ไม่ว่าธุรกิจน้อยใหญ่ตอนนี้ก็ได้รับผลเสียหายจากการระบาดของไวรัสโควิด 19 กันถ้วนหน้าไม่เว้นว่าใครไม่เว้นว่าธุรกิจจะมั่นคงแค่ไหนก็เจอปัญหาหนักกันทั้งนั้น เมื่อพูดถึงธุรกิจใหญ่ๆเมื่อเกิดปัญหาอะไรขึ้นคนก็มักคิดว่าจะสามารถผ่านไปได้ง่ายๆเพราะมีความมั่นคงอยู่แล้ว ความคิดแบบนั้นก็ไม่ผิดค่ะเพราะมีส่วนที่จริงอยู่บ้างเมื่อเกิดปัญหาใหญ่ เช่น ภัยพิบัติ การก่อการร้าย หรือแม้กระทั่งสงคราม ธุรกิจใหญ่มักจะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ล่ะเป็นอย่างไร? สถานการณ์ที่ทั่วโลกต้องเผชิญตอนนี้คือ โรคระบาดที่ระบาดหนักไปทั่วโลกและกินระยะเวลายาวนานด้วยซึ่งไม่รู้จะจบลงเมื่อไหร่? ซึ่งปัญหานี้ต่างจากปัญหาต่างๆที่กล่าวมาเพราะปัญหาอื่นๆมักเป็นปัญหาที่เกิดในช่วงเวลาสั้นๆ ธุรกิจจึงสามารถฟื้นตัวได้เร็ว แต่เมื่อปัญหาอยู่ยาวนานไม่สามารถฟื้นตัวได้สักทีนี่สิคะแม้จะเป็นธุรกิจใหญ่ที่มั่นคงแค่ไหนก็ล้มลงได้ เพราะธุรกิจยิ่งใหญ่ยิ่งเจ็บหนักเพราะต้นทุนสูงนั่นเอง
บทความนี้จะมาพูดถึงธุรกิจใหญ่ที่คุ้นหูกันว่าธุรกิจ SME ค่ะ ดูเหมือนว่าธุรกิจ SME นี้จะได้รับผลเสียอย่างมากจากสถานการณ์โรคระบาดครั้งนี้ เพราะสิ่งที่เปลี่ยนไป คือพฤติกรรมการบริโภคสินค้าของผู้คน รวมไปถึงการเดินทาง และการส่งออกหยุดชะงักไป ธุรกิจแรกๆที่ได้รับความเสียหาย คือธุรกิจท่องเที่ยวทำให้ธุรกิจอื่นๆที่มีส่วนได้กำไรจากธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลเสียไปตามๆกันเป็นโดมิโน่ค่ะ สถานการณ์นี้กลับกันธุรกิจเล็กๆกิจการเล็กๆต่างหากที่ได้รับผลเสียหายน้อยกว่าและช้ากว่าธุรกิจใหญ่ๆค่ะ เมื่อเห็นถึงปัญหาที่ธุรกิจ SME ต้องเผชิญผู้เขียนจึงอยากหาข้อมูลดีๆมาให้กำลังใจผู้ประกอบธุรกิจ SME กันบ้าง สิ่งที่สามารถทำได้ง่ายๆในตอนนี้ก็คือ การปรับตัว มาดูกันว่าจะปรับตัวเรื่องอะไรได้บ้างนะคะ
หาช่องทางเพิ่มรายได้
ถ้าธุรกิจของคุณไม่ได้อยู่ในรูปแบบการบริการ แต่เป็นธุรกิจการขายสินค้าไม่ว่าของใช้หรืออาหารก็สามารถปรับตัวได้อยู่บ้างเพื่อหารายได้เข้ามา แต่ถ้าธุรกิจที่เป็นในรูปแบบการบริการคงทำได้ยากมากเพราะตอนนี้มีการสั่งปิดธุรกิจเกี่ยวการบริการทั้งหมด เช่น สปา ร้านนวด ธุรกิจบริการนักท่องเที่ยวทั้งบนบก และทะเล ธุรกิจเหล่านี้ไม่สามารถทำต่อไปได้เลย แต่ถ้าเจ้าของธุรกิจไอเดียดีๆปรับเปลี่ยนมาค้าขายแทนอาจจะสร้างรายได้ให้บริษัทได้บ้างค่ะ ดังนั้นเรามาพูดถึงธุรกิจในรูปแบบการค้าขายกันก่อนว่าจะปรับตัวอย่างไร? อย่างแรกเลยคือ หาช่องทางเพิ่มรายได้ เมื่อเจอสถานการณ์โรคระบาดตอนนี้คงทำให้ยอดขายลดลงแน่นอนแต่คุณสามารถเพิ่มยอดขายได้โดยการปรับเปลี่ยนฐานลูกค้าย้ายฐานลูกค้ามาเป็นตลาดโซเชียลแทนนั่นเองค่ะ หาช่องทางให้สินค้าของคุณขายได้ในโลกออนไลน์ และส่งถึงที่แบบ Delivery ค่ะ เพียงเท่านี้นยอดขายก็จะกลับมาเท่าเดิมหรือเพิ่มกว่าเดิมได้แล้วค่ะ ธุรกิจในรูปแบบบริการที่เปลี่ยนมาค้าขายก็สามารถทำแบบนี้ได้เช่นกันค่ะเพียงแค่ปรับตัวก็สามารถไปต่อได้แล้วนะคะ
หาช่องทางลดค่าใช้จ่าย
การทำธุรกิจแบบเดิมก็ต้องมีการทำบัญชีอยู่แล้ว แต่เมื่อต้องปรับตัวตามสถานการณ์ตอนนี้การทำบัญชีก็ต้องเปลี่ยนไปด้วยเมื่อเขาสู่ตลาดออนไลน์ และมีฐานลูกค้าในโลกโซเชียลแล้วนั้น ต้นทุนและสินค้าอาจจะต้องปรับเปลี่ยน ดังนั้นการตัดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นออกจึงสำคัญค่ะ อย่างเช่น เมื่อไม่มีหน้าร้านก็ไม้ต้องจ้างพนักงานเยอะๆ ไม่ต้องจ่ายค่าเช่า ไม่มีค่าน้ำ ไม่มีค่าไฟ ไม่มีค่าเดินทาง นี่คือค่าใช้จ่ายที่คุณจะประหยัดได้เมื่อขายของออนไลน์แทนค่ะให้มองว่านี่คือข้อดี แต่ค่าใช้จ่ายที่อาจจะมีเพิ่มก็อย่างเช่น ค่าใช้จ่ายเรื่องบรรจุภัณฑ์เมื่อต้องขายของแบบส่งถึงบ้านทั้งของใช้และอาหารก็ต้องมีค่าใช้จ่ายตรงนี้เพิ่มขึ้นถ้าไม่วางแผนดีๆอาจจะทำให้เสียเงินมากเกินควรได้ค่ะ แต่ถ้าวางแผนอย่างดีเลือกใช้วัสดุที่ราคาพอดีและมีคุณภาพก็จะเป็นการดึงดูดลูกค้าได้ดีช่วยเพิ่มรายได้ค่ะ แต่เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายต่างๆที่ได้ตัดออกไปแล้วกับสิ่งที่ต้องเสียเพิ่มก็ถือว่าคุ้มค่าค่ะที่จะปรับเปลี่ยนมาขายของแบบออนไลน์แทน เพราะถ้าไม่ปรับเปลี่ยนกิจการของคุณอาจจะไม่สามารถสร้างรายได้ได้เลยเพราะการใช้ชีวิตของผู้คนนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว วิธีนี้ก็คือลดค่าใช้จ่าย และนำค่าใช้จ่ายที่ลดลงมาเพิ่มคุณภาพให้สินค้าเพื่อเรียกลูกค้าในตลาดออนไลน์ที่มีการแข่งขันสูงตอนนี้ค่ะ รับรองคุณจะกลับมามรายได้อีกแน่ๆ
เมื่อปรับตัวไปพร้อมกับการประเมินสถานการณ์อาจพลิกวิกฤติเป็นโอกาสได้
ในวิกฤติยังมีโอกาสค่ะ เพียงแค่ปรับตัวเท่านั้นบางทีการปรับตัวครั้งนี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตก็ได้นะคะ ลองคิดดูว่าถ้าสถานการณ์ดีขึ้นโรคระบาดหายไปแต่คุณยังเปิดธุรกิจในรูปแบบออนไลน์อยู่แบบ Delivery อยู่ต่อไปผู้คนเริ่มจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นคุณจะได้กำไรมากขึ้นแค่ไหนเมื่อคุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหลายๆอย่างอีกต่อไป คือค่าใช้จ่ายที่ต้องเปิดร้าน และนี่จะเป็นโอกาสที่จะทำให้คุณสามารถสร้างรายได้สองช่องทางถ้าคุณเลือกจะขายสินค้าแบบออนไลน์และเปิดร้านด้วยก็ทำได้ค่ะ ตอนนี้การปรับตัวเท่านั้นที่จะทำให้ธุรกิจ SME ไปรอดในช่วงไวรัสระบาดแบบนี้ โควิด 19 ทำให้ทุกๆคนต้องปรับตัวแม้จะเป็นธุรกิจที่ใหญ่และมั่นคงแค่ไหนก็ตามตอนนี้ประมาทไม่ได้เลยค่ะเพราะความเสี่ยงมีมากขึ้นแล้วอาจจะมากกว่านี้ก็เป็นไปได้นะคะ
ลูกน้ำ
จริงเลยค่ะ ช่วงโควิด-19นี่คนทำธุรกิจเจ็บตัวไปตามๆกัน ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ถ้าเป็นธุรกิจค้าขายพอเปลี่ยนมาเป็นขายแบบส่งถึงบ้านก็ดีขึ้นหน่อย แต่หลายร้านก็ต้องปิดตัวลงเพราะสู้ไม่ไหวจริงๆ ขนาดเราไม่ได้ทำธุรกิจค้าขายก็ยังพอจะเข้าใจว่าจะลำบากขนาดไหน หลายคนก็เปลี่ยนไปขายออนไลน์ ดูจากข่าวเห็นว่าก็ขายดีขายได้กันอยู่ค่ะ
ใบตอง
น่าเห็นใจสำหรับคนที่ทำธุรกิจ sme ในช่วงนี้นะคะ ที่ต้องเจอกับภาวะโรคระบาดไวรัสโคโรน่า บทความนี้ทำให้เห็นว่ามีวิธีที่จะสามารถ ช่วยเหลือเกี่ยวกับธุรกิจที่ได้ทำการวางแผนและการลงทุนไว้ นี่เหมือนกันนะคะเพื่อที่จะได้มีแนวทางในการเพิ่มมูลค่าหรือเพิ่มผลกำไรของธุรกิจให้สามารถคงอยู่ได้ในตอนนี้ คิดว่าถ้าผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้สถานการณ์จะดีขึ้นค่ะ
น้อย
เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ได้รับผลกระทบเหมือนกันนะครับสำหรับคนที่ทำธุรกิจ sme เพราะดูเหมือนว่าวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้สามารถปรับตัวได้ก็คือ การคิดวิธีที่จะสามารถลดค่าใช้จ่ายในธุรกิจของตัวเอง เพราะถ้าไม่เซฟตัวเองแล้ว รายรับที่เพิ่มเข้ามาในช่วงโรคระบาดโคโรน่าก็ถือว่าน้อยอยู่ จะต้องมีการประคับประคองให้สามารถอยู่รอดพ้นในช่วงวิกฤตนี้ไปให้ได้ครับ
Fahzaa_fm
ทาง SME ได้รับผลกระทบจากโควิดเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจ เป็นอะไรที่ตั้งตัวได้ยากอยู่นะคะ เหมือนที่เจ้าของบทความได้บอกไว้ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นเรื่องจิตใจของพนักงาน SME ด้วย เพราะหากคนในทีมรู้ว่าช่วงนี้เป็นเศรษฐกิจที่เลวร้ายมาก และรู้ว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ยากทุกคนคงท้อไปตามๆกัน ทางที่ดีคือต่างคนต่างให้กำลังใจค่ะ สิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเค้ามีกำลังใจมากยิ่งขึ้น
แก้ว
น่าสนใจสำหรับคนที่ทำธุรกิจ sme นะคะ ต้องลงทุนกับผลิตภัณฑ์แล้วก็ต้องคิดถึงเกี่ยวกับรายได้ที่ลดลงของสภาวะโคโรน่าในช่วงนี้ด้วย คิดว่าตอนนี้ถ้าสามารถหาช่องทางที่จะเพิ่มรายได้ได้ น่าจะเป็นช่องทางที่ช่วยเหลือพยุงธุรกิจ sme ให้เดินหน้าต่อไปได้ค่ะ ด้วยการลดค่าใช้จ่ายก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะคิดถึงหรือว่าช่วยได้เหมือนกันนะคะต้องลองคำนวณดู
ตูล
เดี่ยวนี้แถวบ้านผม คนที่เปิด ธุกิจ SME ต้องปิดตัวลงไปหลายเจ้าแล้วละครับ เพราะว่าเงินทุน หาไม่ได้เลยครับ คิดว่า ช่วงโควิด-19 นี่ คนที่เจอปัญหามากที่สุด คือกลุ่มของ SME นี่แหละครับ บางเจ้าก่อนที่จะเกิดโควิด-19 ธุรกิจกำลังไปได้สวยเลยครับ แต่พอ โควิด-19 เข้ามา หลายเจ้า ข่นส่งไม่ได้ หรือทำการตลาดไม่ได้เลย ครับ
สายไหม
สำหรับช่องทางการทำธุรกิจ sme ของธนาคารไหนก็ตาม นักลงทุนทั้งหลายจำเป็นต้องมีการปรับช่องทางการทำมาหากินใหม่แล้วราคา วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดก็คือการลดต้นทุนลงค่ะ หรือว่าการชะลอผลผลิตในการผลิตไว้ก็ดีเหมือนกันนะคะ เพราะถ้าดูจากสถานการณ์เราจะเห็นว่ากำลังในการซื้อของผู้คนลดลงในช่วงนี้ค่ะ ถ้าอยากอยู่รอดก็ต้องทำตามบทความนี้ค่ะ
มะลิซ้อน
ตอนนี้ยังไม่ได้ยินข่าวเลยนะคะว่า ทางรัฐบาลจะออกมาช่วย ธุรกิจ SME อย่างไรบ้าง ซึ่งธุรกิจประเภทนี้น่าสงสารนะคะ เป็นธุกิจขนาดเล็กที่มีเงินทุนไม่มาก พวกเขาไม่มีเงินหมุนเวียนเลยในช่วง สามเดือนที่ผ่านมา ผลประกอบการของเขาอาจติดลบเลยก็ว่าได้ มันน่าจะมีการปรับแผนของทางภาครัฐบ้างนะคะ เรื่องการช่วยเหลือไม่ใช่เงียบไปแบบนี้
Simon
น่าเห็นใจคนที่ทำธุรกิจ sme เหมือนกันนะครับ @มะลิซ้อน ก็เหมือนที่คุณบอกนั่นแหละคิดว่าเป็นอาชีพนึงที่ไม่ค่อยได้รับการเยียวยาหรือได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลเท่าไหร่เลย ทั้งๆที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด อย่างเช่นธุรกิจ sme ที่เป็นธุรกิจร้านอาหาร ร้านอาหารตามห้าง ก็เงียบไปหมดเลยครับ ปรับตัวยากกันอยู่เหมือนกัน ที่รู้ก็เพราะว่าผมเป็นพนักงานของร้านอาหารร้านนึง