การมีบ้านที่อยู่อาศัยเป็นของเราเองเป็นความฝันของใครหลายๆคนมาก เเต่การที่จะเอาเงินจากกระเป๋ามาซื้อหรือสร้างบ้านดีๆซักหลังในปัจจุบันในเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เพราะเนื่องจากในปัจจุบันราคาที่ดิน วัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้าง เเละยังมีพวกเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้งานเเละสำหรับตกเเต่งบ้านอีกมากมายซึ่งราคาของเเต่ละอย่างก็เเพงมากๆ มีน้อยคนมากที่จะมีโอกาศทุ่มลงไปด้วยเงินสด ซึ่งการขอสินเชื่อบ้านผ่านทางสถาบันการเงินที่เชื่อถือได้จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของการที่จะทำให้ความฝันของใครหลายๆคนเป็นจริงได้ เเต่เราต้องรู้พื้นฐานของการทำหรือกู้สินเชื่อบ้านก่อนซึ่งเข้าใจไม่ยาก ให้เรามาดูด้วยกันก่อนว่า “สินเชื่อบ้านคืออะไร?”
Bankrx/shutterstock.com
สินเชื่อบ้านคืออะไร?
สินเชื่อบ้านก็คือ “การกู้เงินให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินออกเงินค่าซื้อหรือสร้างบ้านให้กับเราไปก่อน” ซึ่งบ้านในที่นี้รวมถึง คอนโด อาคารพาณิชย์ ทาวโฮม และทาวเฮาท์ด้วย โดยผู้ซื้อบ้านหรือผู้ที่สร้างบ้านต้องใช้บ้านหรือที่อยู่อาศัยดังกล่าวมาเป็นสิ่งค้ำประกันการจำนองเงินกู้กับทางธนาคารหรือสถาบันการเงินนั้นๆ เพื่อทำให้เเน่ใจว่าหากเราไม่ทำการผ่อนชำระหรือไม่เป็นไปตามข้อตกลงทางธนาคารหรือสถาบันการเงินก็ยังมีหลักประกันดังกล่าวเป็นสินทรัพย์อยู่
การปล่อยเงินกู้สินเชื่อบ้านนั้น ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินจะพิจารณาหลักทรัพย์ของเราว่ามีมูลค่าสมดุลกับจำนวนเงินที่ต้องการกู้หรือไม่ รวมถึงการพิจารณาตัวของผู้ซื้อบ้านหรือต้องการสร้างบ้านด้วยว่า มีเครดิตการเงินที่น่าเชื่อถือหรือไม่ เมื่อคุณได้รับอนุมัติให้ผ่านการพิจารณา ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินจะอนุมัติสินเชื่อ จากนั้น เราก็เเค่ผ่อนชำระคืนตามเวลาเเละดอกเบี้ยที่เขียนไว้ในสัญญา
นอกจากนั้นในกรณีนี้คุณมีบ้านหรือมีสินเชื่อบ้านอยู่แล้ว คุณยังสามารถไถ่ถอนสินเชื่อที่มีอยู่กับธนาคารหรือสถาบันการเงินเดิม มาขอสินเชื่อใหม่กับธนาคารหรือสถาบันการเงินใหมได้ ซึ่งเราเรียกการทำแบบนี้เรียกว่า “รีไฟแนนซ์บ้าน”
เเละถ้าหากคุณสนใจจะทำการกู้สินเชื่อบ้านและที่อยู่อาศัย ยังมีอีกอย่างที่คุณต้องรู้เเละต้องทำก็คือ “การคิดอัตตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน” การคิดอัตตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านต้องทำยังไงไปดูเลย
การคิดอัตตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน
ดอกเบี้ยเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องรู้ก่อนขอสินเชื่อบ้าน หากเราได้รับการอนุมัติจากธนาคารหรือสถาบันการเงินเรียบร้อยเเล้วก็จะมีการจ่ายชำระเงินตามที่ระบุไว้ในสัญญาเมื่อผ่อนชำระคืนไปเรื่อย ๆ เงินต้นจะลดลงไปตามอัตราที่กำหนดหลังหักดอกเบี้ย เเละทางธนาคารและสถาบันการเงินจะคิดดอกเบี้ยโดยเอาจำนวนเงินต้นดังกล่าวตั้งต้น เป็นเรื่องที่ยุ่งยากและซับซ้อนพอสมควรกับการคิดคำนวณตัวเลขเหล่านี้ แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นที่เราต้องรู้ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของเงินกู้สินเชื่อบ้านแบ่งออกเป็นประเภทดังนี้ เงินกู้อัตตราดอกเบี้ยลอยตัว หมายถึง ดอกเบี้ยที่ต้องชำระคงที่ในช่วงแรก ๆ เท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปดอกเบี้ยจะปรับขึ้นลงตามสถานการณ์ตลาดการเงิน สถาบันการเงิน ต้นทุนทางการเงิน โดยเป็นไปตามประกาศของธนาคารและสถาบันการเงิน ซึ่งการปรับเปลี่ยนนั้นไม่สามารถกำหนดรู้ได้ว่าปีไหนจะปรับเท่าไร บางปีอาจปรับสูง หรือบางปีอาจไม่ปรับเลยก็มี
เงินกู้อัตราดอกเบี้ยคงที่ ซึ่งเเบ่งออกเป็น 3 ชนิด ดังนี้
อัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลากู้ หมายถึง ดอกเบี้ยที่ต้องชำระที่เป็นไปตามประกาศครั้งแรกเสมอ จะไม่ปรับขึ้นปรับลงตามสถานการณ์ตลาดการเงิน สถาบันการเงิน ต้นทุนทางการเงิน
อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นในช่วงแรก หมายถึง ดอกเบี้ยที่ต้องชำระที่ในช่วง 1-5 ปีแรกก็จะยังคงที่ แต่หลังจากนั้นก็จะถูกปรับเปลี่ยนเป็นแบบอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ซึ่งก็คือจะปรับขึ้นลงตามสถานการณ์ตลาดการเงิน สถาบันการเงิน ต้นทุนทางการเงิน ซึ่งอาจจะเสียสูงหรือต่ำกว่าเดิมก็ได้
อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นแบบขั้นบันได หมายถึง จะทำการปรับขึ้นเป็นรอบปี เช่น ปีแรก 2.25 ปีสอง 3.25 ปีสาม 4.25 เป็นต้น หลังจากนั้นก็จะถูกปรับเป็นแบบอัตราดอกเบี้ยลอยตัว
เงินกู้อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะหนึ่งและปรับคงที่ใหม่ทุกรอบเวลา หมายถึง ดอกเบี้ยที่จะคงที่ที่ระยะหนึ่ง และเริ่มปรับใหม่ให้คงที่โดยคิดเป็นรอบเวลา เช่น ทุก ๆ 3 ปี หรือ 5 ปี เป็นต้น ความรวดเร็วและการพิจารณาอนุมัตินั้นเริ่มต้นตั้งแต่การยื่นเอกสารที่ถูกต้องและครบถ้วน ซึ่งการเตรียมเอกสารขอสินเชื่อฯ นั้นไม่ยุ่งยากเกินไปเราจึงอยากชวนมาเตรียมเอกสารขอสินเชื่อบ้าน ไปพร้อมๆ กันเลยครับ
เอกสารที่ต้องใช้สำหรับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ
เอกสารประจำตัว
-บัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรประจำตัวข้าราชการ -ทะเบียนบ้าน -กรณีที่เปลี่ยนชื่อ หรือเปลี่ยนนามสกุล ให้เตรียมใบจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อและนามสกุล -กรณีสมรส ทะเบียนสมรส -กรณีหย่ากรณีหย่า ทะเบียนหย่า -กรณีคู่สมรสเสียชีวิต มรณะบัตรของคู่สมรส -กรณีแยกกันอยู่กับคู่สมรส ใบแจ้งความแยกกันอยู่
เอกสารแสดงความสามารถทางการเงิน
สำหรับลูกจ้างที่มีเงินเดือน -หนังสือรับรองเงินเดือน ฉบับจริง -เพย์เมนต์สลิปเงินเดือน หรือใบแจ้งการจ่ายค่าจ้างจากหน่วยงานย้อนหลัง 3 เดือน -สำเนาบัญชีธนาคารที่เงินเดือนเข้าล่าสุดย้อนหลัง 6 เดือน พร้อมทั้งปกหน้าที่แสดงชื่อผู้กู้และผู้ร่วมกู้ (ถ้ามี)
สำหรับเจ้าของกิจการ -สำเนาหนังสือจดทะเบียนบริษัท หรือห้างหุ้นส่วน -สมุดบัญชีแสดงการเดินบัญชีย้อนหลัง 12 เดือน ทั้งบัญชีส่วนตัวและบัญชีกิจการ -สำเนาบัญชีธนาคารที่ใช้ในกิจการของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน ทั้งในนามส่วนบุคคล ล่าสุดย้อนหลัง 6 เดือน
เอกสารแสดงรายละเอียดหลักทรัพย์ -วงเงินสินเชื่อที่สมัครและได้รับการอนุมัติจากธนาคาร จะต้องมีวงเงินไม่น้อยกว่า 500,000.- บาท และไม่เกินกว่า 50,000,000.-บาท -แผนที่ตั้งโดยสังเขปของอสังหาริมทรัพย์ -รูปถ่ายของอสังหาริมทรัพย์ -สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย และสัญญามัดจำ หรือหลักฐานการชำระเงินดาวน์ -สำเนาหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้าง เช่น สัญญาซื้อขายที่ดิน (ทด. 13) ใบอนุญาตปลูกสร้างบ้านเป็นต้น ให้เรามาดูสิ่งที่ต้องทำกันอีก 1 อย่างนั่นก็คือ “การหาข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อช่วยในการตัดสินใจ”
การหาข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อช่วยในการตัดสินใจ
การขอสินเชื่อบ้านหรือการกู้เงินมากขนาดนี้ต้องใช้ความรอบคอบมากในการต้องสินใจเพื่อที่จะไม่มีปัญญาเกิดขึ้น เราจึงต้องหาข้อมูลเพื่อนำมาตัดสินใจเช่น จำนวนเงินที่ต้องการกู้ , การผ่อนชำระในแต่ละงวดมีมากเท่าใด , อัตราดอกเบี้ยเป็นประเภทใด กู้ธนาคารไหนดี เป็นต้น
เมื่อรู้พื้นฐานของการทำหรือกู้สินเชื่อบ้านก็ลุยเลยแค่นี้ฝันของการอยากมีบ้านของเราเองก็อยู่ไม่ไกล
น้ำฝน
สินเชื่อบ้านเป็นอีกอย่างหนึ่งที่เราจำเป็นต้องมีความรู้เอาไว้ เพราะว่าเมื่อเราโตขึ้นเราอยากจะมีบ้านของเราเองเราก็ต้องเลือกใช้บริการของสินเชื่อบ้าน เพื่อจะช่วยเรามีที่อยู่ที่อาศัยตามที่เราชอบ ได้ทำการผ่อนชำระไปยาวๆมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกด้วย บทความนี้ช่วยให้ฉันรู้ว่า จำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานอะไรเอาไว้ก่อนก่อนที่จะขอสินเชื่อบ้าน
"Kiwi"
ใครอยากขอสินเชือบ้านมารวมกันตรงนี้เลยค่ะ เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมแล้วอ่านบทความอย่างละเอียดเลยนะ จะได้รู้ว่าการขอสินเชื่อบ้านไม่ควรตัดสินใจแบบรวดเร็วแบบว่าอยากมีบ้านแล้วน่ะขอสินเชื่อแล้วไปซื้อเลยละกัน..ไม่ได้นะคะ ต้องตรวจสอบหลายอย่างโดยเฉพาะตัวเราเองนี่ละ จะเลือกการจ่ายดอกเบี้ยแบบไหนและจะสามารถจ่ายไหวมั้ย?
ไตรภพ
อ้าว สินเชื่อบ้านแบบดอกเบี้ยไม่ได้เป็นแบบที่ผมคิดเหรอครับ ที่ว่า ผ่านไป 20-30 ปี ดอกเบี้ยมันจะคงที่เท่าเดิมตลอด ไหง สินเชื่อแบบดอกเบี้ยคงที่ เขาให้เราแค่ สองหรือสามปีแรกเท่านั้นละ แล้วยังไปเสียดอกเบี้ยแบบลอยตัวอีก แบบนี้คือยังไงครับ ใครก็ได้ครับ ช่วยอะธิบายเพิ่มเติมให้เข้าใจที่ครับ ว่ามันยังไงครับงงครับ
แจ๋ว
อยากขอสินเชื่อบ้านอยู่เหมือนกันค่ะ แต่ไม่รีบร้อน เพราะตามที่เข้าใจเลยตรงกับบทความนี้บอกเลยเป็นสินเชื่อระยะยาวมาก ต้องกายพร้อมใจพร้อมจริงๆไม่งั้นไปต่อยาก แจ๋วว่าแจ๋วรอให้การงานของตัวเองมั่นคงกว่านี้ก่อนดีกว่าค่ะค่อยขอสินเชื่อบ้านก็น่าจะยังไม่สายเกินไปนะคะ เพราะยิ่งอ่านเรื่องนี้ยิ่งทำให้แจ๋วหยุดความคิดเลย หยุดโดยไม่มีอะไรกั้นค่ะ 555
แก้วตา
อยากแชร์สินเชื่อบ้านที่ดอกเบี้ยถูกๆให้เพื่อนๆได้รู้กันนะคะ มีสินเชื่อของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) "สินเชื่อวิมานเมฆ" ค่ะ ดอกเบี้ยต่ำสุดที่ 0.66% ใน 6 เดือนแรก และอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกแค่ 2.77% ต่อปีเท่านั้นเอง ถ้าเพื่อนๆคนไหนสนใจลองไปสอบถามกับทางธนาคารดูนะคะ ที่เราไปเช็คมาน่าจะธนาคารนี้ถูกสุดแล้วค่ะ
พร
ตอนนี้ก็กำลังดูอยู่ค่ะว่าจะไปขอสินเชื่อบ้านกับธนาคารที่ไหนดี? อยากรู้ว่าธนาคารที่ไหนอนุมัติสินเชื่อบ้านง่ายบ้างคะ เพราะสินเชื่อบ้านเนี่ยได้ยินหลายคนบอกว่าเป็นสินเชื่อทุกที่ขอยากที่สุดเลย เพราะจำนวนเงินมันเยอะ เราอยากได้บ้านเดี่ยว 2 ชั้นดูฐานเงินเดือนแล้วก็พอ ตอนนี้ก็กำลังเตรียมเอกสารแต่อยากรู้ว่าธนาคารไหนที่ขอสินเชื่อบ้านได้ง่ายที่สุดคะ? แบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ด้วยนะ
บาส
เมื่อจะขออนุมัติในการกู้ซื้อบ้าน เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับอัตราดอกเบี้ยก่อนนะคะ เพราะอัตราดอกเบี้ยบางคนก็จะสม่ำเสมอกันตลอดจนผ่อนหมด แต่บางคนก็เลือกอัตราดอกเบี้ยในตอนแรกสม่ำเสมอกัน หลังจากนั้นผ่านไปจะมีสักระยะหนึ่งที่เปลี่ยนเป็นดอกเบี้ยลอยตัว ซึ่งจะเปลี่ยนไปตามสภาพค่าเงินของประเทศ อาจจะดอกเบี้ยมากขึ้นหรือน้อยลงก็ได้
นันท์ทัต
ตอนนี้อ่านเอาความรู้กันไปก่อนนะครับ เพื่อนๆของผมหลายคน บอกว่าช่วงนี้สินเชื่อแบบนี้ค่อนข้างขอยากในช่วงปีนี้ครับ ขนาดเพื่อนทำงานโรงแรม ได้เงินเดือนดีๆ ยังไม่ผ่านเลยครับ เหตุผลที่ไม่ผ่าน เพราะเงินเดือนช่วงสองเดือนก่อนไปขอสินเชื่อ ลดลง ธนาคารเขาเลยชะลอการขอสินเชื่อบ้านไปก่อน แถมเพื่อนยังบอกอีกครับว่าเชคละเอียดมากกว่าเดิมหลายเท่าเลยครับ
X-ray
@พร ช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ยังอยากจะขอสินเชื่อซื้อบ้านอยู่หรอครับ ผมว่าคิดให้ดีๆก่อนนะ บ้านเป็นทรัพย์สินที่ใหญ่และมีราคาสูงมาก ถึงแม้ว่าปกติแล้วคนส่วนใหญ่ ประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ของคนที่จะซื้อบ้าน กู้เงินกับธนาคารหรือขอสินเชื่อเพื่อมาซื้อบ้าน แต่ก็มีเปอร์เซ็นต์เยอะเหมือนกันที่หลายคนบ้านถูกยึด ผ่อนธนาคารไม่ไหว ดังนั้นก่อนซื้อถึงต้องวางแผนให้ดีก่อน
Ka_toon
@"kiwi" เห็นด้วยครับ หลายคนไม่ค่อยหาความรู้เรื่องการเงินนะ เหมือนบ้านผมตอนนี้พ่อก็ขอสินเชื่อกู้เงินมาซื้อเหมือนกัน แต่พ่อผมก็ไม่เคยหาข้อมูลเรื่องนี้มาก่อน ถ้าผมอ่านบทความนี้แล้วเอาไปให้พ่ออ่านก็ถามว่าพ่อเคยหาข้อมูลเรื่องพวกนี้ไหมก่อนขอสินเชื่อบ้าน ตอบแบบไม่ต้องคิดเลยครับว่าไม่เคยรู้ไม่เคยรู้มาก่อน ก็ว่าทำไมบางเดือนมีปัญหาเรื่องผ่อนบ้าน