‘ยิ่งเรารู้เรื่องการเงินมากขึ้นเท่าไหร่ เราก็ยิ่งบริหารการเงินได้เก่งเท่านั้น’ มนุษย์เงินเดือนอย่างเราจึงต้องวางแผนการใช้จ่ายผ่านสารพัดบัตรต่างๆ ให้ดีกว่าที่เคย หลายคนอาจมีบัตรเครดิตกันมาบ้างแล้ว เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ชีวิต แล้ว ‘บัตรกดเงินสด’ ล่ะ เคยมีไว้ในครอบครองกันบ้างหรือยัง เพราะแท้จริงแล้ว เจ้าบัตรกดเงินสด นี้ถ้าใช้จ่ายอย่างถูกที่ ถูกเวลา  ในคราวจำเป็นจริงๆแล้ว ก็สามารถช่วยชีวิตอยู่ถือบัตร ให้รอดผ่านวิกฤติในบางช่วงไปได้อย่างปลอดภัย ถ้าเราใช้บัตรนี้อย่างถูกต้อง มีวินัยในการใช้จ่าย และบริหารจัดการ บัตรนี้ก็กลายเป็นบัตรที่เหมาะกับเรื่องราวฉุกเฉินที่อาจผ่านเข้ามาหาเราบางคราว ด้วยจำนวนเงินขั้นต่ำในการสมัครที่ต่ำกว่าบัตรเครดิตมาก จึงอาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครหลายคน บทความนี้ จึงอยากจะชวนเราได้รู้จักพร้อมๆกัน ถึงบัตรกดเงินสดว่าคืออะไร มีประโยชน์ต่อมนุษย์เงินเดือนอย่างไร รวมถึงข้อควรระวังที่เราไม่ควรมองข้าม พร้อมเกร็ดเคล็ดลับดีๆ ในการใช้ เพื่อลดดอกเบี้ย และห่างไกลหนี้ได้ ไปดูกันเลย

บัตรกดเงินสดคืออะไร

บัตรกดเงินสดคืออะไร

บัตรกดเงินสด ก็คือ วงเงินของสินเชื่อหมุนเวียนประเภทหนึ่ง ที่ลูกค้าจะสามารถกดเงินสดไปได้เลย จากตู้เอทีเอ็ม หรือรูดจ่ายตามวงเงินที่ได้รับการอนุมัติไว้ ทั้งค่าบริการและการสั่งซื้อสินค้าแบบออนไลน์ รวมทั้งใช้เพื่อการผ่อนสินค้าด้วย โดยดอกเบี้ยก็จะถูกคิด ตามจำนวนวันที่ใช้ และจำนวนเงินที่กดตามจริง อาจเป็นแบบดอกเบี้ยลดต้นลดดอก หรือดอกเบี้ยรายวัน และโดยปกติแล้วจะไม่มีค่าธรรมเนียมในการกดเงิน ซึ่งเมื่อลูกค้าได้ชำระเงินนั้นกลับคืนมาตามวงเงินต้น ก็จะสามารถกดเพื่อใช้จ่ายได้ใหม่อีกครั้งตามต้องการ

โดยมักนิยมใช้งานเพื่อ กดเงินสด และผ่อนในการซื้อสินค้า หากไม่มีการใช้งาน ก็ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการรักษาสถานภาพของบัตร  เบิกถอนเงินสดที่ได้รับการอนุมัติได้แบบไม่ต้องมียอดเงินคงเหลือในบัญชี หรือสินทรัพย์ค้ำประกัน ถือเป็นจุดเด่นที่สร้างความแตกต่างจากบัตรรูปแบบอื่นๆ รูปแบบการชำระคืนก็เลือกได้ ทังแบบชำระคืนเป็นรายเดือน การชำระแบบขั้นต่ำ หรือแบบดอกเบี้ยลดต้นลดดอก ถือเป็นทางเลือกดีๆ หากมีความจำเป็นฉุกเฉินของมมุษย์เงินเดือน ที่ไม่ต้องไปเสี่ยงหาแหล่งเงินกู้นอกระบบ

และบัตรกดเงินสดแบบนี้ ยังสามารถใช้วงเงินที่เหลือในบัตรเปลี่ยนเป็นเงินสดโอนเข้าบัญชีเราก็ยังได้ หรือใช้ในการผ่อนสินค้า 0% ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ โดยไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าในทุกธนาคาร และฟรีค่าธรรมเนียมตลอดชีพกันไปเลย เป็นเหมือนสินเชื่องเงินสดโทรสั่งได้ พร้อมโปรโมชั่นดีๆ สมัครง่าย อนุมัติเร็ว ให้วงเงินสูงสุดถึง 5 เท่าแต่ไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงกว่าบัตรเครดิตทั่วไปด้วย

บัตรกดเงินสดมีประโยชน์ต่อมนุษย์เงินเดือนอย่างไร

บัตรกดเงินสดมีประโยชน์ต่อมนุษย์เงินเดือนอย่างไร

สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนในทุกๆเดือนอย่างเรา บัตรกดเงินสด หรือบัตรผ่อนสินค้าต่างๆ นับว่ามีประโยชน์มาก ทั้งเป็นแหล่งเงินสำรองยามฉุกเฉินที่ไว้ใจได้ เมื่อมีเหตุจำเป็น เช่น การรักษาพยาบาล ค่าซ่อมแซมเร่งด่วนอย่าง รถยนต์ บ้าน หรือแม้ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวันด้วย ถือว่าช่วยเสริมสภาพคล่องได้เป็นอย่างดี ในช่วงเวลาสั้นๆ อย่างก่อนเงินเดือนออก หรือช่วงสิ้นเดือน เป็นต้น เพราะเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลที่สมัครง่าย กดกี่ครั้ง ครั้งละเท่าไหร่ ก็ไม่เสียค่าธรรมเนียม

โดยบัตรกดเงินสดที่ว่านี้ ยังมีประโยชน์อีกในส่วนของการผ่อนชำระสินค้าแบบต่างๆ ที่เหมาะกับมนุษย์เงินเดือน เช่น สินค้าที่ร่วมรายการแบบไม่เสียดอกเบี้ย และเรายังได้ระยะเวลาในการผ่อนที่นานกว่าบัตรเครดิตทั่วไปอีกด้วย เช่น การผ่อนชำระแบบ 0% 12เดือน 24 เดือน หรือ 36 เดือน เป็นต้น และยังความสะดวกให้กับช่วงเวลาการชำระคืนแบบขั้นต่ำได้อีก ปกติแล้ว สถาบันการเงินจะกำหนดไว้ประมาณ 3 - 5% จึงช่วยเราในเรื่องความยืดหยุ่น ไม่ต้องชำระทีเดียวคืนแบบทั้งก้อน จนกว่าจะพร้อมด้วย ออกแบบมาอย่างเข้าใจมนุษย์เงินเดือนแบบที่ใช้ได้จริง!

ข้อควรระวังในการใช้จ่ายผ่านบัตรกดเงินสดที่เราไม่ควรมองข้ามมัน

ข้อควรระวังในการใช้จ่ายผ่านบัตรกดเงินสดที่เราไม่ควรมองข้ามมัน

เมื่อมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย เราไม่ควรมองข้ามในเรื่องการใช้จ่ายผ่านบัตรกดเงินสดด้วย เช่นในกรณีสินค้าที่ต้องชำระแบบดอกเบี้ยสูง เพราะถึงแม้จะมีคิดเฉลี่ยเป็นรายวัน ก็ต้องใช้เฉพาะเมื่อมีเหตุฉุกเฉินจำเป็นจริงๆ เพราะมันไม่มีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยเหมือนอย่างบัตรเครดิต ดังนั้น ถ้าเราใช้จ่ายเพียงแค่วันเดียว ก็นับดอกเบี้ยตามจริงแล้วเหมือนกัน อีกส่วนนึง คือเรื่องการวางแผนเพื่อการชำระเงินต้นคืน เพราะเช่นเดียวกับบัตรเครดิต หากเราเลือกชำระยอดในแบบขั้นต่ำ ก็จะทำให้เสียดอกเบี้ยสูงกว่าด้วยเช่นกัน

และเนื่องจากบัตรกดเงินสด เวลาเราชำระเงินอาจจะต้อมีการเสียค่าธรรมเนียมที่จุดบริการหรือเคาร์เตอร์ของธนาคาร เราจึงต้องเช็คกับพนักงานด้วยว่า มีเวลาเครียล์ริ่งกับธนาคารอยู่อีกกี่วัน โดยทั่วไปควรคิดเพิ่มในอีก 3 วัน หากเกินนั้น เมื่อมีใบแจ้งหนี้รอบต่อไปส่งมา และมีจำนวนเดอกเบี้ยค้างอยู่เกิน 3 วัน เราก็จะต้องไปจ่ายอีกครั้ง อาจต้องเสียทั้งเวลา และเสียค่าธรรมเนียมในการชำระเงินอีกรอบไปด้วย

หรือด้วยโปรโมชั่นที่ล่อใจเรามากขึ้นในเรื่องการผ่อน เมื่อซื้อของได้ง่ายขึ้น เราก็ต้องเพิ่มวินัยในการซื้อให้สูงตามด้วย อย่าลืมเตือนตัวเองบ่อยๆ ว่าต้องซื้อสิ่งจำเป็นเท่านั้น ไม่ซื้อแค่ต้องการหรือผ่อนหลายรายการพร้อมกัน จนอาจเกินความสามารถในการชำระหนี้ในแต่ละเดือนเอาได้ หรือแม้แต่เรื่องการผ่อนแบบ 0% หากเราลืมหรือผิดนัดชำระก็จะต้องเจอกันดอกเบี้ยที่สูงเหมือนกัน ทางที่ดี ควรตั้งการตัดบัญชีให้จ่ายแบบอัตโนมัติ เมื่อได้รับการแจ้งยอดการใช้ และไม่ลืมตรวจสอบความถูกต้องของยอดรวมการทำรายการด้วยนั่นเอง

วิธีลดดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดแบบที่เราทำได้จริง

วิธีลดดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดแบบที่เราทำได้จริง

เนื่องจากการใช้จ่ายผ่านบัตรกดเงินสด หลายคนมักจะเตือนเราเรื่องดอกเบี้ยที่สูงกว่า และมีการคำนวนเป็นแบบรายวัน ดังนั้นเราต้องคิดตามเรื่องวันแรกที่กดใช้ ไปจนถึงวันสุดท้ายที่ต้องคืน บวกลบไม่ควรเกิน 3 วัน และใช้จ่ายเงินสดตัวนี้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เพื่อการให้ในระยะเวลาที่สั้นกว่า มีเงินเมื่อไหร่ก็ชำระคืนกลับไป ทำให้เราเสียจำนวนดอกเบี้ยได้น้อยที่สุดด้วย

โดยอัตราดอกเบี้ยของบัตรจำพวกนี้มักอยุ่ที่ 24 -28 % ต่อปี ขึ้นอยู่กับฐานรายได้ จำนวนวงเงินที่อนุมัติและแต่ละสถาบัน หรือกรณีเรามีเงินไม่ครบตามจำนวนที่กดออกมา ก็สามารถใช้คืนบางส่วนได้ โดยไม่ต้องรอใบแจ้งหนี้ในเดือนถัดไป เพราะอัตราดอกเบี้ยจะถูกคูณด้วยจำนวนยอดชำระที่ค้างอยู่เท่านั้น ทำให้ดอกเบี้ยที่เราจ่ายก็จะลดลง เมื่อชำระหนี้จบ ดอกเบี้ยก็จะหยุดคิดตามทันที ส่วนวิธีลดดอกเบี้ยบัตรนี้แบบที่ทำได้จริงก็ไม่ยาก เช่น:

  • การเพิ่มอัตราเพื่อผ่อนชำระ. สมมุติจากเดิมเราผ่อนชำระอยู่ที่ 5 % หากเพิ่มเป็น 10 % ได้ เราก็จะมีดอกเบี้ยลดลงไปถึงครึ่งหนึ่ง และช่วยลดเรื่องระยะเวลาในการผ่อนลงไปได้อีกเท่าตัวด้วย

  • การรีไฟแนนซ์ไปบัตรอื่น วงเงินอื่น ก็สามารถทำได้ เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในบัตรของเรา ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้ในระยะหนี่ง ทุก 1% ที่ถูกลดลง ก็ช่วยลดการจ่ายดอกเบี้ยของเราได้ประหยัดถึง 6 % ถ้าอัตราดอกเบี้ยนั้น ถูกลง 2% เราก็ยิ่งประหยัดได้กว่า 12 % ด้วย

  • ทั้งเพิ่มอัตราเพื่อผ่อนชำระ  และ รีไฟแนนซ์ แบบควบคู่กัน วิธีนี้ยิ่งทำให้เราปลดหนี้ได้เร็ว และส่งผลดีที่สุด ยิ่งถ้ามีจังหวะย้ายหนี้นั้น ไปบัตรอื่น วงเงินอื่น ช่วงโปรโมชั่นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเป็นพิเศษ ก็ยิ่งเห็นผลได้ดีมากขึ้นอีกด้วย

มนุษย์เงินเดือนและการใช้บัตรกดเงินสดแบบที่ห่างไกลหนี้!

มนุษย์เงินเดือนและการใช้บัตรกดเงินสดแบบที่ห่างไกลหนี้!

อ่านมาทั้งบทความกันแบบนี้แล้ว เราคงเห็นด้วยเหมือนกันใช่ไหมว่า วัตถุประสงค์ในการใช้บัตรกดเงินสดนั้น คือเพื่อนำมาใช้จ่ายยามจำเป็น หรือเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินไม่ควรใช้แบบพร่ำเพรื่อ หรือหมุนเงินเพื่อจ่ายหนี้บัตรอื่น เพื่อข้อดีที่มากกว่า และมนุษย์เงินเดือนก็สามารถมีไว้เพื่อชีวิตที่ตอบโจทย์กว่าด้วยเช่นกัน ช่วยให้ชีวิตเราไปต่อได้ง่ายขึ้น เพราะบัตรกดเงินสดดีๆ สักใบ จะทำให้เรากดเงินได้แบบฟรีค่าธรรมเนียมทุกตู้ทั่วประเทศ เลือกผ่อนชำระสินค้าได้นานกว่า โทรสั่งเงินสดแล้วรอรับเงินได้ใน 1 วันทำการ แต่มีข้อเรียกร้องด้านรายได้ที่ต่ำกว่าบัตรเครดิต รวมถึงระยะเวลาในการอนุมัติที่เร็วกว่าด้วย ถึงแม้จะมีดอกเบี้ยสูง แต่ถ้าเราฉลาดใช้ ก็มอบสิทธิประโยชน์แบบคุ้มค่า เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อสิ่งที่จำเป็นและสำคัญได้

หากต้องการพิจารณาบัตรกดเงินสดดีๆสักใบ ก็อยากให้ลองเช็คกันดูเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่อาจแตกต่างกันไปตามแต่สถาบันการเงิน เลือกดูสถานบันที่มั่นคง และอยู่ภายใต้การดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อความน่าไว้วางใจ และส่วนอื่นประกอบ เช่น ด้านการบริการ ความรวดเร็วในการอนุมัติ และช่องทางการใช้ที่มีเครือข่ายอย่างห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าแบรนด์ดัง เพื่อให้เราได้รับสิทธิประโยคมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราต้องไม่ลืม คือเรื่องของวินัยในการใช้บัตรด้วย ต้องใช้เฉพาะช่วงเวลาจำเป็นหรือฉุกเฉินจึงจะดี เพราะบัตรกดเงินสดก็เป็นสินเชื่อที่มีดอกเบี้ยแพงอยู่เหมือนกัน ถึงอัตราปีล่ะ 28 % ถึงจะอนุมัติง่าย รวดเร็ว ฟรีค่าธรรมเนียม หรือผ่อนสินค้าได้อย่างทันใจ แต่จำนวนเงินที่กดและวันที่ใช้ก็จะคิดตามจริง มีเมื่อไหร่เราจึงต้องรีบนำมาจ่าย จะได้ไม่ต้องแบกภาระดอกเบี้ย วางแผนให้ดีกว่า เมื่อฉลาดคิด ฉลาดใช้จ่าย มีความรอบคอบก่อนกดเงินมาใช้ เจ้าบัตรกดเงินสดตัวนี้ ก็จะช่วยให้เราอุ่นใจมากขึ้น ในเรื่องเงินๆ ทองๆ ชีวิตของเราก็จะดี๊ดีย์ ในช่วงเวลาฉุกเฉินหรือจำเป็น เพราะไม่ว่าจะเป็นบัตรประเภทไหน ถ้าเรารู้จักใช้ และควบคู่กับวินัยทางการเงิน ก็มีประโยชน์ไม่น้อยเลยนั่นเอง!