ในความคิดของใครหลายๆคน การกู้เงิน มักจะเป็นทางออกของคนที่มีปัญหาทางการเงิน จนความหมายของสินเชื่อได้ถูกตรึงอยู่บนพื้นที่แคบๆ แบบดราม่าเรียกน้ำตา. แต่จริงๆแล้ว เงินกู้ชนิดนี้ กลับขึ้นอยู่ตามประเภทของผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อว่าอยากได้แบบไหน เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อรถ รวมไปถึง ‘สินเชื่อส่วนบุคคล’ ที่เราอยากจะคุยกันในวันนี้

เพื่อให้ทุกคนได้คำตอบแบบที่ไม่เกิดความสับสน และสามารถใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจเพื่อตัดจบปัญหาจากหนี้นอกระบบได้ ใครอยากรู้ว่าสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นทางออกที่ดีกว่ายังไง ตามมาดูกันสิค่ะ!

สินเชื่อส่วนบุคคลคืออะไร

สินเชื่อส่วนบุคคลคืออะไร

สินเชื่อส่วนบุคคล คือ สินเชื่ออเนกประสงค์ชนิดหนึ่ง ที่ให้วงเงินเพื่อผู้ขอสินเชื่อจะได้รับเป็นเงินก้อนไปใช้ได้ตามความต้องการของแต่บุคคลที่ต่างกันไป เช่น เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจ ใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน หรือใช้ปิดหนี้อื่นที่มีดอกเบี้ยสูงกว่า. โดยทางธนาคารหรือสถาบันการเงินที่อนุมัติสินเชื่อนั้น จะพิจารณาผู้กู้จากบุคคลทั่วไปที่มีรายได้มั่นคง มีประวัติทางการเงินที่ดี เพื่อสามารถทำการจ่ายชำระคืนได้ เช่น พนักงานประจำ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือผู้ที่ทำงานเป็นหลักแหล่ง

ซึ่งโดยปกติแล้ว จะมีการอนุมัติวงเงินให้สูงสุดประมาณ 5 เท่าของรายได้ผู้กู้ เช่น ถ้าเรามีรายได้ 20,000 บาท ก็ขอกู้สินเชื่อนี้ได้ไม่เกิน 100,000 บาท เป็นต้น และกำหนดให้มีการผ่อนชำระคืน คือ การผ่อนเป็นงวดๆ ตั้งแต่ 12-60 เดือน ด้วยจำนวนเงินคงที่ตามการคิดคำนวณจากเงินต้นพร้อมอัตราดอกเบี้ยที่ได้รวมไว้ตามระยะเวลาที่กำหนด บนเงื่อนไขของแต่ละธนาคารหรือสถานบันการเงินค่ะ

ลักษณะเด่นของสินเชื่อส่วนบุคคล

ลักษณะเด่นของสินเชื่อส่วนบุคคล

จุดเด่นของสินเชื่อประเภทนี้ คือ ผู้กู้ หรือผู้ขอสินเชื่ออย่างเรา จะไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ หรือหาบุคคลค้ำประกันให้วุ่นวาย เพราะธนาคารหรือสถาบันการเงินจะพิจารณาวงเงินจากเอกสารรายได้ของผู้กู้เป็นหลัก จึงไม่ต้องเอาอนาคตทางการเงินของใครมาเสี่ยงด้วย

จากวงเงินในการอนุมัติของแต่ละแห่ง ที่อนุมัติสูงสุด 5 เท่าของรายได้ หรือสูงสุดประมาณ 2 ล้านบาท ก็เป็นตัวเลขที่มากพอหากเราต้องการนำเงินจำนวนนี้ไปจัดการกับธุระในเรื่องการเงินที่วางแผนไว้ และไม่ได้กลายเป็นภาระหนักเกินไปในช่วง 1- 5 ปีข้างหน้า เพราะเป็นการกำหนดค่างวดที่ชัดเจน ผ่อนจ่ายสบายๆไปนานสูงสุด 60 เดือน เราจึงสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือนได้ง่ายๆ

ส่วนดอกเบี้ยที่มีการเรียกเก็บ จะเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate) ในตลอดอายุสัญญา ถ้าเรามีมากก็จ่ายคืนมาก ยิ่งจ่ายคืนเกินค่างวดที่เรียกเก็บได้ ก็ยิ่งประหยัดดอกเบี้ย ทำให้หมดหนี้และเป็นอิสระทางการเงินได้เร็วขึ้น แบบไม่มีค่าปรับในการปิดบัญชีก่อนกำหนดค่ะ

และถึงตัวเลขของอัตราดอกเบี้ยนี้จะดูสูงกว่า อัตราดอกเบี้ยแบบเงินต้นคงที่ (Flat Rate) ทั้งแบบต่อเดือนและต่อปี แต่ถ้าใช้ศูนย์ในการคูณ 1.8 เข้าไปเพื่อเปรียบเทียบ ก็จะเห็นว่าตัวเลขน้อยๆนั้น ไม่ได้แปลว่าถูกกว่าเสมอไป. หรือเงินก้อนจากบัตรเครดิต ด้วยอัตราดอกเบี้ยเรียกเก็บแบบเดียวกัน แต่ถ้ารวมค่าธรรมเนียมเบิกถอนเงินสดที่สินเชื่อบุคคลไม่มี และดอกเบี้ยการจ่ายสำหรับ 30 วันที่บัตรเครดิตดูถูกว่า แต่เมื่อรวมค่าใช้จ่ายแล้ว สินเชื่อบุคคลก็ยังถูกกว่าถึงครึ่งนึงเชียวล่ะ

และที่สำคัญ สินเชื่อส่วนบุคคล ดีกว่า หนี้นอกระบบแบบเห็นๆ!! ด้วยเหตุผลอะไร เราจะมาบอกกันในหัวข้อถัดไปกันเลย

ความน่ากลัวของหนี้นอกระบบ

ความน่ากลัวของหนี้นอกระบบ

ถึงสินเชื่อบุคคลจะต้องมีทางเดินเป็นแบบเป็นแผน ใช้เอกสารในการแสดงรายได้ แต่หนี้แบบนอกระบบ กลับเป็นเงินด่วนที่ใช้เอกสารน้อยมาก บางแห่งใช้เพียงบัตรประชาชน หรือใช้เวลาเพียง 30 นาทีก็กู้ได้แล้ว แต่ข้อแตกต่างที่ชัดเจน คือ เงินกู้จากหนี้นอกระบบจะอยู่นอกเหนือกฎหมายที่กำหนด ถึงเราได้เงินกู้มาจริงๆ แต่ก็ตามมาด้วยดอกเบี้ยมหาโหด นับต้นนับดอกอาจไม่รู้จะใช้คืนยังไงเลยล่ะ

และหนี้นอกระบบยังเป็นปัญหาที่หนักเอาการในบ้านเรา อาจเห็นๆได้ตามพาดหัวข่าว เรื่องการทวงหนี้ที่อันตราย ใช้หลายวิธีในการข่มขู่แบบที่ไม่มีกฎหมายมารองรับ บางแห่งบุกถึงบ้าน บุกถึงที่ทำงาน เพื่อประจานและทำร้ายร่างกายเพื่อให้ชำระหนี้ ไม่ค่อยมีเคสไหนที่จบสวยสักราย. นี่ก็แค่ตัวอย่างที่เราเห็นชินตา หรือกระทบจากเหตุการณ์ทวงหนี้นอกระบบ ดังนั้น ถ้าเลือกได้ ก็ควรเลือกสินเชื่อส่วนบุคคลที่มาจากธนาคารหรือสถาบันการเงินที่หลากหลายจะดีกว่า บางแห่งก็เริ่มพิจารณาจากฐานเงินเดือนขั้นต่ำ เพียง 6,000 -12,000 บาทเอง จึงถือว่าดีกว่าและมีความปลอดภัยกว่าแบบเห็นๆค่ะ

จริงๆแล้ว สินเชื่อส่วนบุคคลตอบโจทย์ใครที่สุด!

จริงๆแล้ว สินเชื่อส่วนบุคคลตอบโจทย์ใครที่สุด!

ผู้กู้สินเชื่อส่วนบุคคล จะต้องมี ‘สติ’ และการวางแผน เรื่องการใช้ ‘สตางค์’ ให้ดีก่อนตัดสินใจไปกู้! เราต้องรู้ให้ได้ว่า ต้องการกู้เงินไปเพื่ออะไร เป็นโจทย์ทางการเงินที่ช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น และเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่เกิน 40% ของรายได้ เพราะนอกจากการกู้เพื่อผลประโยชน์ต่างๆ เช่น ซ่อมแซมบ้าน จ่ายค่าเทอมลูก หรือเอาไปปิดหนี้นอกระบบที่มีดอกเบี้ยแพงแสนแพง รายจ่ายของเราในแต่ละเดือนก็ยังจำเป็นต้องเก็บไว้เพื่อสิ่งอื่นๆ ในชีวิตด้วย

ดังนั้น หากคิดว่าเราอยากกู้สินเชื่อบุคคลแล้วล่ะ ถ้าเป็นกลุ่มพนักงานประจำที่มีรายได้ชัดเจน มีสลิปเงินเดือน เราก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินว่าเราสามารถรับผิดชอบภาระหนี้ได้ แต่ถ้าเป็นเจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบการ ก็จะต้องดำเนินธุรกิจให้มากกว่า 1 ปี มีรายรับสม่ำเสมอ กำลังวางแผนขยายกิจการ หรือได้รับวิกฤติมากระทบแต่มั่นใจว่าจ่ายดอกเบี้ยได้อยู่หมัด สินเชื่อส่วนบุคคลก็นับว่าตอบโจทย์ได้ดีที่สุดในตอนนี้

และถึงสินเชื่อส่วนบุคคลจะมีดอกเบี้ยเรียกเก็บที่สูงกว่าสินเชื่อแบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ในอัตราประมาณ 9% - 28% ต่อปี จนตกเป็นจำเลยว่ามีดอกเบี้ยแพงเกินไป ขั้นตอนเยอะ ไม่กู้หรอก! ขูดรีดกันชัดๆ! เราก็ควรต้องมองกันใหม่ เพราะแท้จริงแล้วสินเชื่อตัวนี้ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะต้องแบกรับความเสี่ยงที่สูง จึงเหมาะกับคนที่มีวินัยทางการเงิน และมีการวางแผนที่ดี เพื่อใช้เงินในส่วนนี้อย่างชาญฉลาด

สินเชื่อบุคคลทางออกหลักของหนี้นอกระบบที่เหมาะกับเรา!

สินเชื่อบุคคลทางออกหลักของหนี้นอกระบบที่เหมาะกับเรา!

สรุปแล้ว สินเชื่อส่วนบุคคลถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์สำหรับคนที่ต้องการใช้เงินสดเร่งด่วน หรือต้องการตอบโจทย์ด้านการเงินให้ตรงจุด เช่น เพื่อค่าเทอมลูก เพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาล หรือการต่อยอดทางธุรกิจ ไม่ใช่เพื่อการใช้จ่ายแบบฟุ่มเฟือย การกู้สินเชื่อส่วนบุคคลจึงถือเป็นเรื่องที่ดีมากกว่าการขอกู้แบบหนี้นอกระบบค่ะ เพราะสิ่งนั้นจะยิ่งตามมาด้วยปัญหาที่ไม่รู้จบค่ะ

การขอสินเชื่อส่วนบุคคลจึงเป็นตัวเลือกที่ทุกคนทำได้ โดยมองอยู่บนหลักความเป็นจริง และความเหมาะสมในการใช้เงินให้เกิดประโยชน์ที่สุด คำนวณภาระค่าใช้จ่ายที่ดี ตรวจสอบให้ดีว่าตัวเราเป็นผู้กู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินต้องการ สำรวจเงื่อนไขในแต่ละทีให้ดีจะได้ไม่เสียเวลา และที่สำคัญคือเรื่อง อัตราดอกเบี้ยในแต่ละระยะเวลาในการผ่อนชำระ ที่วางแผนให้ผ่อนได้แบบสบายตัว ดังนั้น สินเชื่อส่วนบุคคลจึงเป็นตัวเลือกที่ดี ยิ่งหนีจากวงจรของหนี้นอกระบบได้ ชีวิตก็ไม่แขวนอยู่บนเส้นด้ายแล้วล่ะค่ะ!