เมื่อคุณเริ่มมีรายได้จากการทำงาน หรือ เงินเดือน ก็มักจะมีพฤติกรรมการใช้เงินโดยมีแนวความคิดว่า ได้เงินมาก็ต้องใช้ไป เพราะทำงานหาเงินมาได้ก็ต้องใช้กันหน่อยให้คุ้มกับแรงกายแรงใจที่เหนื่อยทำงานมาทั้งเดือน แต่แนวความคิดแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่การมีแนวความคิดแบบนี้ในการใช้จ่ายเงินอย่างเดียวไม่ดีแน่ๆ คุณต้องมีแนวความคิดในการเก็บเงินเช่นคำว่า มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท ดังนั้นคุณต้องคิดที่จะออมเงินด้วยแม้ว่าจะออมเงินได้ทีละเล็กทีละน้อยก็ตามดีกว่าไม่คิดจะออมเงินเลย เพราะการใช้จ่ายเงินไปแบบไม่คิดจะสร้างความไม่มั่นคงทางการเงินและสร้างความเดือดร้อนทางการเงินให้คุณได้ในอนาคตและปัจจุบันค่ะ

การออมเงินนั้นจะส่งผลดีมากมายให้กับคุณ และคนในครอบครัว แต่การไม่ออมเงินจะส่งผลเสียอะไรบ้าง บทความนี้จะมาบอก 4 ภาวะเสี่ยงที่คุณต้องระวังและต้องเผชิญถ้าคุณไม่มีเงินออมไว้เลยมาให้ได้อ่านกันค่ะ และคุณก็จะไม่สามารถออมเงินได้เลยถ้าคุณไม่ปรับเปลี่ยนการใช้จ่ายให้ประหยัดมากขึ้น ทั้งสองอย่างนี้คือ การประหยัดเงิน และการออมเงินจึงเป็นของคู่กัน เพราะถ้าไม่ประหยัดเงินก็จะไม่มีเงินเหลือให้ออมเงินนั่นเอง เพื่อคุณจะมีแรงกระตุ้นและเห็นความสำคัญของการออมเงินมากยิ่งขึ้น ก็มาดูความเสี่ยงที่คุณต้องเจอกันถ้าคุณไม่มีเงินออมติดตัวเลย

ถ้าไม่มีเงินเก็บจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง คุณจะมีภาวะเสี่ยงทางการเงินที่จะส่งผลในระยะยาวต่อชีวิตคุณ เช่น ขาดสภาพคล่องทางการเงิน, ไม่มีเงินสำรองยามเจ็บป่วย, มีการค้างชำระหนี้และเริ่มมีหนี้สิน, ไม่มีเงินก่อร่างสร้างตัวและเงินต่อยอดสำหรับอนาคต มาพิจารณาไปทีละเรื่องกันค่ะ

ภาวะความเสี่ยงที่ 1 ขาดสภาพคล่องทางการเงิน

ภาวะความเสี่ยงที่ 1 ขาดสภาพคล่องทางการเงิน

เมื่อคุณมองดูเงินของคุณแล้วพบว่าไม่มีเงินเก็บอยู่บ้างเลย แสดงว่าคุณไม่มีการวางแผนในการใช้จ่ายเงินเลย หรือใช้จ่ายแบบไม่ระวังเลยจึงทำให้คุณไม่เงินเหลือเพื่อมาเก็บ การมีนิสัยแบบนี้ในตอนแรกๆนั้นคุณอาจจะไม่พบว่ามีผลเสียอะไรบ้างต่อตัวคุณ แต่ผลเสีย และ ผลกระทบจากการมีนิสัยทางการเงินแบบนี้จะส่งผลต่อคุณในระยะยาว หรือเมื่อเวลาผ่านไปสักพักถ้าคุณมีนิสัยการใช้จ่ายที่ไม่ประหยัดและไม่มีการเก็บเงินออมไว้แบบนี้คุณจะประสบกับภาวะทางการที่ไม่คล่องตัว หรือ การขาดสภาพคล่องทางการเงิน นั่นเอง สภาพคล่องทางการ คือ การที่คุณมีเงินเพียงพอเพื่อใช้จ่ายสิ่งจำเป็น และเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินอะไรเข้ามาคุณก็มีเงินเพื่อจัดการเรื่องเหล่านั้นได้ แต่กลับกันถ้าคุณไม่มีเงินออม คุณไม่มีสภาพคล่องทางการเงินคุณก็จะไม่มีเงินเพียงพอใช้จ่ายสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน และเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินอะไรก็ไม่สามารถจัดการได้ง่ายๆ เพราะคุณไม่มีเงินสำรองที่เก็บออมไว้เลย ดังนั้นเพื่อจะรักษาสภาพคล่องทางการเงินให้อยู่ในชีวิตคุณได้นั้นต้องเปลี่ยนิสัยทางการเงินให้ดีขึ้น โดยมีการใช้จ่ายที่มีการวางแผน มีการวางแผนสำหรับการออมเงิน จริงอยู่ที่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะทำแต่ขอให้คุณพยายามทำให้ได้เพื่อจะได้ไม่เดือนร้อนเรื่องเงินขาดสภาพคล่องหรืออยู่ในภาวะเสี่ยงแบบนี้ค่ะ

ภาวะความเสี่ยงที่ 2 ไม่มีเงินสำรองยามเจ็บป่วย

ภาวะความเสี่ยงที่ 2 ไม่มีเงินสำรองยามเจ็บป่วย

เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่เข้าใครออกใคร เพราะชีวิตไม่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นชีวิตคุณ หรือ พ่อแม่ ลูกๆหลานๆ คนในครอบครัวคนอื่นๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์เจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุขึ้นมาก็จำเป็นต้องใช้เงินกันทั้งนั้น การที่คุณไม่มีเงินออมทำให้คุณเดือดร้อนในสภาพเหตุการณ์แบบนี้ได้เพราะคุณไม่มีเงินสำหรับจัดการเรื่องนี้อาจจะต้องไปกู้ยืมเงินมาเพื่อจัดการค่ารักษาพยาบาลที่ทุกวันนี้ก็ไม่ใช่ถูกๆ การไม่มีเงินออมก็ทำให้คุณมีความเสี่ยงในการเป็นหนี้ได้ง่ายๆ ดังนั้นการออมเงินจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะช่วยให้คุณพ้นจากภาวะความเสี่ยงในการเป็นหนี้และสามารถมีเงินจัดการค่ารักษายามเจ็บป่วยสำหรับตัวคุณเอง และครอบครัวได้ด้วย การที่คุณเจ็บป่วย หรือคนในครอบครัวเจ็บป่วยก็สร้างความกังวลให้มากอยู่แล้ว ถ้ายังบวกการไม่มีเงินเข้าไปอีกก็ยิ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพเข้าไปใหญ่ เพราะแน่นอนว่าคุณจะต้องมีความกังวลความเครียดแน่ๆ ดังนั้นเมื่อเก็บเงินควรแบ่งเงินเก็บส่วนนี้เอาไว้ด้วยโดยเฉพาะนะคะ คือ เงินออมส่วนที่จะนำมาเป็น เงินสำรองยามเจ็บป่วย

ภาวะความเสี่ยงที่ 3 มีการค้างชำระหนี้และเริ่มมีหนี้สิน

ภาวะความเสี่ยงที่ 3 มีการค้างชำระหนี้และเริ่มมีหนี้สิน

ก็สืบเนื่องมาจากการที่คุณไม่มีเงินออม ทำให้เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน หรือ เมื่อคุณคิดจะซื้อของที่มีราคาแพงคุณก็ไม่มีเงินมากพอจะจัดการเรื่องเหล่านั้น ก็ทำให้คุณเป็นหนี้ได้ง่ายๆ  เช่น การไปกู้ยืมเงินมาเพื่อค่ารักษาพยาบาล การไปกู้ยืมเงินมาเพื่อซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือการสมัครบัตรเครดิตเพื่อมาใช้จ่ายซื้อของโดยใช้เงินล่วงหน้าในบัตรเครดิตก่อน แต่ผลเสียที่จะตามมาก็คือ การที่คุณมีนิสัยทางการเงินที่ไม่ดีจนไม่มีเงินออมเลย เมื่อคุณเป็นหนี้แล้วก็จะยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เพราะเมื่อถึงเวลาชำระหนี้สินเหล่านี้ก็ยากที่คุณจะชำระได้ตามกำหนดเพราะคุณไม่มีการวางแผนการใช้เงิน และไม่มีการวางแผนการออมเงินเพื่อค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนมาก่อน ดังนั้นเมื่อคุณไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดก็จะยิ่งทำให้นี้ก้อนเล็กๆกลายเป็นหนี้ก้อนโตยิ่งได้ง่ายๆ โดยเฉพาะคนที่มีบัตรเครดิต ถ้าไม่มีนิสัยที่ดีทางการเงินจริงๆและไม่สามารถชำระบิลบัตรเครดิตทุกเดือนตามกำหนดและเต็มวงเงินได้นั้น ก็แย่มากเลย เตรียมตัวเป็นหนี้หัวโตได้เลยค่ะ และกว่าจะชำระหนี้หมดได้นั้นก็คงกินเวลานานหลายปี จนคุณต้องตรากตรำทำงานเพื่อใช้หนี้จนหมดแรงแน่ๆ ดังนั้นการเริ่มต้นเก็บออมก็ดีกว่า และไม่ใช้จ่ายเกินตัวเกินรายได้ที่คุณได้รับมา ถึงแม้จะอยากซื้อบ้าน ซื้อรถ ก็ควรเก็บเงินให้ได้มากพอสมควรเพื่อซื้อดีกว่า ถึงแม้จะต้องมีการขอสินเชื่อบ้างแต่การมีเงินที่จะซื้ออยู้บ้างแล้วก็ดีกว่าใช้เงินกู้เพื่อซื้อบ้าน ซื้อรถทั้งหมด เพราะจะทำให้หนี้ของคุณเป็นหนี้ก้อนโตตั้งแต่เริ่มต้นเลยค่ะ การเป็นหนี้แบบไม่สามารถชำระได้นี้ก็ส่งผลเสียในระยะยาวในการทำธุกรรมทางการเงินต่างๆด้วยเพราะคุณเองจะมีเครดิตที่ไม่ดีติดตัวไปตลอดค่ะถ้ายังคงมีหน้ค้างชำระอยู่

ภาวะความเสี่ยงที่ 4 ไม่มีเงินก่อร่างสร้างตัวและเงินต่อยอดสำหรับอนาคต

ภาวะความเสี่ยงที่ 4 ไม่มีเงินก่อร่างสร้างตัวและเงินต่อยอดสำหรับอนาคต

ชีวิตการเงินของคุณนั้นจะไม่ง่ายเลยนะคะถ้าคุณไม่มีเงินที่จะทำอะไรๆก็ตามอย่างเช่น การลงทุนทำธุรกิจ ถ้าคุณคิดอยากจะมีธุรกิจส่วนตัว หรือลงทุนร่วมธุรกิจกับใครก็ตามเพื่อจะมีอนาคตการเงินที่มั่นคงเพราะไม่มีใครสามารถทำงานไปได้ตลอดชีวิต  การที่คุณไม่มีเงินออมจะทำให้คุณไม่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้และอนาคตการเงินของคุณเมื่ออายุมากแล้วจะไม่มีความมั่นคงอยู่เลย ถ้าคุณไม่เริ่มต้นวางแผนออมเงินตั้งแต่ตอนนี้ หรือให้เร็วที่สุดคุณก็จะเสี่ยงอยู่ในภาวะ ไม่มีเงินก่อร่างสร้างตัว และ เงินต่อยอดสำหรับอนาคต ส่งผลให้เมื่อคุณอายุมากแล้วก็จะไม่ได้พักผ่อนแต่ยังต้องทำงานต่อไป หรือที่เรียกว่า คนหาเช้ากินค่ำ คือสำนวนนี้ใช้กับคนที่ทำมาหากินได้เงินมาวันนั้นก็ใช้หมดวันนั้นไม่มีเหลือเก็บ หรือพูดถึงคนที่มีรายได้น้อยไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย แต่บทความนี้จะช่วยเปลี่ยนแนวความคิดของคุณเพราะไม่ว่าคุณจะมีรายได้น้อยแค่ไหนก็ตามถ้าคุณประหยัดใช้เงินแบบพอดีไม่เกินตัวยังไงก็เหลือ และที่สำคัญต้องมีการแบ่งเงินมาเก็บด้วยถ้าทำอย่างนี้คุณจะหลุดพ้นจากการเป็นคนหาเช้ากินค่ำแน่ๆ และการออมเงินก็สามารถทำให้คุณสร้างความสุขในการใช้เงินของคุณที่หามาได้ในระยะยาวไม่ใช่ระยะสั้น แต่การหาเงินมาแล้วรีบใช้ไม่เก็บนั้นเป็นการใช้เงินเพื่อความสุขระยะสั้น แล้วที่เหลืออาจจะเป็นความทุกข์เข้ามาแทนค่ะ ขอให้คิดให้มากๆมองไปที่อนาคตตอนแก่ตอนที่คุณทำงานไม่ได้ ไอเจ้าเงินเก็บนี่แหละที่จะประทังชีวิตของคุณในช่วงนั้น มาเริ่มเก็บออมเงินกันได้แล้วค่ะจะได้ไม่ลำบาก

สรุป

สรุป

คุณคงจะเห็นแล้วว่าการออมเงินนั้นสำคัญเพียงใด การออมเงินนั้นส่งผลดีอย่างไรบ้างต่อชีวิการเงินของคุณ และ การไม่มีเงินออมนั้นส่งผลเสียต่อชีวิตคุณอย่างไรบ้าง แม้จะไม่ได้ก่อความเสียหายในทันทีแต่จะเป็นความเสียหายที่เพิ่มมาทีละนิดทีละหน่อย และทำให้ขีวิตของคุณนั้นยืนอยู่บนความเสี่ยง 4 อย่างที่นำมาบอกกันไปแล้ว ดังนั้นอย่ารีรอให้ชีวิตต้องถึงวันที่ลำบากแล้วค่อยมาจัดการวางแผนการใช้เงินและออมเงินเลยนะคะ เพราะมันอาจจะไม่ทันการก็ได้ ให้เริ่มต้นวางแผนประหยัดเงิน และเก็บออมตั้งแต่ตอนที่คุณยังไม่ลำบากจะดีกว่าเพื่อจะได้ทันการและเตรียมพร้อมรับมือได้กับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่จะเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว และการหันมาสนใจการออมเงินยังส่งผลดรต่อชีวิตคุณตั้งแต่เริ่มออมเงินตอนนี้เลยด้วยซ้ำ อย่างที่บอกไปตอนเริ่มต้นก่จำเป็นต้องเก็บออมมากๆ แต่เก็บออมเท่าที่ทำได้ไม่ยากเกินไปและไม่กดดันตัวเองมากเกินไปนั้นดีกว่าเพื่อที่คุณจะได้ไม่ท้อแท้และสามารถออมเงินได้สำเร็จ และที่สำคัญการเริ่มออมเงินไปช้าๆก็จะช่วยให้การดำเนินชีวิตแต่ละวันไม่มีปัญหาจนเกินไป คุณเองก็จะปรับตัวไม่ยาก แต่ถ้าคุณมีนิสัยที่ดีในการออมเงินแล้วก็สามารถเริ่มเก็บออมให้มากขึ้นก็ได้เพื่อผลลัพท์ที่ดีกว่าและเร็วกว่าค่ะ

สรุปให้เห็นเลยว่าการไม่มีเงินออมนั้นชีวิตคุณจะเสี่ยงจาก 4 ภาวะนี้ แต่ถ้าคุณมีเงินออมชีวิตของคุณจะไม่มีความเสี่ยงและยังทำการเงินของคุณมั่นคงไปจนถึงอนาคตตอนอายุมากด้วยค่ะ สรุปตรงนนี้ก็จะนำแนวทางการออมเงินง่ายๆวัยประถมมาฝากด้วยแต่ได้ผลจริง คือ ฝากเงินในบัญชีธนาคาร และ หยอดเงินในกระปุกออมสิน เชื่อว่าหลายคนก็เคยทำแต่ขอให้คุณทำมันอย่างจริงจังมากขึ้น เพราะยิ่งเราโตขึ้นเราก็ต้องจริงจังมากขึ้นไม่ว่ากับเรื่องอะไรก็ตาม ดังนี่นชีวิตของคุณที่ดำเนินไปเรื่อยๆนั้นสิ่งจำเป็นี่ต้องมี คือ เงิน ถ้าคุณไม่ตัดการวางแผนอย่างดีการดำเนินชีวิตของคุณก็จะอญุ่บนพื้นที่ลื่นๆที่จะทำให้คุณล้มลงเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นคงอันตรายน่าดู การออมเงินและการมีเงินออมเพื่อใช้ยามจำเป็นก็จะเป็นเหมือนคุณยืนอยู่บนพื้นที่มั่นคงไม่ล้มลงง่ายๆ และยังสามารถก้าวไปข้างหน้าไปเร็วได้ไกลกว่าคนอื่นทางด้านการเงินด้วยค่ะ