มนุษย์เงินเดือน คือ มนุษย์ที่ต้องทำงานตามระบบและกฎระเบียบของบริษัท ต้องอดทนทำงานเพื่อแลกกับเงินก้อนที่จะได้รับในทุกๆ สิ้นเดือน และต้องใช้ความพยายามในการบริหารเงินก้อนนั้นให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิตภายในหนึ่งเดือน เห็นไหมว่าหากคิดจะเป็นมนุษย์เงินเดือนก็ไม่อาจหนีพ้นคำว่า ต้อง ต้อง และต้อง ไปได้เลย
แต่วัยรุ่นยุคใหม่เป็นกลุ่มคนที่เจริญเติบโตมากับแนวความคิดที่เป็นอิสระ อยากคิดเองทำเอง ไม่ชอบการถูกบังคับหรือตีกรอบให้ต้องทำ คำว่า ‘ต้อง’ จึงเป็นคำ ‘ต้องห้าม’ สำหรับวัยรุ่นในยุคนี้ การเป็นมนุษย์เงินเดือนจึงไม่สามารถตอบโจทย์ทางความรู้สึกของวัยรุ่นยุคใหม่ได้ แต่หากบ้านไม่ร่ำรวยเงินทองมากพอหรือมีธุรกิจของตัวเองรองรับ การเป็นมนุษย์เงินเดือนจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับวัยรุ่นที่กำลังจะก้าวสู่โลกของการทำงานอย่างจริงจัง
และในเมื่อไม่สามารถหนีพ้นความเป็นชีวิตมนุษย์เงินเดือนได้ ก็ลองปรับเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ดีกว่า ว่าจะทำอย่างไรให้เป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีเงินเหลือใช้เหลือเก็บเพียงพอ และจะดีแค่ไหนหากเป็นมนุษย์เงินเดือนหลักแสนตอนอายุยังน้อย หลายคนมองว่ามันเป็นเรื่องยาก แต่ความจริงแล้วมันไม่ยากอย่างที่ใครๆ คิด หากทำตามเคล็ดลับดีๆ ดังนี้
1. ค้นหาตัวเองให้เจอ
หากสามารถค้นหาอาชีพในฝันของตัวเองพบตั้งแต่อายุยังน้อยถือว่ามีโอกาสมากกว่าครึ่ง เพื่อคุณจะสามารถกำหนดทิศทางในการก้าวเดินได้อย่างชัดเจน หากใครที่ยังอยู่ในช่วงระหว่างการศึกษาและยังค้นหาตัวตนไม่เจอก็ไม่ต้องกังวล เพราะคุณยังพอมีเวลาก่อนที่จะก้าวเข้าสู่โลกของการทำงานจริง แต่สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานแล้ว ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสค้นพบตัวตน ลองสำรวจดูว่าสิ่งที่ทำอยู่ในตอนนี้คือความสุขที่ต้องการจริงหรือไม่ หากคำตอบคือไม่ ลองพยายามมองหาอะไรใหม่ๆ ทำ ไม่มีอะไรสายเกินกว่าที่จะพยายาม เวลาไม่ใช่ตัวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงชีวิต แต่ใจคนต่างหากที่จะสามารถเปลี่ยนชีวิตได้
2. ความรู้คือใบเบิกทาง
บางครั้งชีวิตการทำงานจริงก็แทบจะไม่ได้ใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมามากสักเท่าไร แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความรู้ที่คุณได้รับคือใบเบิกทางชั้นเยี่ยมที่จะเป็นจุดเริ่มต้นชีวิตมนุษย์เงินเดือนที่ดีของคุณ ยิ่งโดยเฉพาะนักศึกษาจบใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์การทำงานด้วยแล้วละก็ องค์กรจะพิจารณารับคุณเข้าทำงานด้วยเหตุผลใด นอกเสียจากใบแสดงผลการเรียนที่สั่งสมมาตลอดการศึกษา ยิ่งถ้ามีผลการเรียนที่ดีมากเท่าไร จะสามารถแสดงให้เขาเห็นว่าคุณมีความตั้งใจและความรับผิดชอบมากแค่ไหน โอกาสที่จะได้รับเลือกก็จะมากกว่าผู้สมัครคนอื่น
3. ศึกษาให้เชี่ยวชาญ
พยายามศึกษาเส้นทางการทำงานในสายอาชีพที่เลือกให้เชี่ยวชาญมากที่สุด กล่าวคือ การศึกษาเครื่องมือในการประกอบอาชีพ จำพวกใบรับรองหรือวุฒิเส้นทางอาชีพเฉพาะด้านต่างๆ เช่น นักบัญชีต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพจึงจะสามารถรับทำบัญชีได้ หรือหากในอนาคตอยากได้รับเงินเพิ่มก็ขยับขยายมาเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีจำเป็นต้องมีใบอนุญาตผู้สอบบัญชี (Certified Public Accountant) เป็นต้น ต้องเรียนรู้ศึกษาเส้นทางในการเจริญเติบโตของสายอาชีพ เพื่อเพิ่มโอกาสในการหาความรู้ให้กับตนเอง และโอกาสที่จะสามารถเรียกค่าตอบแทนที่สูงขึ้น
4. เลือกองค์กร
หากเป็นไปได้ก่อนตัดสินใจสมัครงานให้เลือกองค์กรที่ตนเองให้ความสนใจและอยากจะเข้าทำงานมากกว่าหนึ่งองค์กร และให้เลือกสมัครองค์กรที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ เพราะองค์กรเหล่านั้นจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยชั้นดีในการสมัครงานใหม่ในอนาคต การมีประสบการณ์การทำงานมาจากบริษัทที่ได้รับการยอมรับจากสังคม จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในศักยภาพของตัวคุณและยังเป็นโอกาสในการเรียกค่าตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าบริษัทเดิม เพราะจะทำให้เขารู้สึกว่าคุณคือบุคลากรที่มีความสามารถเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคว้าตัวไว้ทำงาน
5. ทำตัวเหมือนน้ำไม่เต็มแก้ว
คงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด เพราะด้วยโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ เจริญก้าวหน้าไปในทุกวัน จึงมีความจำเป็นที่มนุษย์ต้องก้าวตามเพื่อความอยู่รอด หากไม่อยากเป็นคนล้าหลังก็ต้องหมั่นเติมเต็มความรู้อยู่ตลอดเวลา และยิ่งหากคุณมีความรู้มากเท่าไร ความสามารถของคุณก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น จึงไม่ยากเลยสำหรับเงินเดือนที่จะเพิ่มมากขึ้นตามความสามารถที่เพิ่มขึ้นของคุณจริงไหม ฉะนั้น อย่าปิดกั้นตัวเอง อย่าถูกความสามารถของตัวเอง วันนี้ที่คุณยังทำไม่ได้ก็ไม่ได้แปลว่าพรุ่งนี้คุณก็จะทำไม่ได้ ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ถ้าพยายามอย่างเต็มความสามารถ
6. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
เป้าหมายในชีวิต คือแรงกระตุ้นชั้นเยี่ยมที่จะเป็นตัวผลักดันชีวิตคุณให้ก้าวไปข้างหน้า ทั้งยังเป็นตัวปลุกสัญชาตญาณความเอาชนะในตัวมนุษย์ได้เป็นอย่างดี เพื่อให้พยายามหาแนวทางหรือวิธีการที่จะเดินทางไปให้ถึงมันได้สำเร็จ อย่างเช่นวันนี้ คุณตั้งเป้าหมายว่าต้องมีเงินเดือนหลักแสนให้ได้ก่อนอายุเลข 3 แล้วจะมีหนทางใดที่จะทำมันได้สำเร็จ คุณเท่านั้นที่จะสามารถตอบได้
ทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นเพียงหลักการปฏิบัติเบื้องต้นเท่านั้น แต่ระหว่างเส้นทางเดินก่อนที่คุณจะมีเงินแสนได้ในแต่ละเดือนมันขึ้นอยู่กับจิตใจและการกระทำของคุณเสียมากกว่า เพราะต่อให้คุณมีหลักการดีอย่างไร แต่ไม่ลงมือทำหรือทำแล้วเจออุปสรรคเกิดความท้อถอยและล้มเลิก อย่าว่าแต่หลักแสนเลยแค่หลักพันหรือหลักหมื่นคุณก็ไม่สามารถทำได้
ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก MoneyHub
ภูมิพัฒน์
น่าสงสารคนที่เป็นหนี้นะครับยิ่งจำเป็นต้องผ่อนรถผ่อนบ้าน แล้วยังมาเจอกับสถานการณ์ covid 19 โรคระบาดที่ใครๆก็กลัวกันตอนนี้ส่งผลให้จำเป็นต้องหยุดงาน ตกงานกันบ้าง แล้วที่ตามมาก็คือจะทำยังไงล่ะเมื่อจำเป็นต้องผ่อนชำระค่างวดรถ บทความนี้ทำให้สบายใจขึ้นมาบ้างเลยครับ เพราะมีบางแนวคิดที่เราสามารถนำมาใช้ได้กับชีวิตของเรา
นาวา
น่าเห็นใจมนุษย์เงินเดือนนะครับ ยิ่งเป็นนักศึกษาจบใหม่ที่ต้องการจะหางานที่ตรงกับอาชีพของตัวเองแล้ว บางครั้งก็แอบคิดอยู่เหมือนกันว่าจะได้รับเงินเดือนเท่าไหร่ในแต่ละเดือน บทความนี้ทำให้เห็นว่า ถึงแม้จะเป็นมนุษย์เงินเดือนแต่ก็สามารถรู้แนวทางการใช้ชีวิตและมีเป้าหมายในการทำงานได้ ถ้าคิดว่าตัวเองไม่บอกกับงานแบบมนุษย์เงินเดือน ถ้าอายุยังน้อยอยู่ก็ลองเป็นอาชีพอย่างอื่นไปก่อนก็ได้ครับ
ธีรเดช
เป็นแค่มนุษย์เงินเดือนก็อาจจะมีเบื่อๆกันบ้าง หรือบางทีก็รู้สึกเหนื่อยที่ต้องทำตามคำสั่งเจ้านายไม่เป็นอิสระ แต่พอมาอ่านบทความนี้ช่วยให้เปลี่ยนความคิดในการเป็นมนุษย์เงินเดือนไปได้มากเลยครับ ทำให้ผมรู้ว่าจะทำงานเป้มนุษย์เงินเดือนยังไงให้สนุก และมีความหมายเมื่อเริ่มมองข้อดีของการทำงานแบบนี้ก็รู้สึกว่างานแบบนี้เหมาะกับเราที่สุดแล้วครับ
น้ำตาล
ถึงแม้จะเลือกไม่ได้ที่เป็นมนุษย์เงินเดือนนะคะ แต่ก็สามารถที่จะเลือกได้ว่าจะเองจะทำงานแบบมีความสุขหรือมีความทุกข์ โดยที่ขึ้นอยู่กับมุมมองหรือความคิดในแง่บวกของเราค่ะ บทความนี้ทำให้เห็นว่าเป็นไปได้ที่จะช่วยให้การทำงานที่เราทำอยู่ซ้ำซากหรือเป็นประจำ รู้สึกสนุกและมีความหมายจากการทำงานมากขึ้น จะช่วยให้ชีวิตของเราดีขึ้นค่ะ
กระแต
เคยดูหนังไทยเรื่องนึงที่เกี่ยวกับมนุษย์เงินเดือนมั้ย? บางคนก็ชอบการทำงานแบบนั้นนะ อาจเพราะได้เงินเดือนทุกเดือน สิ้นปีก็มีโบนัส แต่ก็จริงที่บางคนต้องทำงานหนักมากกว่าเงินเดือนที่ได้รับแต่สุดท้ายก็ได้ทำงานที่ใหม่ซึ่งให้เงินเดือนดีแถมมีสวัสดิการดีอีกด้วย มันขึ้นอยู่กับหลายอย่างนะ ถ้าไม่อยากทำงานประจำแบบนี้ก็ต้องทำแบบที่บทความนี้บอกค่ะ
โต๋เต๋
การทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนนั้นใครว่าง่ายไม่เครียดไม่ต้องมีแผน ผมว่าไม่ใช่เลย ผมว่ามีการแข่งขันที่สูงมากนะใครแข็งแกร่งก็อยู่รอด ผมจึงต้องพยายามสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเองเสมอเหมืออย่างบทความนี้บอกมาเลยครับว่าเราต้องพัฒนาตัวเองในทุกๆเรื่องทั้งสร้างเป้าหมาย สร้างความสามารถเพิ่มเติม เพราะทั้งหมดนี้จะสร้าวโอกาสในการทำงานครับ
พี่ชัย
ที่เข้ามาอ่าน บอกตรงๆว่า สนใจเรื่อง "แก้ปัญหาหนี้ผ่อนรถ..เมื่อต้องหยุดงานจากวิกฤติโรคโควิด 19" อย่างเดียวเลยครับ แต่พอได้อ่านแล้ว มันไม่ใช่เลยครับ มีแต่เคล็ดลับการทำโน้นนี่นั้นครับ ผมว่ามันมาทำไม่ทันแล้วละครับ เพราะว่า รถก็ผ่อนมาแล้ว แล้วก็ต้องจ่ายทุกเดือนอยู่แล้ว ผมว่า การผ่อนรถกับการ สมัครงาน มันไม่น่าจะเกี่ยวกันเลยนะครับ
ปลา
ถ้าพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องการทำงานในช่วง covid 19 นี้ บางคนต้องเปลี่ยนงานใหม่ บางคนต้องตกงาน คุณต้องทำตัวให้ขยันขึ้นเพื่อจะไม่ถูกให้ไล่ออกจากงาน น่าเห็นใจเหมือนกันนะคะ วิธีหนึ่งที่ช่วยฉันได้ก็คือการเป็นคนที่พยายามเรียนรู้อะไรใหม่ๆตลอดเวลาค่ะ แค่ขยันอย่างเดียวยังไม่พอ ต้องเปิดใจให้กว้างและเรียนรู้อะไรใหม่ๆจะช่วยให้เราสามารถเป็นที่พอใจของเจ้านายหรือนายจ้างได้ค่ะ
Alisha
ถึงชื่อเรื่องจะไม่ใช่ เรื่องในบทความแต่ก็พยายามอ่านให้จบคะ เข้าท่าดีนะคะ สามารถเอามาใช้งานได้ ช่วง โควิด-19 นี้ด้วยเหมือนกันนะคะ เอาง่ายๆคะ ถ้าเรามีปัญหาเรื่องผ่อนรถยนต์ ตามที่ชื่อเรื่องบอก เราก็ลองๆทำอย่างในบทความที่เกี่ยวกับการทำงาน (มันจะเกี่ยวกันไหมนะ) ไปปรับใช้ได้นะคะ อย่างเป็นคนขยันหาอะไรใหม่ทำแบบนี้นะคะ
เจน
เพราะการเรียนรู้เป็นสิ่งที่ไม่สิ้นสุดครับ การที่เราพยายามเรียนรู้อะไรใหม่ๆสามารถที่จะเอาไปต่อยอดในธุรกิจหรือการทำงานของเราได้ ว่าจะช่วยให้เราคิดไอเดียหรือช่องทางที่จะทำงานอาชีพของเราได้ดีที่สุดครับ เหมือนกับคนที่บอกว่าการลงทุนเกี่ยวกับพัฒนาศักยภาพของตัวเองยังไงก็ไม่มีทางขาดทุนนั่นแหละ การหาความรู้หรือเป็นเหมือนน้ำที่ไม่เต็มแก้วก็สำคัญด้วยค่ะ
High
เหมือนผมจะไปเคนได้ยินที่ไหนมาว่า ธนาคารที่เค้าให้หยุดผ่อนรถในช่วงโควิด มีแค่ไม่กี่ธนาคารที่จะให้เราพักหนี้จริงๆ เพราะเมื่อเราพักหนี้ไม่ว่าจะกี่เดือนก็ตาม เหมือนเราจะไปจ่ายดอกเบี้ยฟรี พูดง่ายๆเหมือนเราเสียเงินไปฟรีๆ เพราะเสียเงินแต่ดอกต้นก็ไม่ลดด้วย มันก็จริงนะครับมีไม่กี่ที่เท่านั้นที่จะให้เราพักแบบพักหนี้จริงๆ
D-Day
ถึงแม้ว่าหัวข้อบทความ และ เนื้อหาจะไม่ค่อยตรงกันนะครับแต่ผมยึดเอาเนื้อหาแล้วกันถือว่าได้ประโยชน์ เหมาะกับช่วงเวลานี้มากๆ ใครที่กำลังท้อแท้หมดกำลังใจอ่านบทความนี้แล้วก็ลุกขึ้นมาสู้ได้นะครับเรายังมีหนทางอีกเยอะที่จะทำให้ตัวเองมีคุณค่ามีประโยชน์ แล้วยังมีทางออกแล้วก็มีโอกาสด้วยครับ ลองคิดหาอะไรทำที่เราถนัดและใกล้ตัวที่สุดดูสิครับอาจจะเป็นรายได้ขึ้นมาก็ได้