ในยุคเงินทองหายากกันแบบนี้เชื่อว่าหลายคนคงเจอกับเหตุการณ์ที่เรียกกันว่าสิ้นเดือนก็แทบจะสิ้นใจ เพราะเงินเดือนออกปุ๊บก็เอ้าเฮกัน พอใกล้ๆจะปลายเดือนเหล่ามุนษย์เงินเดือนทั้งหลายก็แทบจะขาดใจเพราะเงินร่อยหรอกันมาตั้งแต่ยังไม่ทันจะกลางเดือนเลย ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า “สิ้นเดือนเหมือนจะสิ้นใจ” ที่ตั้งใจว่าจะเหลือเก็บน่ะรึ เหมือนว่าจะได้เแต่ฝันได้แต่คิด นั่งปลอบใจตัวเองอยู่ทุกเดือนว่าไม่เป็นไรเดือนหน้าเริ่มใหม่ก็ได้ ชีวิตวนเวียนแบบนี้เรื่อยมา พอรู้สึกตัวอีกทีก็ “อ้าว..ทำงานจนแก่แล้วยังไม่มีเงินเก็บเลย..” ถึงตอนนี้ทุกคนคงอยากรู้กันแล้วสิคะว่าเงินที่ตั้งใจจะเก็บมันรั่วหายไป หรือติดปีกบินไปอยู่ไหนกันหมด งั้นเราไปดู 4 พฤติกรรมละลายเงินเก็บกันค่ะ
1.กินตามใจปาก
เย้…วันนี้เงินเดือนออก… อย่างแรกที่ต้องนึกถึงคงต้องขอตะเวนหาของกินดีๆ ให้สมกับทีตายอดตายอยากกันมาตั้งแต่กลางเดือนซะก่อนเลย ก็เล่นวางแผนกันตั้งแต่ยังไม่ได้กดเงินออกจากตู้เลยทีเดียวล่ะ ครั้นพอเงินถึงมือจริงๆเท่านั้นล่ะ โอ้ย..โน่นก็น่ากิน..นี่ก็น่ากิน.. ตังค์ในกระเป๋าก็เพียบ.. แล้วจะรออะไรล่ะ..ซื้อๆๆ และก็ซื้อๆๆ.. ขนของกินกลับเข้าบ้านจนสองมือตัวเองแทบจะถือกันไม่ไหว สุดท้ายกินไปได้ไม่ถึงครึ่งจากที่ซื้อ ส่วนที่เหลือกินเท่าไหร่ก็ไม่ทัน ท้ายสุดคือต้องทิ้งหมด นั่นเท่ากับว่าคุณเอาเงินตัวเองทิ้งลงขยะไปมากกว่าที่กินลงท้องเข้าไปซะอีก เหตุเพราะความอยากกินบวกกับมีเงินในมือด้วย เมื่อสภาพคล่องนั้นถือไว้ในมือจึงลืมนึกไปว่าที่ซื้อมาทั้งหมดนั้นจะกินหมดเหรอ เงินที่ทิ้งลงขยะแบบไม่เข้าเรื่องจากนิสัยแบบนี้เป็นพฤติกรรมแรกที่ละลายเงินเก็บจำนวนไม่ใช่น้อยที่แทบทุกคนคงเคยคุ้นเคยกันดีใช่ไหมคะ
2.เสพติดการช้อปปิ้ง
พอเงินเดือนออก ก็เป็นอันต้องไปเดินห้างแวะซื้อของใช้จำเป็นกลับบ้านกันสักหน่อย พอไปถึงของที่จำเป็นก็หยิบลงรถเข็น ระหว่างทางเดินนั้นของที่ไม่ได้จำเป็นก็หยิบติดลงรถมาด้วย อาการควักจ่ายแบบไม่ได้คิดมาก่อนยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น กว่าจะเดินออกจากห้างได้ แวะทุกร้านที่แขวนป้าย Sale อุ๊ย..เสื้อนั่นก็สวยจัง โอ๊ะ..รองเท้าก็ดูดีมาก แถมกระเป๋ายังเข้ากับชุดที่ซื้อมาอีก สรุปว่าซื้อเหมายกเซ็ตค่ะ แต่อ้าว..เงินสดที่กดออกมาใช้ซื้อของจำเป็นเข้าบ้านอุตส่าห์กดมาเผื่อแล้วนะ แต่ดันเกลี้ยงไปแล้วกับแผนกซุปเปอร์เมื่อกี้ แล้วของในมือนี่ล่ะทำไงดีล่ะ! ทันใดนั้นมีเสียงจากจิตใต้สำนึกกระซิบข้างหูเบาๆว่า..”พลาดรอบนี้คงซื้อไม่ได้แล้วล่ะราคานี้” เท่านั้นล่ะ ว่าแล้วก็ตัดสินใจควักบัตรเครดิตรูดซะ “จริงด้วย! ถูกขนาดนี้ซื้อก่อน ไว้ค่อยตามจ่ายในบัตรอีกทีก็แล้วกัน”
3.เที่ยวกลางคืนบ่อย
“นักท่องราตรี” อีกพฤติกรรมที่ละลายเงินเก็บในแต่ละเดือนได้เยอะจนคุณเองแทบไม่รู้ตัว นอกจากจะทำให้เงินเดือนไม่เหลือแล้ว เผลอๆต้องมานั่งจ่ายที่หนี้เพิ่มขึ้นในบัตรเครดิตเพราะความหน้าใหญ่ใจโตขณะอยู่ท่ามกลางกลุ่มเพื่อนฝูงกันได้อีกด้วยค่ะ ลองคิดกันดูเล่นๆ หากค่าใช้จ่ายการท่องราตรีแบบขั้นต่ำอยู่ที่ 2,000 บาทต่อครั้ง สมมุติไปกันสักเดือนละ 2 ครั้ง เงินที่หายออกจากกระเป๋าไปขั้นต่ำนั่นคือ 4,000 บาทเข้าไปแล้ว และถ้าหากคุณได้รับเงินเดือนที่ 20,000 บาท มันก็เท่ากับว่าค่าใช้จ่ายที่หายไปตรงนี้ก็คือ 20% ของรายได้ต่อเดือนเชียวค่ะ แต่หากคุณไปมากกว่า 2 ครั้งต่อเดือนล่ะ แน่นอนว่าจะไม่ให้เป็นหนี้ไหวเหรอคะ… สู้เราโยก 20% ตรงนี้ไปหยอดกระปุกจะดีกว่าไหมคะ?
4.เงินเข้าปุ๊บ เป็นต้องกดออกปั๊บ
เงินเดือนออกปุ๊บ เหล่ามนุษย์เงินเดือนทั้งหลายก็ต่างรวมตัวกันตั้งหน้าตั้งตายืนจ่อหน้าตู้ ATM เข้าคิวกันยาวเสมือนเป็นตู้แจกเงินให้ฟรีกันเลยทีเดียว บางทีรุมกดเงินกันจนเงินหมดตู้ เหตุการณ์ดังกล่าวมักเกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงวันเงินเดือนออก หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ร่วมสร้างวีรกรรมในวันเงินเดือนออกนี้ ลองหันมาหยุดคิดสักนิดก่อนว่าจะรีบเอาเงินออกไปไหน สำรวจดูความจำเป็นที่ต้องใช้เงินในตอนนั้นสักนิด คิดให้รอบคอบก่อนกดเงินสดออกมา และควรกดเท่าจำนวนที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น ห้ามกดเกิน! หรือถ้าหากคุณมีหนี้สินพะรุงพะรังต้องรีบเคลียร์ด่วน คุณอาจกดออกมาจำนวนมาก แต่ให้ท่องไว้ว่า “ต้องเหลือ 10% ของเดือนติดไว้ในบัญชี” เพียงแค่นี้การกดเงินทุกสิ้นเดือนของคุณก็จะไม่เป็นพฤติกรรมละลายเงินเก็บกันอีกต่อไปค่ะ
ละลายพฤติกรรมแย่ๆ ก่อนพฤติกรรมแย่ๆจะละลายตัวเอง
เป็นไงกันบ้างคะเมื่อเราได้อ่านกันมาถึงตรงนี้ คงได้มองเห็นรูรั่วของเงินในกระเป๋ากันบ้างแล้วใช่ไหมคะว่าเงินที่มีหล่นหายออกไปไหนกันหมด ทั้งๆที่มีเงินเดือนเข้ามาเต็มทุกเดือนแต่ทำไมเงินเหลือกันแทบจะไม่ถึงสิ้นเดือน ที่จริงแล้วทุกๆสิ่งนั้นเกิดจากพฤติกรรมการใช้เงินที่ไม่ดีของตัวเราเองล้วนๆเลยล่ะค่ะ ซึ่งหากเราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินแบบแย่ๆที่กล่าวมาข้างต้นได้ รับรองว่าคุณเองจะมีเงินเก็บก้อนโตในระยะเวลาอันรวดเร็วทีเดียวค่ะ อย่าปล่อยให้ค่าแรงที่ได้มาจากความเหน็ดเหนื่อยทั้งเดือนของคุณติดปีกบินไปง่ายๆแบบนี้อีกต่อไป แค่เลิกนิสัยแย่ๆ แล้วหันมาให้ความสำคัญในเรื่องการเก็บเงินเพื่ออนาคตในวันข้างหน้ากันเถอะค่ะ
Noppawin
กำลังอยากจะสอนบทเรียนการใช้เงินให้ลูกๆอย่พอดี บทความนี้ดีเลยครับผมว่าให้คำแนะนำที่ดี ตรงกับพฤติกรรมที่ลูกๆเป็นกันอยู่ ทั้งๆที่ผมพยายามสอนให้พวกเขาเก็บเงินอย่างดี แต่ลูกๆก็ไม่ทำตามสักเท่าไหร่แล้วมักบ่นว่าเงินไม่เหลือ ผมก็ไม่อยากจะบ่นว่าเด็กๆ ก็เลยอยากให้บทความนี้บอกพวกเขาเองว่าเขาทำอะไรทำไมเงินไม่เหลือครับ
บุญรัตน์
จากที่อ่านมาดูเหมือนจะเข้าตัวเองอยู่นะคะ โดยเฉพาะการกินนู่นนี่นั่นตามใจปาก ทำให้เงินเก็บลดลงได้จริงค่ะ เพราะว่าสำหรับตัวเองแล้วก็พยายามเก็บเงินไว้ใช้สำหรับในยามฉุกเฉินเหลือไว้ลงทุนทำอะไรก็ตามที่ต้องการ แต่พอเห็นอะไรที่น่ากินแล้วก็อยากกินเหมือนกันค่ะก็เลยห้ามใจไม่ไหว และยังมีคำแนะนำอื่นๆอีกขอบคุณมากค่ะ
น้ำฝน
อันนี้เข้าตัวมากเลยค่ะ คือนิสัยแย่ก็มีหลายอย่างนะคะที่ทำให้เงินของเราลดลงไปเยอะ แต่สำหรับตัวฉันเองคือการที่พ่อเงินเข้าปุ๊บก็คันไม้คันมืออยากจะใช้เงินนั้นเองค่ะทำให้เงินลดลงไปเยอะ พอดีอ่านบทความนี้แล้วก็นึกถึงเกี่ยวกับการใช้เงินของตัวเองขึ้นมาเลยค่ะว่า มีอะไรที่สามารถปรับปรุงตัวเองเพื่อให้เงินเหลือเก็บ จะได้มีเงินเอาไว้ใช้จ่ายบ้าง
Kantapong
สำหรับผม เรื่องกินเรื่องใหญ่ครับ ถึงว่าเงินไม่ค่อยจะเหลือเก็บเลย555 คนเรามักจะมีเรื่องให้เสียเงินกันอย่างง่ายดายเสมอ เพียงแต่เป็นคนละเรื่องกัน บางคนก็ชอบซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ต่างๆนานา ผมพยายามอยู่นะครับเรื่องวางแผนการใช้เงินเนี่ย ต้องตั้งกฎกับตัวเองเรื่องการกินใหม่ด้วย กินแต่พอดี..ท่องไว้ๆ
หนิง
การเปลี่ยน พฤติกรรมการใช้เงิน มันต้องใจเย็นคะ อย่าหักดิบไปเปลี่ยนเลยทันทีคะ ไม่งั๊นมันจะเครียดได้คะ อย่างปกติเคยได้กินเคยได้ใช้ พอไม่ได้กินหรือได้ใช้แบบเมื่อก่อนจะจะรู้สึกหงุดหงิดเอาได้ ค่อย ๆเปลี่ยนทีละนิดคะ จากทานบ่อยมานานๆครั้งทานหรือ นานๆที่ซื้อแบบนี้จะดีกว่าคะ แล้วไม่นานเราก็จะปรับเรื่องการใช้เงินของเราได้ในที่สุดคะ
สายหวาน
มาคิดๆดูเงินเดือนที่ได้มาแต่ละเดือนมักหมดไปกับการกินนะคะ ถึงไม่ใช่สายกินแต่เดี๋ยวนี้มี Application สั่งอาหารอย่าง Food Panda / Grab Food อะไรแบบนี้ก็ยิ่งทำให้เราสั่งอาหารมาที่บ้านง่ายมากขึ้นก็เลยสั่งใหญ่เลย เพราะอยากรู้อยากลองชิมหลายๆร้าน แต่เมื่อก่อนไม่เสียเงินค่าอาหารมากแบบนี้เพราะขี้เกียจเดินทางไป
น้ำพราว
คุณสายหวาน... มันก็ไม่ใช่แค่พวก Food Panda / Grab Food เท่านั้นนะคะที่ทำให้เราหยุดการกินไม่ได้ YouTube นี่และตัวดีเลย ช่องที่แนะนำสถานที่การกินอร่อยๆ รีวิวขนมอาหารอร่อยๆ นี่แหละเป็นตัวที่ทำให้เราหยุดกินไม่ได้ต้องไปตามหาร้านที่อร่อยกับเค้ากันบ้าง... 5555 เราว่าถ้าเราไม่ค่อยซื้อของกิน เราจะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นได้อีกเยอะเลย แถมหุ่นก็จะดีขึ้นด้วย
นุช
งั้นไม่รอว่าเหตุผลที่ทำให้เงินเก็บละหายไปไหนเป็นเพราะกินตามใจปากมากจริงๆแล้วคิดว่าเราเป็นคน เข้มงวดเรื่องค่าใช้จ่ายนะไม่ค่อยได้ซื้อเสื้อผ้าเครื่องสำอางอะไรพวกนั้น แต่เห็นของกินแล้วมันแบบชานมไข่มุก น้ำปั่น ไอติม เค้ก อย่างนี้ วันๆนึงหมดกับของกินพวกขนมหวานนี้วันละ 100-200 ได้มั้งเดือนนึงก็ 3000 เลยอ่ะ เยอะเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะทำยังไงดีเห็นแล้วมันอดใจไม่ไหว
ชาย
อยู่ไม่ได้หรอกนะครับถ้าจะมาให้ยกเว้นการช้อปปิ้ง เข้าใจอยู่ครับว่าการช้อปปิ้งทำให้เงินของตัวเองลดลง แต่เป็นเหมือนความสุขเล็กๆน้อยๆที่ผมพยายามที่จะหาให้กับตัวเองนะครับ คนอื่นอาจจะคิดว่าการที่ตัวเองมีเงินสามารถเอาไปทำความสุขในเรื่องอื่นๆได้ แต่สำหรับผมการพัฒนาความอยากได้โดยการไปช้อปปิ้งในสิ่งที่เราอยากได้นั้นทำให้ผมมีความสุขมากครับอาจจะเลิกไม่ได้หรอก
คณนาถ
เทียวกลางคืน ใครที่เคยไปก็ทราบใช่ไหมครับว่า เสียค่าใช้จ่ายเยอะมาก ยิ่งถ้ามีสาวๆไปด้วย ยิ่งอยากโชว์เลยครับ คนแบบนี้ต้องระวังนะครับ หมดตัวโดนหลอกเอาง่ายนะครับ แต่ดีหน่อยนะครับ ช่วงที่ผ่านมา คนอดเที่ยวกลางคืนเยอะมากเลย ดีไหมครับมีเงินเหลือๆกันเลยใช่ไหม แต่เชื่อเถอะครับถ้าเที่ยวได้เมื่อเรา ไปกันอีกแน่นอน
Boat
@ k. คุณนาถ คงจะมีให้เหลือหรือเอาไปเปย์สาวได้หรอก ....แค่เงินจะใช้ยังไม่มีเลยตอนนี้ สงสัยเที่ยวกลางคืนคงต้องพักไว้อีกนานครับ 5555 แต่ก็คงพักไม่ได้ซักเท่าไหร่เพราะมีบ้านเล็กบ้านน้อยด้วย 55555 (ล้อเล่นนะ ยังไม่อยากโดนแฟนฆ่า ยังอยากมีชีวิตอยู่) ส่วนใหญ่ผมกับแฟนก็จะหมดเงินไปกับเรื่องเที่ยวและเรื่องกินครับ คงต้องพยายามหากิจกรรมอื่นทำแทนกันแล้วล่ะ จะได้ประหยัดกันได้ซักที