ประกันชีวิต Gen Life 10 เข้าใจว่าต้องซื้อประกันสุขภาพเข้าไปด้วย แต่ไม่ทราบว่าจะซื้อประกันอะไรดีที่เพิ่มเข้าไป

ก็เหมือนที่คนอื่นบอกมานะคะ เดี๋ยวนี้ซื้อประกันได้หลายช่องทางโดยที่ไม่ต้องเจอกับตัวแทนประกันจริงๆก็ได้ แต่ถ้าอยากจะเจอเขาก็ยินดีมาพบคุณนะคะลองโทรไปติดต่อเขาก่อน หรือว่าจะปรึกษาตัวแทนประกันบนเว็บไซต์ก่อนก็ได้ ถ้าเราเข้าไปในเว็บไซต์ของบริษัทเจนเนอราลี่ก็จะเห็นว่ามีปุ่มให้กดปรึกษาตัวแทนประกันค่ะ อาจจะเป็นวิธีใหม่สำหรับหลายๆคนแต่ก็ไว้ใจได้นะ

Gen life 10 ว่าไปประกันตัวนี้ก็ดีไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่เราว่าคงยังไม่เหมาะกับ จขกทนะคะ เหมาะกับคนที่มีเงินเก็บบ้างอยู่แล้วมากกว่า รับประกันตัวนี้ค่อนข้างจะมีเบี้ยที่แพง อยากแนะนำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ระยะสั้นอื่นๆมากกว่า ที่จ่ายเบี้ย 10 ปีคุ้มครอง 15 ปี หรือจ่ายเบี้ยประกันแค่ 5 ปีคุ้มครอง 10 ปี แบบนี้คุณจะได้เงินก้อนเร็วมากขึ้นนะคะ

ประสบการณ์ของฉันก็คือ ครอบครัวของฉันซื้อประกันตัวนี้ให้ตั้งแต่ยังเด็กค่ะ ก็เลยรู้สึกว่า เป็นประกันตัวหนึ่งที่คุ้มมากๆ ตอนนี้ก็คือไม่ต้องห่วงที่จะไปหาเธอประกันชีวิตเลยเพราะว่ามีอยู่แล้วตั้งแต่เด็ก แล้วทุก 5 ปี ก็ได้เงินคืน 5% แล้วปีหน้าก็เป็นปีที่จะครบกรมธรรม์ที่ 21 หลังจากนี้ฉันก็จะได้เงินคืน 5% ทุกปีไปจนถึงอายุ 79 แล้วค่ะ ก็เหลืออีกปีเดียวตอนอายุ 80 ก็จะได้เงินก้อนใหญ่ถ้ายังไม่ตายซะก่อนนะ

@Bonuss ตาม Comment ของคุณคนนี้เลยครับ ก็คือว่าเงื่อนไขเขาเป็นแบบนี้หลังจากชำระเบี้ยครบ 4 ปีถึงจะเริ่มได้รับเงินคืนนะครับ แล้วก็ที่คุณจะได้ก็คือเป็นเงินคืนนะครับไม่ใช่เงินปันผล 2 อย่างนี้ไม่เหมือนกันนะครับ แล้วตั้งแต่ปีที่ 4 ของกรมธรรม์ คุณจะได้รับเงินคืน 5% ทุกๆ 4 ปีไปจนถึงปีกรมธรรม์ที่ 21 หลังจากนั้นถึงจะได้รับเงินคืนทุกๆปีจนถึงอายุ 79 ปีครับ

@ฝน ใช่ครับข้อมูลที่คุณให้มาถูกต้องเลย จขกทอย่าเข้าใจผิดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นประกันรูปแบบไหน จะใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้เฉพาะช่วงเวลาที่ชำระเบี้ยประกันเท่านั้น ถ้าชำระเบี้ยจบแล้วแต่ยังได้รับความคุ้มครองต่อไปอีกช่วงเวลาที่ได้รับความคุ้มครองต่อไปช่วงนั้นคือจะใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีไม่ได้นะครับ เรื่องนี้ใช้ได้กับประกันทุกแบบแผนเลย

@Bonuss เสียดายแทนด้วยคนค่ะ @จขกท.ที่จริงแบบแผนนี้ก็เป็นแบบที่คุ้มมากมากนะคะ ถ้าทำไปแล้ว สามารถจ่ายเบี้ยประกันต่อได้ก็ไม่ต้องยกเลิกก็ได้ แล้วถ้าคุณอยากได้ความคุ้มครองเรื่องสุขภาพก็ซื้อประกันสุขภาพเพิ่ม ไม่เห็นจะยากเลย ไหนๆก็มีประกันชีวิตอยู่แล้ว ถึงคุณยกเลิกตัวนี้ไปในอนาคตคุณก็อาจจะต้องซื้อประกันชีวิตอีกอยู่ดี ทำไปแล้วก็ทำไปเลยค่ะ

เจ้าของกระทู้สนใจประกันชีวิตไทยประกันชีวิต คุ้มธนกิจ 99 (1) 99/20 ที่น้องคนนั้นมานำเสนอให้คุณมั้ยล่ะคะ ถ้าคุณสนใจก็ให้น้องเขาอธิบายรายละเอียดให้ฟังเลย เห็นว่าส่วนตัวคุณรู้จักกับน้องคนนี้อยู่แล้ว ถ้าได้ตัวแทนประกันเป็นคนที่รู้จัก เราว่าดีนะคะ มีอะไรคุยกันง่าย เรื่องการดูแลก็จะได้รับการดูแลอย่างดีด้วยค่ะ

ก็ต้องดูก่อนอะว่าที่คุณเข้าไปโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาล จากอาการปวดเข่า ปวดหลัง หรือปวดเอว อันเนื่องมาจากสาเหตุอะไร เกิดอุบัติเหตุมั้ยหรือว่าเป็นอาการจากทางร่างกายหรือโรคที่คุณมีอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้เข้ารับการรักษาเพราะเกิดอุบัติเหตุ ต่อให้คุณมีประกันอุบัติเหตุ บริษัทประกันเขาไม่จ่ายค่าสินไหมหรือค่ารักษาให้หรอกค่ะ

กรมธรรม์ของคุณไม่หายหรอกครับ แค่ยังหาไม่เจอเท่านั้นเอง ว่าแต่ตแนนี้หาเจอหรือยัง ถ้าหาไม่เจอจริงๆก็ไม่ต้องกังวล ติดต่อตัวแทนของคุณเลยครับ เดี๋ยวเขาจัดการเอาฉบับใหม่มาให้คุณเอง จะมีค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะ เรื่องเก็บของแล้วลืมที่เก็บเนี่ยเป็นกันทั้งนั้นครับ

เรื่องการลงชื่อผูรับผลประโยชน์จากเงินกรมธรรม์ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยนะครับ เมื่อก่อนผมคิดว่า ใส่ชื่อคนที่บ้านน่ะแหละ คนในครอบครัวน่ะ ใครก็ได้ แต่ถ้าผู้รับผลประโยชน์เป็นลูกของผู้ถือกรมธรรม์เอง ต้องคิดเยอะกว่านั้นมากจริงๆ ยิ่งลูกอายุยังน้อย ยิ่งต้องคิดว่าจะทำยังไงให้ลูกได้ใช้เงินจากประกันชีวิตของเรา ไม่ใช่คนอื่นเอาไปใช้

ดีใจด้วยครับที่เจ้าของกระทู้ได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น มีเงินพอสำหรับการเพิ่มทุนประกันให้กับกรมธรรม์ของตัวเองด้วย ยังไงก็ดูเรื่องค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายเพิ่มด้วยนะครับ ต้องมากขึ้นแน่ๆอิงตามทุนประกันภัย แต่คิดว่าคุณคงจ่ายไหวอยู่แล้วถึงได้อยากเพิ่มทุนประกันภัย ยากนะ ที่จะได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นในช่วงนี้น่ะครับ

ถ้าประกันสุขภาพนั้นให้ความคุ้มครองเรื่องค่ากายภาพบำบัดด้วย ค่าเบี้ยประกันคงจะแพงมากเลยนะครับ เพราะการทำกายภาพบำบัดต้องใช้เวลาและทำอย่างต่อเนื่องด้วย ไม่รู้ว่าประกันสุขภาพที่เจ้าของกระทู้ถามมาให้ความคุ้มครองเรื่องค่ากายภาพบำบัดด้วยหรือเปล่านะครับ คุ้มครองก็ดี แต่ถ้าไม่ต้องใช้สิทธิ์นั้นจะดีกว่ามากนะครับ