การจัดเก็บข้อมูลเครดิตบูโร เก็บกี่ปี?
ผมปิดบัญชีสินเชื่อเดือนสุดท้าย เดือนธันวาคม 2559 ข้อมูลเครดิตบูโรของบัญชีนี้ จะหายไปจากข้อมูลเครดิตบูโรของผม เดือนอะไร ปีไหนครับ ปกติเขาจัดเก็บกันกี่ปีครับ เคยจ่ายช้า สถาบันการเงินก็ให้ทำบัตรเครดิต บางที่ไม่ผ่านบอกตก Score จากเครดิตบูโร
เลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินอะไรดีนะ..
คุยกับที่ปรึษาทางการเงินโดยตรงและรับข้อเสนอที่เหมาะกับคุณ
รับคำปรึกษาฟรี
Diloktham
ข้อมูลในเครดิตบูโรของบุคคลธรรมดา กฎหมายกำหนดไว้ว่าให้เก็บไว้ในระบบประมวลผลได้ไม่เกิน 3 ปี นับแต่วันที่สมาชิกรายงานข้อมูลมายังบริษัท โดยที่จะมีข้อมูลใหม่เข้าไปแทนที่ข้อมูลเก่าเรื่อยไปค่ะ สถาบันการเงินที่เราเคยจ่ายล่าช้า จะเก็บประวัติเราตลอดไป ไม่มีการลบออกจากระบบ ดังนั้นไม่ต้องไปเสียเวลาทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินที่เราเคยจ่ายล่าช้า เพราะไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่ให้เราผ่าน
Supharang
เวลามีการเช็คเครดิตบูโร เครดิตบูโรจะนำส่งข้อมูลประวัติการชำระเงินทุกๆบัญชี ย้อนหลัง 36 เดือนให้กับผู้ที่ขอ เช็คประวัติเครดิต แต่กรณีที่ ติดแบล็คลิสค้างชำระเงินอยู่และไม่ได้จ่าย ถึงแม้จะเกิน 36 เดือนไปแล้ว ก็ยังจะมีข้อมูลในระบบเครดิตบูโร เพราะเครบูโรจะแบ่งข้อมูลออกเป็น 2 ส่วนคือ 1 ประวัติการชำระเงินในแต่ละเดือน 2 ข้อมูลสรุปของแต่ละบัญชี ณ ปัจจุบัน ส่วนกรณีที่เคยติดแบล็คลิสมาก่อน และชำระเสร็จสิ้นไปเกิน 36 เดือนแล้ว ในเครดิตบูโรจะไม่มีข้อมูลอยู่ แต่สถาบันการเงินเดิม ที่เคยติดแบล็คลิสจะเก็บข้อมูลของลูกค้าไว้ตลอด แต่ถ้าเป็นสินเชื่อบ้าน บางแบงค์จะมีการแชร์ข้อมูลให้กับแบงค์อื่นด้วย
ประดิษฐ์
ก็ลำบากหน่อยนะครับเพราะถ้าเป็นการติดแบล็คลิสแล้วก็ไม่มีการลบออกครับ แต่ถ้าเป็นข้อมูลปกติก็จะมีการลบทุกๆ 3 ปีนะครับ ดังนั้นถ้าเราติดแบล็คลิสมีผลต่อการเปิดใช้บริการหรือการจะสมัครใช้บริการของธนาคารถ้าเราไม่ได้รับอนุมัติเพราะติดแบล็คลิสต์เครดิตบูโร ก็แนะนำว่าให้ไปใช้ธนาคารอื่นดีกว่าครับเพราะว่ายังไงเขาก็มีประวัติของเราอยู่แล้วเขาไม่อนุมัติหรอกครับ
earth
ไม่ใช่3ปี เป็น 3-5 ปีมากกว่าคะ ข้อมูลนี้จะถูกเก็บไว้นานเลยนะคะ แต่เราว่ามันน่าจะมากกว่านั้นนะ เพราะอย่างแฟนเราเป็นหนี้บัตรมาหลายปีแล้วเคียร์จบไปแล้วนานแล้วด้วยแต่พอจะทำบัตรใหม่อีกครั้ง เจ้าหน้าที่บอกเคยเป็นหนี้เสียด้วยใช่ไหม เราก็สงสัยว่าทั้งๆที่เวลาก็ผ่านมานานแล้วแสดงว่าข้อมูลไม่ได้ลบออกจริงๆคะเป็นเพียงแค่หลักทางกฏหมายเท่านั้นเอง
greap.3
เครดิตบูโรจัดเก็บข้อมูลไม่เกิน 3 ปีนะคะ ย้ำนะคะ ว่าไม่เกิน 3 ปีนับจากวันที่ได้รับรายงานข้อมูลการปิดบัญชีจ้า ข้อมูลเครดิตบูโรของบัญชีของคุณ จะหายไปภายในเดือน ธันวาคม 63 นี้โดยอัตโนมัติจ้า เเล้วก็เครดิตบูโรเขาไม่ได้เก็บเป็นแบล็กลิสต์ ถ้าเคลียร์หรือปิดบัญชีแล้วเขาก็จะบอกตามนั้น เพียงแค่ว่าข้อมูลของคุณอาจยังไม่ถูกลบออกไปจนกว่าจะถึงกำหนดจ้า
janjan
ก็ต้องรอเนาะ ตามเวลาเลยค่ะ แต่อยากแนะนิดหนึ่งว่าหลายคนรอเครดิตที่ติดบูโรจบเฉยๆ ไม่ได้ทำการเดินบัญชีของตัวเองน่าเชื่อถือ เสียดายนะค่ะ เพราะถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะไม่ติดบูโรแล้ว แต่ถ้าเรายื่นเรื่องขอทำบัตรเครดิต หรือขอสินเชื่อ เขาก็จะพิจารณาการเงินของเราด้วย บางที่เช็คย้อยหลังนานมาก ตั้งแต่เราติดบูโรด้วยซ้ำ ดังนั้นระหว่างรอ ก็ทำบัญชีการเงินของตัวเองให้ดูหน้าเชื่อถือด้วยนะค่ะ
วัลลี
เครดิตบูโรมีหน้าที่ในการจัดเก็บข้อมูลสินเชื่อและประวัติการชำระหนี้สินโดยที่สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกมีหน้าที่รายงานและส่งข้อมูลให้แก่เครดิตบูโรเป็นรายเดือนทุกเดือน ซึ่งเครดิตบูโรจะอัพเดตข้อมูลให้ในแต่ละเดือนไปเรื่อยๆด้วยกันทั้งหมด 36 เดือนเมื่อมีข้อมูลใหม่เข้ามาข้อมูลบันทึกเก่าของเมื่อ 36 เดือนที่เหลือก็จะหายไปค่ะ
**Timpani**
คงทำอะไรไม่ได้ ต้องทำใจและอดทนรอล่ะครับ เพราะยังไม่ครบกำหนดของการเก็บข้อมูลเครดิตบูโร เรื่องที่ต้องการใช้เงินแล้วไปขอสินเชื่อไม่ผ่าน เรื่องนั้นต้องรอไปก่อน แต่ถ้ามีเรื่องด่วนมากก็ต้องหาทางอื่นไปก่อนน่ะครับ ครั้งหน้าถ้าขอสินเชื่อหรือกู้เงินอะไรก็แล้วแต่ ต้องจ่ายเงินคืนให้ตรงกำหนดจะได้ไม่ติดเครดิตบูโรอีกครับ..ถือเป็นประสบการณ์
ปังปัง
ไม่ใช่แค่คุณนะคะที่เจอปัญหาแบบนี้ หลายคนเมื่อต้องการจะขอสินเชื่อหรือทำธุรกรรมทางการเงินอะไรเพิ่มเติม ก็จะเจอปัญหาเรื่องเครดิตบูโร คล้ายๆกัน ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยาก ถ้าคุณเคยมีประวัติเสียทางการเงินมาแล้ว ถึงแม้ตอนนี้จะชำระหนี้หมดแล้วก็ตามแต่ประวัติก็ยังมีอยู่แล้วการที่ประวัตินั้นจะหายไปจากเครดิตบูโรของแต่ละคนก็ไม่เท่ากันและไม่มีใครสามารถบอกระยะเวลาที่แน่นอนได้ค่ะ
Fever
จนทุกวันนี้ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจคำว่าเครดิตบูโรเลยค่ะ บางคนก็บอกว่าเป็นการเช็คประวัติเสียทางการเงิน บางคนก็บอกว่าแค่เป็นการเช็คประวัติการเป็นหนี้เฉยๆไม่ว่าจะเป็นหนี้เสียหรือหนี้ดี ก็เช็คทั้งนั้น สรุปคืออะไรกันแน่คะอยากรู้จริงๆนะเนี่ยใครเข้าใจคำว่าเครดิตบูโรมาเล่าให้ฟังหน่อยนะคะ เพราะเคยขอสินเชื่อบางอย่างแต่ไม่ได้รับอนุมัติ หลังจากที่ได้รับการเช็คเครดิตบูโรมาแล้วทั้งๆที่ไม่เคยมีประวัติเสียมาก่อน
CF_FC
@Fever ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับ แต่ด้วยความที่มีความจำเป็นต้องขอสินเชื่อ พอได้ยินเรื่องเครดิตบูโร ก็เลยต้องหาข้อมูลค่ะว่ามันคืออะไรยังไง งั้นไปไหนคุณก็เข้ามาในเว็บไซต์นี้แล้ว ลองหาบทความที่อธิบายเรื่องนี้อ่านดูสิครับ รู้สึกว่าจะมีด้วยนะ ในเว็บไซต์นี้มีบทความให้อ่านหลายเรื่องเลย ผมก็ได้ความรู้ใหม่ๆเกี่ยวกับเรื่องการเงินจากการอ่านบทความนี้แหละครับ
แนนซี่
@ k. Fever เห็นคุณบอกว่า.... เคยขอสินเชื่อบางอย่างแต่ไม่ได้รับอนุมัติ หลังจากที่ได้รับการเช็คเครดิตบูโรมาแล้วทั้งๆที่ไม่เคยมีประวัติเสียมาก่อน.... จริงๆไม่เกี่ยวกันเลยนะคะ การที่ธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อให้เรา เกี่ยวข้องกับปัจจัยอื่นๆอีกหลายอย่างค่ะ เช่น การชำระหนี้ของเรา เราเคยมีประวัติไม่ค่อยดีไหมอย่างเช่น จ่ายช้าบ่อยๆ เรามีหนี้สินเยอะไหม รายได้เราเพียงพอจะชำระหนี้ได้ไหม เค้าไม่ได้ดูแค่เราติดเครดิตบูโรเท่านั้นนะคะ
ศุภิกา
คนที่ไม่อยากติดบูโร ก็ต้องจ่ายให้ตรงเวลา เวลาเป็นเรื่องขึ้นมาก็มาบ่นกันว่า ทำไมเวลาที่ติดบูโรมันนานจัง แต่เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าเรารู้จักการใช้ที่ถูกต้อง แล้วอีกอย่างที่เจอก็จะเป็นพวกที่ชอบจ่ายแบบขั้นต่ำ กลุ่มคนแบบนี้มักเจอเรื่องหนี้ค้างชำระเยอะมาก ดังนั้นถ้าอยากได้ประวัตดี ก็ต้องเริ่มสร้างนิสัยที่ดีในการใช้หนี้
Widcha-}
ที่ผมเข้าใจตอนนี้ คนที่เคยติดเครดิตยูโรจะมีประวัติอยู่ประมาณ 3 ปีในกรณีที่ชำระหนี้เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นสามารถขอสินเชื่อหรือไปทำอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับการกู้เงินได้ แต่ไม่ควรไปที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินเดิมที่เราเคยมีประวัติค้างชำระหนี้ไว้ เพราะว่าเขาจะไม่ให้เรากู้เงินอีก ที่ผมเข้าใจแบบนี้ ถูกต้องหรือเปล่าครับ
เรื่องเล่า..เขาบอกมา
เจ้าของกระทู้ปิดบัญชีสินเชื่อเดือนสุดท้ายไปตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 ผ่านมาจะ 5 ปีแล้วนะครับ ข้อมูลเครดิตบูโรที่เคยมีคงหายไปแล้วล่ะ ผมเคยรู้มาว่า ข้อมูลนี้จะอยู่ประมาณ 3-5 ปีเท่านั้น คุณสามารถของสินเชื่อหรือทำอย่างอื่นเกี่ยวกับการเงินได้ละ แต่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ อย่าเพิ่งไปขอสินเชื่อเลย อยู่สบายๆแบบไม่มีหนี้ดีกว่าครับ
อัสนัย
ตอนนี้พี่เคลียหนี้ที่ค้างหมดแล้ว แสดงว่า ปี 2564 ปีนี้ พี่ก็สามารถ ยื่นเรื่องขอสินเชื่อได้ตามปกติแล้วละครับ ยังไงก็แสดงความดีใจด้วยนะครับ ที่สามารถกลับมาขอสินเชื่อได้อีก ยังไงถ้าไปขอสินเชื่อมาแล้วถ้าได้ ก็เอาสิ่งที่เกิดขึ้นของครั้งที่แล้วมาเป็นบทเรียนเลยนะครับ ไม่สามารถขอสินเชื่อ หรือว่าทำบัตรเครดิตได้เลย
ฉวีวรรณ
สามปีเลยที่เราจะมีประวัติแบบนี้ ไม่คุ้มเลยคะ ถ้าเราจัดการกับหนี้ของเราไม่ดีส่งผลเสียมากกว่าผลดีจริงๆนะ ช่วงโควิด แบบนี้ใครที่มียอกที่ค้างจ่ายถ้าเป็นไปได้ ถ้ามีเงินก็น่าจะจ่ายบางส่วนไปก็น่าจะดีนะคะ หรือถ้าจ่ายไม่ได้จริงๆ ตอนนี้ถ้าเขามีโครงการพักชำระหนี้ให้เราอีกก็น่าจะไปขอลงทะเบียนเพื่อขอพักชำระหนี้ด้วยก็น่าจะดีคะ