ในยุคที่เศรษฐกิจถดถอย การทำมาหากินก็เริ่มจะฝืดเคือง ไม่ว่าจะเป็นอาชีพค้าขาย บริการ พนักงานประจำ ต่างได้รับผลกระทบทั้งนั้น ทำไปทำมา ค่าใช้จ่ายเริ่มจะชักหน้าไม่ถึงหลัง เผลอๆ รายจ่ายจะมากว่ารายรับซะด้วยซ้ำ ทำยังไงดีหล่ะทีนี้? ทางออกสำหรับบางคน คือ ขอสินเชื่อจากทางธนาคารค่ะ แต่ถ้ามีหนี้ค้างชำระมากเกินไป ทางธนาคารอาจจะไม่อนุมัติเงินกู้ให้คุณก็ได้นะคะ อ้าว! แล้วจะทำยังได้หล่ะ ใจเย็นๆค่ะ อย่าพึ่งหมดหวังนะคะทุกปัญหามีทางออกเสมอค่ะ!

เพื่อเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆและใครอีกหลายคนที่กำลังเจอปัญหาหมุนเงินไม่ทัน ในบทความนี้ดิฉันมีข้อมูลดีๆที่สามารถเป็นทางออกให้กับคุณได้เงินมาใช้ยามฉุกเฉินค่ะ ทางออกที่นำมาให้คุณนี้มีข้อแม้ว่า คุณต้องมีรถยนต์เป็นของตัวเองค่ะ ดิฉันกำลังพูดถึงการรีไฟแนนซ์รถยนต์ค่ะ เพื่อจะเป็นทางออกที่ไม่เป็นภาระหนักเกินไป ก่อนอื่นเพื่อนๆต้องรู้ก่อนว่าไฟแนนซ์รถยนต์คืออะไร? มีข้อดีอย่างไร? อยากรีไฟแนนซ์ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง? มีคำถามอะไรบ้างที่คุณควรสนใจก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์รถยนต์? ถึงแม้รถยนต์จะช่วยคุณได้ในยามฉุกเฉินแต่ตัวคุณเองก็ต้องมีข้อมูลและเข้าใจรายละเอียดต่างๆให้ดีเสียก่อน ดังนั้นขออ่านเรื่องนี้ไปพร้อมๆกันเลยนะคะ

รีไฟแนนซ์รถยนต์คืออะไร มีข้อดีอย่างไร ?

รีไฟแนนซ์รถยนต์คืออะไร มีข้อดีอย่างไร ?

เพื่อนๆหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า รีไฟแนนซ์บ้าน มากันบ้างใช่มั้ยคะ ?เพราะใครๆก็มักจะทำกัน เพื่อทำให้ภาระในการผ่อนเบาลง แต่ในทุกวันนี้หลายคนที่มีปัญหาในเรื่องค่าใช้จ่ายที่หมุนไม่ทัน ก็นิยมเอารถยนต์คันโปรดไปรีไฟแนนซ์กันนะคะ เพื่อทบทวนความจำ ให้เรามาทำความเข้าใจกันอีกครั้งนะคะว่า การรีไฟแนนซ์รถยนต์คืออะไร? และมีข้อดีอย่างไรบ้าง?

รีไฟแนนซ์รถยนต์คืออะไร? การเอารถคันที่เราใช้อยู่ไปเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันในการกู้เงินก้อนใหม่ เพื่อเอาไปชำระหนี้ก้อนเดิม ซึ่งทางธนาคารหรือสถาบันการเงินจะประเมินสภาพรถในปัจจุบัน โดยอ้างอิงกับราคากลางของรถรุ่นนั้นว่าอยู่ที่ราคาเท่าไหร่? การรีไฟแนนซ์ถือได้ว่าเป็นเลือกในการลดต้นทุนทางการเงินโดยเฉพาะกับรถที่ยังเหลือเวลาผ่อนอยู่ไม่น้อยกว่า 3-5 ปี เพื่อเปลี่ยนแหล่งเงินกู้และทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำกว่าเดิมด้วยค่ะ

ข้อดีของการรีไฟแนนซ์รถยนต์มีอะไรบ้าง? อย่างแรกเลยก็คือ คุณจะได้เงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง ทำให้มีเงินมาปิดหนี้ก้อนเดิมที่มีดอกเบี้ยสูงกว่าได้เร็วขึ้น   ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย เพราะสามารถเลือกยอดผ่อนต่อเดือนได้ทำให้เครียดน้อยลง ยืดเวลาในการผ่อนชำระได้นานขึ้น ได้เงินส่วนต่างมาเพื่อชำระหนี้สินบางอย่าง และนำมาใช้จ่ายยามฉุกเฉินได้ ทำให้สภาพการเงินคล่องตัวได้มากขึ้น เราก็ยังมีรถใช้เหมือนเดิม

เพื่อนๆสามารถเลือกรีไฟแนนซ์กับธนาคารหรือสถาบันการเงินเดิม หรือธนาคารใหม่ก็ได้ค่ะ แต่ต้องศึกษารายละเอียดในเรื่อง เงื่อนไข อัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน รวมถึงราคาประเมินรถยนต์ให้ดีก่อนตัดสินใจ เลือกให้ตรงกับความต้องการและ ประเมินสถานการณ์ของตัวเองด้วยว่า ถ้ากู้ยืมเงินก้อนใหม่มา แล้วทำให้หนี้ก้อนเดิมลดลงก็ถือได้ว่าเป็นทางออกที่คุ้มค่า และเป็นทางเลือกที่ฉลาดมากๆ!

แต่อย่าลืมว่ารีไฟแนซ์ก็มีข้อเสียด้วย เมื่อผ่อนนานไปเราก็เป็นหนี้นานมากขึ้น และการจะมีค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์ใหม่ และความยุ่งยากในเรื่องเอกสารที่เกี่ยวกับรายได้ของผู้กู้ด้วยค่ะ

อยากรีไฟแนนซ์ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง?

อยากรีไฟแนนซ์ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง?

คุณสมบัติสำหรับคนที่ต้องการรีไฟแนนซ์รถยนต์ส่วนใหญ่จะเหมือนๆกันค่ะ ต้องมีอายุตั้งแต่ 20-65 ปี มีรถยนต์เป็นของตัวเอง ต้องอาศัยอยู่ในประเทศไทยค่ะ มีอาชีพและรายได้ที่ตรวจสอบได้ เช่น เป็นพนักงานบริษัท/รัฐวิสาหกิจ  ข้าราชการ และอาชีพอื่นๆที่มีเอกสารแสดงรายได้ชัดเจน มีรายได้ขั้นต่ำ 10,000 บาทขึ้นไป

ส่วนเอกสารที่จะต้องใช้ถ้าเป็นบุคคลธรรมดา ก็จะมี บัตรประชาชนตัวจริงพร้อมสำเนา 2 ฉบับ, เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองรายได้ล่าสุดย้อนหลังไม่เกิน 2 เดือน, สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากที่เป็นบัญชีเงินเดือนเข้าล่าสุดย้อนหลัง 3 เดือน, สำเนาสมุดบัญชีออมทรัพย์หรือกระแสรายวันล่าสุดย้อนหลัง 3 เดือน, มีแผนที่อยู่อาศัยและที่ทำงาน, สำเนาสมุดบัญชีหน้าแรกของธนาคารที่ต้องโอนเงินเข้า, และสมุดคู่มือจดทะเบียนรถค่ะ

สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของกิจการหรือนิติบุคคลเอกสารที่ต้องใช้ก็คือ หนังสือรับรองนิติบุคคลหรือทะเบียนการค้าฉบับปัจจุบันจำนวน  2  ฉบับ, สำเนา ภ.พ. 20    สำเนาบัตรประชาชนของผู้สมัคร, สำเนาบัตรประชาชนของผู้ค้ำประกัน, แผนที่ตั้งของที่อยู่อาศัยหรือที่ตั้งของกิจการ, งบการเงินหรือสำเนาเงินฝากออมทรัพย์หรือกระแสรายวันย้อนหลังล่าสุด 3 เดือน, บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น, สำเนาสมุดบัญชีหน้าแรกของธนาคารที่ต้องโอนเงินเข้า, และสมุดคู่มือจดทะเบียนรถค่ะ

คำถามที่คุณควรสนใจก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์รถยนต์

คำถามที่คุณควรสนใจก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์รถยนต์

ก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์รถยนต์เพื่อนๆควรได้คำตอบสำหรับคำถามต่างๆที่เราอาจจะสงสัยก่อนนะคะ เช่น…

การรีไฟแนนซ์ต่างจากการเช่าซื้อรถยนต์อย่างไร?

เพื่อนๆต้องเข้าใจก่อนว่าการรีไฟแนนซ์ก็คือ การนำเอารถของตนเองมาขอสินเชื่อ อยู่ที่เราเลือกได้ว่าต้องการดอกเบี้ยคงที่หรือดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ส่วนการเช่าซื้อรถยนต์เป็นสินเชื่อสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรถยนต์ โดยผ่อนชำระเป็นงวดงวดเมื่อชำระครบ กรรมสิทธิ์ในรถก็จะเป็นของลูกค้าทันที

รถที่ยังผ่อนไม่หมดกับไฟแนนซ์สามารถนำมารีไฟแนนซ์ใหม่ได้ไหม?

คำตอบคือทำได้ เพียงแต่ลูกค้าต้องปิดสัญญาเก่าจากไฟแนนซ์ที่เราผ่อนอยู่ให้เรียบร้อยก่อน แต่เราต้องรู้ด้วยว่า รีไฟแนนซ์ที่ใหม่ ค่างวดในการผ่อน อัตราดอกเบี้ยถูกกว่ายอดเดิมที่จ่ายอยู่มั้ย ? มีโปรโมชั่นตรงกับความต้องการของเราจริงๆไหม ?ถ้าจำนวนการผ่อนแต่ละงวดลดลง หรือได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษเมื่อเทียบกับที่อื่นๆ ถ้าที่ใหม่ไม่ดีกว่าที่เดิม เราไม่จำเป็นต้องปิดสัญญาไฟแนนซ์ก่อนกำหนดค่ะ

ยามที่มีเงินคุณดูแลรถยามฉุกเฉินรถดูแลคุณ

ยามที่มีเงินคุณดูแลรถยามฉุกเฉินรถดูแลคุณ

ปกติเรามักจะดูแลรถที่เราใช้เป็นประจำอยู่แล้วเพื่อความปลอดภัย เราจะมีการเช็ค และตรวจสภาพรถเป็นประจำ แต่เมื่อถึงคราวจำเป็นเราต้องใช้เงิน รถก็สามารถช่วยเราได้ ยิ่งรถเราอยู่ในสภาพที่ดีไม่มีตำหนิ หรือผ่านการชนมา เมื่อนำไปรีไฟแนนซ์ก็ง่าย เพื่อนๆเห็นรึยังคะว่า รถยนต์นอกจากจะช่วยให้เรามีความสะดวกสบายในการเดินทางแล้วยามเราเกิดเหตุฉุกเฉินต้องการใช้เงินด่วน รถคันโปรดสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดมาอยู่ในกระเป๋า และดูแลเรายามฉุกเฉินได้จริงๆค่ะ!