานมีอะไรบ้างที่ผู้คนส่วนใหญ่นิยมกันถึงจะทำให้เราสร้างรายได้ที่ดี จริงๆ งานนี้เมื่อเราเลือกที่จะทำเอง เราก็จะมีอิสระมากกว่าด้วย และได้ประโยชน์ที่สามารถนำมาใช้ได้ในชีวิตประจำวันได้แถมยังทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายบางอย่างได้ ดังนั้น ให้เรามาดูว่ามีอะไรบ้างที่สร้างรายได้ที่ดี มี 10 อย่างด้วยกันดังต่อไปนี้

1.สาหร่ายขนนก – สาหร่ายพวงองุ่น

การเพาะเลี้ยง สาหร่ายพวงองุ่น และ สาหร่ายขนนก ส่งขายราคาสูง สาหร่ายขนนกเป็นสาหร่ายฝั่งทางอันดามัน นำมาเลี้ยงในกระชังต่อการจำหน่ายและป้อน ให้กับลูกค้าได้ทั้งปีเลยทีเดียว ส่วนสาหร่ายพวงองุ่นนั้น นำมาเพาะเลี้ยงประมาณ 4 เดือนก็สามารถที่จะนำวางจำหน่ายได้ มันไม่ได้ยากแต่ก็ จะต้องใช้เวลาด้วย ปกติราคาขายของพวงองุ่นนั้น จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 200 บาท ถ้าเราแบ่งขายกล่องละ 1 ขีดขีดละ 35 บาท ส่วนสาหร่ายขนนกนั้น ขาย กิโลกรัมละ 100 บาท เราก็แบ่งขายกล่องละ 35 บาทเหมือนกันกับสาหร่ายพวงองุ่น แล้วสามารถส่งไปที่จังหวัดอื่นๆด้วยเช่นไปรษณีย์หรือเคอรี่ สาหร่ายพวงองุ่นกับสาหร่ายขนนกนั้น สามารถสร้างรายได้วันละประมาณ 1,000 บาท

2.เห็ดถั่งเช่า

การเพาะ ‘เห็ดถั่งเช่าสีทอง’ โดยปกติ การเพาะเห็ดถังเช่านั้นใช้เวลานานอยู่พอสมควรประมาณ 60-70 วัน ราคาปกติราคาในปัจจุบันกิโลกรัมละประมาณ 60,000 บาท ซึ่งสามารถ เพาะปลูกเห็ดถังเช่า ได้เดือนละ 10 กิโลกรัม ก็จะได้รายได้ที่ดีมากๆ เมื่อลองคิดดูแล้ว อาชีพนี้ก็น่าทำจริงๆ ถึงแม้ใช้เวลานานแต่ก็คุ้มค่ากับการรอคอย

3.เพาะเลี้ยง ด้วงสาคู

เพาะเลี้ยงด้วงสาคูราคาขายของด้วงสาคูนั้นจะมีอยู่ 2 อย่าง อย่างแรกถ้าขายเป็นตัวสวยๆก็จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 250 บาท แต่ถ้าเป็นแบบแช่ฟิตสามารถอยู่ได้ 7-8 เดือนราคาประมาณ 350 บาทต่อ 1 กิโลกรัม และยังสามารถที่จะ ขายพ่อแม่พันธุ์ได้อีกด้วย ซึ่งจะส่งขายเป็นชุดเลี้ยงประกอบด้วยพ่อพันธุ์ 10 ตัวอาหาร 3 กิโลกรัม พร้อมพร้อมไปกับคู่มือการเลี้ยง ปกติจะขายในราคาพร้อมส่ง 400 บาทและ สามารถ เลี้ยง 500 ชุดก็จะสามารถผลิตตัวหนอนออกมาได้มากกว่า 300 กิโลกรัมต่อเดือนเพื่อที่จะส่งขายไปทั่วประเทศไทย เราจะเห็นว่าสร้างรายได้ที่ดีมากเมื่อคิดคิดดูแล้วก็เกือบแสนต่อเดือนด้วยซ้ำไปเยอะมากจริงๆ

4.เสี่ยงแต่รายได้สูง ตัดรังต่อหัวเสือ

เลี้ยงต่อหัวเสือปัจจุบันมีทั้งหมด 50 ลัง ซึ่งเริ่มโดยจากการตามหารังต่อเล็ก พอดีจะนำมาแขวนและได้มีการจัดเตรียมพื้นที่ป้องกันการฝนไว้ เพื่อนที่ลองต่อที่มีขนาดเล็กๆ จะค่อยๆ ขยายรังเพิ่มขึ้นเยอะเรื่อยๆ การทำให้อาหารตัวต่อจาก นิยมใช้น้ำหวานเป็นส่วนใหญ่ และพวกเนื้อสัตว์ เช่นหมูไก่ตั๊กแตน วิธีการเข้าไปเก็บรังต่อก็ค่อนข้างที่จะเสี่ยงมาก เพราะว่าจะต้องมีความพร้อมในเรื่องพื้นที่ที่ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาจะต้องมีการเตรียมชุดป้องกันอย่างดี ในการเก็บรังต่อในแต่ละครั้งก็จะต้องได้ประมาณ 2-3 กิโลกรัม ยิ่งถ้าแปลงตัวอ่อนที่มีอายุประมาณ 3-4 เดือน ราคาขายตัวอ่อนอยู่ที่กิโลกรัมละ 700 บาทเพื่อที่จะส่งไปต่างจังหวัด งานนี้ถึงแม้เสี่ยงแต่ก็สร้างรายได้ดีมาก คนที่จะทำงานนี้จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมมากๆ และมีประสบการณ์อยู่พอสมควร เพราะก็ไม่ง่ายแต่ก็สร้างรายได้ที่ดีเช่นกัน

5.เห็ดมิลค์กี้

วิธีก็คือเราจะนำก้อนเชื้อ เห็ดมิวกี้ มาทดลอง เพราะในปัจจุบันนี้การเพาะเห็ดมิ้วกี้ ส่งไปขายที่หลายจังหวัดเพราะจุดเด่นเห็ดชนิดนี้เป็นเห็ดดอกสีขาวใหญ่ มีเนื้อแน่นในอาหารสูง สามารถเก็บได้นานกว่าเห็ดนางฟ้าเสียอีกและรสชาติก็คล้ายกับเนื้อไก่ผสมเนื้อปลาหมึก แต่ก็ดูแลเห็ดชนิดนี้ก็ไม่ยากอะไรแค่ลดน้ำให้เห็ดมิวกี้วันละ 2 ครั้งแต่สถานที่การเพาะเห็ดจะต้องอยู่ในสภาพอากาศที่ชื้นและอุณหภูมิค่อนข้างอบอ้าวไม่ร้อนจนเกินไป จงอยู่ในความพอดีและสะอาด การเก็บเห็ดมิวกี้นั้น จะเก็บตั้งแต่อายุประมาณ 10-12 วัน ถ้า 1 สัปดาห์ก็จะเก็บได้ 10 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 400 บาทหรือขายเป็นขีดขีดละ 40 บาท เป็นอาชีพที่น่าสนใจจริงๆ สำหรับใครที่ถนัดด้านนี้ และง่ายๆ ซึ่งก่อนอื่นเราก็จะต้องมีความรู้ในการเพาะเห็ดมิลค์กี้ เมื่อเรามีความรู้เพียงพอก็จะสามารถทำงานที่ได้ แถมยังสร้างรายได้ที่ดีและใช้เวลาไม่นานด้วย

6.ผักเชียงดา

การปลูกผักเชียงดานั้น ยังต่อยอดการปลูกผักสดแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายและครบวงจร การปลูกพืชที่เสริมรายได้เช่นนี้ได้รับการส่งเสริมจากศูนย์ส่งเสริมพัฒนา อาชีพการเกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่ ทำผักเชียงดามาปลูก ก็เห็นผลว่าปลูกได้ดีและ ก็สามารถเก็บยอดผักสดขายได้กี่กิโลกรัม ละ 50 บาทและตอนกิ่งขาย 35 บาททำให้เห็นว่าผักเชียงดาเป็นที่ต้องการของการตลาดมาก และผู้คนก็นิยมรับประทานปลูกเท่าไหร่ก็ไม่พอขายทำให้ต้องเพิ่มพื้นที่ปลูกจนปัจจุบันนี้มีอยู่กว่า 5000 ต้น ถ้าคนไหนที่คิดที่จะทำอาชีพนี้ก็ต้องออกความพยายามที่จะปลุกและใช้พื้นที่ในการปลูกด้วย และเป็นที่นิยม สร้างรายได้ที่ดีอีกต่างหาก

7.มะยงชิด

การปลูกมะยงชิด รอบคันสวนกว่า 50 ต้นในพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ 3 งานซึ่งในตอนนั้น ต้นมะยงชิดเป็น ต้นไม้ที่ทนต่อทุกสภาพอากาศไม่ว่าจะเป็นร้อนหนาวฝน และช่วงกุมภาพันธ์ก็จะเริ่มมีช่อดอกและออกเป็นลูก แต่เราก็ต้องระวังเรื่องเพลี้ยไฟและแมลงวันทอง ซึ่งก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้และต้องให้สุขภาพต้นสีเหลืองอมส้มลูกมะยงชิดนั้นมีขนาดใหญ่กว่าไข่เป็ดไปนิดหน่อย แล จะผลิตผลได้ปีละครั้ง แต่การขายถึงแม้จะได้ผลิตปีละครั้งแต่ก็ขายรายได้ในราคาดีในแต่ละปี เพราะเป็น ผลไม้ที่ผู้คนส่วนใหญ่ชอบรับประทานอย่างมาก รับรองว่าเมื่อเราลงทุนปลูกมะยงชิดเราก็ต้องมีความอดทนที่จะรอแต่สร้างรายได้ ในแต่ละปีนั้นไม่น้อยเลยทีเดียว

8.เคพกูสเบอร์รี่

เคพกูสเบอรี่ มีการจำหน่ายและเป็นที่ต้องการของการตลาดซึ่งจำหน่ายได้ในราคาสูงด้วยและก็เป็นพืชที่มีอายุสั้นด้วยเช่นเดียวกันจึงทำให้ได้รายได้เร็ว การเพาะปลูกเคพกูสเบอรี่ทำให้ เริ่มทำให้มีผู้สนใจปลูกกันเป็นจำนวนมากและถ้าเราปลูกประมาณ 400 ต้นก็จะใช้เวลาในการปลูก 2 เดือนครึ่งจึงสามารถจะเก็บผลผลิตได้และจำหน่ายได้ในกิโลกรัมละ 100 บาทสำหรับไซส์เกรด A ในแต่ละรอบการผลิตก็จะสามารถจำหน่ายได้ประมาณ 1 แสนกว่าบาทเลยทีเดียวเราจะเห็นว่าสร้างรายได้ไม่น้อยเลยแล้วก็น่าลงทุนมาก น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังคิดที่จะหารายได้ที่ได้มากขนาดนี้ก็สามารถทำงานนี้ได้

9.อินทผาลัม

การปลูกอินทผาลัม หนังคล้ายกับการปลูกพืชทั่วไปและใช้เวลาการปลูกตั้งแต่เริ่มต้นพันธุ์แปลงลงจนออกผลก็จะใช้เวลาประมาณ 30 เดือนหรือ 2 ปีครึ่งนั่นเองแต่ก็จะเริ่มเก็บผลได้เต็มที่ในปีที่ 3 เพราะ คาดไว้ว่าผลผลิตจะอยู่ประมาณ 80 ถึง 100 กิโลกรัมซึ่งอยู่ในราคาที่ดีมาก คนโสดในปัจจุบันนี้อยู่ที่ 450 ถึง 800 บาท คนโสดในปัจจุบันนี้อยู่ที่ 450 ถึง 800 บาท ตามความ สวยของพวงนั่นเองซึ่งเราก็เฉลี่ยรายได้อยู่ที่ประมาณ 40,000 – 40,000 บาทต่อต้นต่อปี ถ้าปลูกไว้ทั้งหมด 40 ต้นก็คาดได้ว่าในแต่ละปีนั้นก็ไม่ต่ำกว่า 1,600,000 บาท เราจะเห็นว่าน่าลงทุนจริงๆ เพราะจากที่พูดมานี้สร้างรายได้ที่ดีมาก มันก็อาจจะต้องใช้เวลาแต่ก็คุ้มมากเมื่อได้รายได้ที่ดีมาในแต่ละปีซึ่งคุ้มกับการรอคอย

10.บัตเตอร์นัท

การปลูก บัตเตอร์นัท หรือฟักทองเมืองหนาวจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งประสบความสำเร็จได้ดีที่จังหวัดตรัง ก็จะขายราคากิโลกรัมละ 60 บาทซึ่งหาซื้อไม่ได้ทั่วไปด้วยเราก็ต้องสั่งจองทางออนไลน์เพราะขายดีมากๆ เนื้อผัดต้นหอมเหมือนกับเนื้อฟักทอง ก็จะละเอียดกว่าเพราะเมล็ดจะเป็นกองอยู่ในวงกลมซึ่งอยู่ส่วนท้ายของลูกและรสชาติก็จะหวานหอมอร่อยสามารถนำไปต้มยำ ทำแกงได้เหมือนพักทองทั่วไปด้วยผู้คนส่วนใหญ่ชอบและนิยมทานกันซึ่งเราจะเห็นว่าก็สร้างรายได้ที่ดีมากเลยทีเดียว

การเกษตรมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ โดยมนุษย์รู้จักใช้ประโยชน์อย่างหลากหลายจากพืช สัตว์ ในชีวิตประจำวัน โดยใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตปัจจัย 4 คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัยและยารักษาโรค โดยมนุษย์รู้จักเก็บเกี่ยวผลผลิตทางเกษตร นำไปประกอบอาหารรับประทาน สร้างความเจริญเติบโตแก่ร่างกาย นำส่วนต่าง ๆ ของพืชเส้นใยไปผลิตสิ่งทอหรือใช้หนังสัตว์ทำเครื่องนุ่งห่ม ปลูกป่าเพื่อนำไม้ไปเป็นอุปกรณ์การก่อสร้าง สร้างที่พักอาศัย อาคารสถานที่ ทำเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ต่าง ๆ และปลูกพืชสมุนไพร เพื่อนำไปใช้เป็นยารักษาโรค ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ทั้งสิ้นการเกษตร

มีประโยชน์อยู่ 3 จุดด้วยกันดังต่อไปนี้

• เป็นอาชีพเสริมอาชีพหลัก คือการทำการเกษตรเป็นอาชีพที่เสริมอาชีพอื่นที่ทำเป็นงานหลักอยู่แล้ว เช่น เลี้ยงสุกร 5 - 10 ตัว ในขณะรับราชการครู
• เป็นอาชีพธุรกิจและบริการทางการเกษตร เช่นจำหน่ายไม้ดอกไม้ประดับ รับจัดสวนหย่อม จำหน่ายเครื่องมือทางการเกษตรจำหน่ายผลผลิตเกษตร
• เป็นอาชีพหลัก ได้แก่การทำการเกษตรเพื่อเป็นรายได้หลักของครอบครัว เช่น ปลูกผัก เลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงกุ้ง ฯลฯ การเกษตรกรรมยังมีบทบาทที่สำคัญ ต่อประเทศในหลายๆ ด้าน ได้แก่ด้านเศรษฐกิจด้านสังคม ด้านการเมืองการปกครองและด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

สรุป อาชีพเกษตรกรไหนที่สร้างรายได้ดีที่สุด?

สิ่งที่น่าสนใจ ก็น่าจะเป็นอาชีพที่ง่ายและสร้างรายได้ที่ดี สำหรับความเห็นส่วนตัวแล้วคือ สาหร่ายขนนกและสาหร่ายพวงองุ่น ที่สร้างรายได้ที่ดีและใช้เวลาไม่นานมาก ที่เลือกสิ่งนี้เพราะปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่ชอบรับประทานมากและอร่อย ก็น่าจะลองทำอาชีพนี้ดูสำหรับคนที่ชอบงานนี้ แต่หลายคนอาจจะชอบอาชีพอื่นๆ ด้วย อยู่ที่ความถนัดและความชอบของแต่ละคนเป็นส่วนตัวด้วยเช่นกัน 10 อย่างที่พูดมาก็น่าลงทุนทั้งหมด แล้วแต่ว่าเราถนัดสิ่งไหนราก็ลองทำดูได้ เราจะเห็นว่าอาชีพเกษตรกรสร้างรายได้ได้ดีกว่าที่คิดเสียอีก