การไม่มีหนี้คือลาภอันประเสริฐ ดิฉันเชื่อว่าหลายคนคงจะเห็นด้วยกับคำพูดนี้แน่ ๆ ใช่มั้ยคะ? เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่า เมื่อมีหนี้เรามีความรับผิดชอบต้องชำระเมื่อถึงเวลา ในความเป็นจริงถ้าไม่จำเป็นคงจะไม่มีใครอยากเป็นหนี้หรอกใช่มั้ยคะ? แต่ก่อนจะเป็นหนี้เราต้องรู้ว่า กู้เงินมาเพื่ออะไร? แหล่งเงินกู้เชื่อถือได้มั้ย? อัตราดอกเบี้ยเท่าไหร่? ระยะเวลาในการกู้นานแค่ไหน? และเรามีความสามารถในการชำระหนี้ตามกำหนดหรือไม่?
ก่อนที่เราจะตัดสินใจกู้เงินไม่ว่ากับญาติ บุคคลทั่วไป ธนาคาร หรือสถาบันการเงิน เราจำเป็นต้องรู้อะไรบ้าง ? เพื่อป้องกันการถูกเจ้าหนี้เอาเปรียบ ในบทความนี้ดิฉันอยากจะชวนเพื่อน ๆ มาทำความเข้าใจว่า สัญญาเงินกู้เงินกู้คืออะไร ทำไมต้องทำ? รายละเอียดสัญญามีอะไรบ้าง? ต้องรู้อะไรก่อนตัดสินใจทำสัญญาเงินกู้?
เพราะรายละเอียดต่าง เหล่าจะช่วยป้องกันเราจากการถูกโกง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว สัญญาเงินกู้นั้นมีความสำคัญทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ค่ะ รายละเอียดมีอะไรบ้างขออ่านไปพร้อม ๆ กันเลยนะคะ
สัญญาเงินกู้ คืออะไร ทำไมต้องทำ
เมื่อพูดถึงคำว่า สัญญา ทุกคนต่างเข้าใจทันทีว่า หมายถึง ข้อตกลงระหว่างบุคคลสองฝ่ายว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร โดยสัญญานั้นจะเป็นรูปแบบเอกสารที่มีลายลักษณ์อักษร ซึ่งมีการระบุเงื่อนไข ข้อตกลง พร้อมลงลายมือชื่อของทั้งสองฝ่าย และพยานด้วย
สัญญาเงินกู้ คือ เป็นสัญญาทางแพ่งประเภทหนึ่งที่มีกฎหมายกำหนดหลักเกณฑ์เอาไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งมีคู่กรณี 2 ฝ่าย คือ ผู้กู้ และ ผู้ให้กู้ และเป็นสัญญาที่ใช้ประกอบการกู้ยืมเงินตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป สัญญาเงินกู้นี้สามารถยืนยันได้ว่า คน ๆ หนึ่งได้ทำสัญญาว่า กู้ยืมเงินกัน เป็นจำนวนเท่าไหร่? อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่เท่าไหร่? ระยะเวลาในการใช้คืนนานแค่ไหน? เพื่อทำให้ทั้งสองฝ่ายสบายใจ ถ้าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญา อีกฝ่ายสามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ทันที สัญญาเงินกู้จะมีผลบังคับใช้ทันทีเมื่อทั้งสองฝ่ายตกลงยินยอมและเซ็นชื่อในสัญญาค่ะ
ทำไมต้องทำสัญญาเงินกู้? บางคนอาจจะสงสัยในเมื่อเรายืมแล้วเมื่อถึงเวลาก็ต้องคืนอยู่แล้ว ฉันไม่โกงหรอก จะพูดแบบนี้ก็ได้ถ้าเงินที่เรายืมนั้นไม่กี่บาท แต่ในความเป็นจริงสัญญาเงินกู้นั้นมีประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายค่ะ ถ้าเราจะมองในอีกมุมหนึ่งสัญญาเงินกู้เป็นการปกป้อง ในกรณีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำผิดสัญญา ไม่ยอมเอาเงินมาคืนตามเวลาที่กำหนดไว้ หรือหายตัวหนีไปไหนก็ไม่รู้ สัญญาเงินกู้ยังช่วยให้เจ้าหนี้มีโอกาสได้เงินคืนโดยการฟ้องร้องตามกฎหมายค่ะ
รายละเอียดสัญญาเงินกู้ มีอะไรบ้าง
ในเมื่อเรารู้แล้วว่า สัญญาเงินกู้ คืออะไร และทำไมต้องทำแล้ว ทีนี้ให้เรามาดูว่าในสัญญาเงินกู้นั้นมีรายละเอียดอะไรบ้าง? ที่เราต้องรู้ ส่วนใหญ่ข้อกำหนดของสัญญาเงินกู้จะมีการระบุรายละเอียด 3 ส่วนด้วยกันค่ะ
ส่วนแรกเป็นส่วนนำของสัญญา ซึ่งจะมีรายละเอียดของ ชื่อสัญญา สถานที่ วันที่ทำสัญญา รวมถึง ชื่อที่อยู่ของคู่สัญญา ส่วนต่อไปจะเป็นเนื้อหาของสัญญา เช่น วัตถุประสงค์ในการทำสัญญา จำนวนเงินต้นที่กู้ยืม อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลากำหนดในการชำระหนี้ และรายละเอียดผลของการผิดนัดชำระหนี้ และ ส่วนสุดท้ายลายเซ็นของผู้ให้กู้ และผู้กู้ ลายเซ็นของพยานทั้ง 2 ฝ่าย เนื้อหาในส่วนนี้ถือว่าสำคัญเพราะผู้ทำสัญญาจะต้องเข้าใจสิทธิและความรับผิดชอบที่เกิดขึ้นในกรณีที่มีการทำผิดสัญญา และเจ้าหนี้เองก็จะเอาเปรียบเราไม่ได้ถ้าเอกสารไม่ชัดเจน
สัญญาเงินกู้ จะมี 2 แบบค่ะ คือ แบบที่ไม่มีกำหนดเวลาชำระ แบบนี้ผู้ให้กู้สามารถทวงเงินคืนเมื่อไหร่ก็ได้เมื่อทวงแล้วลูกหนี้ต้องคืนทันทีตามมาตรา 203 ซึ่งมีอายุความ 10 ปี ตามมาตรา 193/30
สัญญาเงินกู้มีกำหนดเวลา ผู้ให้กู้จะทวงเงินคืนก่อนเวลากำหนดไม่ได้ ยกเว้นในกรณีลูกหนี้เสียชีวิตก่อนถึงเวลากำหนดชำระเงินค่ะโดยที่เจ้าหนี้มีสิทธิ์ฟ้องทายาทของลูกหนี้ได้ทันทีภายในกำหนด 1 ปี เริ่มนับตั้งแต่วันที่รู้ว่าลูกหนี้เสียชีวิต
ต้องรู้อะไรก่อนตัดสินใจทำสัญญาเงินกู้
สัญญาเงินกู้ไม่ว่าจะว่าจะเป็นเอกสารเขียนขึ้นเองหรือเป็นแบบฟอร์มทางการก็ได้แต่รายละเอียดในเอกสารต้องมีข้อมูลครบ เช่น วันที่ สถานที่ ทำสัญญากู้เงิน ซื่อของผู้กู้และผู้ให้กู้ จำนวนเงินกู้ อัตราดอกเบี้ยต้องไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี หรือร้อยละ 1.25 ต่อเดือนตามกำหมายกำหนด กำหนดการชำระคืน ลายเซ็นผู้กู้ และผู้ให้กู้ ลายเซ็นพยานทั้งสองฝ่าย
ก่อนเซ็นชื่อต้องอ่านเนื้อหาทุกบรรทัดอย่างรอบคอบ ตรวจสอบรายละเอียดชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประชาชนให้ตรงกันกับในสัญญาจริง ถ้ามีข้อความแปลกๆต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันว่าหมายถึงอะไร? ถ้าไม่แน่ใจอย่าเซ็นเด็ดขาด!
เมื่อมั่นใจว่าสัญญาเงินกู้เรียบร้อยดี และตัดสินใจทำสัญญา เพื่อความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ควรจะพิมพ์ลายนิ้วมือของเราด้วยหมึกสีดำ/น้ำเงินลงไปในสัญญาเงินกู้ด้วยเพื่อป้องกันการปลอมลายเซ็น และทำสัญญากู้เอาไว้ 2 ฉบับ ให้ผู้กู้และผู้ให้กู้เก็บเอาไว้คนละชุด และต้องถ่ายเอกสารสัญญาเงินกู้ หลักฐานการโอนเงินเก็บเอาไว้ให้ดี แต่ถ้าเป็นไปถ่ายวีดีโอระหว่างทำสัญญาเอาไว้ก็จะปลอดภัยยิ่งขึ้น ในกรณีต้องการกู้เงินเพิ่มจากยอดเดิมควรทำสัญญากู้ยืมขึ้นมาใหม่อีก 1 ฉบับเพื่อป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร
กรณีมีการแก้ไขตัวเลขต้องมีลายเซ็นของผู้ให้กู้ด้วยเพื่อยืนยันการแก้ไข ในการเซ็นเอกสารทุกใบ อย่าลืม! ระบุเอาไว้ด้วยว่าใช้เอกสารนี้เพื่อทำสัญญาเงินกู้กับ… เท่านั้น ลงวันที่ด้วย เพื่อป้องกันการนำข้อมูลของเราไปใช้อย่างอื่นค่ะ
ในกรณีที่เราเป็นผู้ให้กู้ เพื่อจะไม่ถูกเบี้ยวได้ นอกจากพยานบุคคลทั้งสองฝ่ายแล้ว ควรให้ผู้กู้พิมพ์ลายนิ้วมือลงในสัญญาเงินกู้ด้วย รวมถึงมีหลักทรัพย์ หรือมีบุคคลค้ำประกันด้วยก็จะปลอดภัยที่สุดค่ะ
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 5 จุดที่ต้องเช็กก่อนเซ็นสัญญาเงินกู้ ที่นี่
สัญญาเงินกู้คือหลักหลักฐานช่วยป้องกันการถูกโกง
เงินก็ยังเป็นปัจจัยหลักของการดำรงชีวิตของมนุษย์ทุกคนบนโลกนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจตกต่ำ รายได้ลดลง แต่รายจ่ายยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆทำให้เงินที่มีเริ่มไม่พอใช้ ทางออกที่เราเราพึ่งได้กู้คือการกู้เงิน
การกู้เงินให้ปลอดภัยไม่ว่าเราจะเป็นผู้ให้กู้หรือผู้กู้ ต้องมีความรู้ในเรื่องสัญญาเงินกู้ด้วย เพราะสมัยนี้ผู้คนมีนิสัยเห็นแก่ตัว ชอบหาช่องโหว่ทางกฎหมายมาเอาเปรียบคนที่ไม่รู้กฎหมาย เพื่อเราจะไม่ถูกโกง การอ่าน ตรวจสอบ ทำความเข้าใจรายละเอียดในสัญญาเงินกู้ทุกตัวอักษร
ก่อนเซ็นชื่อทุกครั้งต้องดูว่าเอกสารและสัญญามีข้อความตรงกัน เมื่อเซ็นชื่อเรียบร้อยต้องถ่ายเอกสารเก็บเอาไว้เป็นหลักฐานทุกครั้ง จะช่วยเราได้มาก เพราะถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญาสัญญาเงินกู้จะเป็นหลักฐานทางกฎหมายช่วยเราฟ้องร้องได้ เพราะฉะนั้น สัญญาเงินกู้ เป็นเรื่องที่ลูกหนี้ต้องรู้ เจ้าหนี้ต้องทำ เพื่อความปลอดภัยช่วยไม่ให้ถูกโกงได้ง่าย ๆ ค่ะ หากใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามผู้เชี่ยวชาญจาก MoneyDuck ได้ฟรี ที่ลิงก์ด้านล่าง
สุรางค์
สัญญาเงินกู้ ส่วนใหญ่ ถ้าไปขอสินเชื่อกับทางธนาคารหรือว่า กับพวกไฟแนนซ์ ไม่ค่อยจะเจอปัญหาเรื่องการโกงเท่าไรคะ ที่เจอๆกัน ก็จะเป็นสัญญาเงินกู้นอกระบบมากกว่าคะ สัญญาแบบนี้เขียนไม่ค่อยขัดเจนเท่าไร ดังนั้นใครที่กำลังคิดจะกู้เงินจากพวกนอกระบบต้องอ่านแล้วก็ทำความเข้าใจก่อนที่จะตกลงเซ็นสัญญา อันไหมไม่ชัดเจนหรือว่าไม่เข้าใจ ต้องถามทันที
ชัยวัฒน์
ถ้าเวลาที่ขอสินเชื่อต่างๆ จากพวกสถาบันการเงินที่ถูกต้อง ตามกฏหมาย ไม่ค้ช่อยจะมีปัญหาอะไรมากครับ เเกี่ยวกับเรื่องของเอกสารต่างๆ เพราะมันเป็นไปตามกฏหมายที่กำหนด แต่ถ้าเป็นสินเชื่อหรือว่าเงินกู้ นอกระบบ อันนี้เห็นด้วยเลยครับ ต้องใช้เวลาอ่านครับ ไม่ใช่อะไรก็ง่ายไปหมดนะครับ ถ้าไม่เชคดีๆ ระวังจะต้องจ่าเงินมากกว่าที่ยืมหลายเท่าเลยนะครับ
ชัชchawarn
ขอบคุณที่ให้คำแนะนำเรื่องสัญญาเงินกู้ครับ ทุกวันนี้เรื่องเงินๆทองๆต้องระวังกันให้มาก สภาพการเงินไม่ค่อยคล่องกันสักเท่าไร บางครั้งต้องไปกู้ยืมเงินกัน ดังนั้น สัญญาเงินกู้เป็นเรื่องสำคัญมากทั้งสำหรับผู้ให้กู้และผู้กู้ เมื่อทำสัญญาต้องมีความละเอียดและรอบคอบกันอย่างมาก ดีที่มีบทความแบบนี้ เป็นประโยชน์มากเลยครับ
วิทวัช
นอกจากลูกหนี้ จะได้ประโยชน์เรื่อวของสัญญาแล้ว ผมคิดว่าคนที่เป็นเจ้าหนี้ก็ได้ประโยชน์ด้วยนะครับ เคยได้ยินไหมว่าสัญญา ปากเปล่า ทำกับคนที่รู้จักเอาเงินไปหลายบาท ผลสุดท้ายก็ชักดาบ ตามคืนก็ตามไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องทิ้งเงินไป สัญญาอย่างน้อยก็เป็นหลักฐานที่ดีในการฟ้องร้องเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำผิดขอ้ตกลงระหว่างกัน
รพีพร
ส่วนใหญ่ที่ มีปัญหา น่าจะยืมเงินจากคนที่เรารู้จักคะ ยืมไปแล้วก็ไม่ได้คืน ยืมครั้งละ พัน 2พัน หายเงียบไปก็เยอะคะ นี่อ่านบาทความนี้แล้ว วันหลังเวลาที่ใครจะยืมเงิน ต้องทำสัญญาเงินกู้เอาไว้แล้วละ เห็นบอกว่า ตั้งแต่ 2พันบาท ก็สามารถทำสัญญาเงินกู้ได้แล้ว ทำเอาไว้ กันเอาไว้ดีกว่า ช่วงโควิดแบบนี้ ชักดาบกันบ่อยคะ
Witawat=:=
แม้จะเป็นลูกหนี้ก็ควรรู้ว่าสัญญาเงินกู้เป็นอย่างไร มีข้อความอะไรระบุไว้บ้าง ที่สำคัญคือ เราเข้าใจข้อความนั้นว่าอย่างไร หากว่าเข้าใจไม่ตรงกับเจ้าหนี้ สงสัยจะแย่ โอกาสพลาดจะสูง พลาดแล้วอาจทำให้เสียเงินเพิ่มนี่ล่ะครับ อันนี้ล่ะแย่แน่ๆของจริงเลย ใครจำเป็นจริงๆที่จะต้องกู้เงินคนอื่น ก็ขอให้หาเงินมาชำระหนี้ทันเวลานะครับ
อัครินทร์
ถ้าขอสินเชื่อกับของธนาคารก็ไม่น่าต้องกังวลเรื่องพวกนี้เท่าไรหลอกครับ เพราะว่าเป็นเอกสารที่เป็นทางการมากครับ แต่ถ้าเราไปขอกู้เงินจากข้างนอกเราต้องอ่านให้ดีๆอย่าเซ็นโดยที่เราไม่ได้อ่านข้อตกลงโดยเด็ดขาด หรือจะมีอีกพวกที่ให้เราเซ็นกระดาษเปล่าๆแล้วบอกว่าเดี่ยวไปพิมพ์ใส่ที่หลัง อันนี้เราอย่าทำเลยเด็ดขาดนะครับ
ชัชวงศ์276
การทำสัญญาต้องรู้เขารู้เราถ้าไม่อยากเสียเปรียบ จะเป็นลูกหนี้หรือเจ้าหนี้ เอาจริงๆ ผมว่าทั้งสองฝ่ายมีความกังวลและระแวงกันอยู่นะ เจ้าหนี้กลัวลูกหนี้จะไม่จ่ายเงินคืน ลูกหนี้กลัวเจ้าหนี้จะคิดดอกเบี้ยแพงกว่าที่ตกลงไว้หรือมายึดเอาทรัพย์สมบัติของตัวเองไป เวลาทำสัญญากู้ยืมจึงควรอ่านรายละเอียดให้ดี อย่ารีบเซ็นชื่อครับ