ความสามารถพิเศษที่เรามีนำมาประกอบอาชีพได้จะดีใช่มั้ยคะ?

ถ้าคิดแบบโดยเฉลี่ย น้องเจ้าของกระทู้อายุ 17 ปี เรียนจบชั้นม.3 ทำงานได้เงินเดือนละประมาณ 8,000 บาท ไม่ถือว่าน้อยนะครับ คิดว่าตอนนี้คงได้เงินมากกว่านี้แล้วล่ะ เพราะว่าน้องโตขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้น ยังไงก็หาโอกาสเรียนเพิ่มนะครับ งานบางอย่างเขาให้เงินตามวุฒิการศึกษา น้องจะได้มีฐานเงินเดือนเพิ่มขึ้นไงล่ะครับ

แสดงอยากออกมาเปิดรับบัญชีเองใช่ไหม เอาว่ค่อยๆเอาที่ละตัวเลยคะ เริ่มจาก TA แบบที่พี่ว่าก่อนก็ดี แต่ก็อย่าทิ้งระยะเวลาห่างกันนะคะ เพราะไหนๆจะรับงงานเองแล้ว ใบรับรองของสองอย่างนี้ถ้าเรามีครบ ลูกค้าจะเข้ามาหาเราเยอะมากคะ หนูก็ยังไม่ไดสอบเหมือนกันนะ แต่เห็นของพี่ที่ทำงานคะ เขารับงานนอกด้วย ดูๆแล้วน่าจะดีกว่างานประจำเสียอีกคะ

แต่ละคนก็มีอาชีพในฝันไม่เหมือนกัน อย่างน้องเจ้าของกระทู้อยากเป็นนักกีฬาวอลเล่ย์บอลมืออาชีพ ถามว่าดีมั้ย ก็ดีครับ แม้ว่าอาชีพนักกีฬาไม่สามารถทำได้ยืนยาวเหมือนอาชีพอื่น แต่ก็ไม่ได้หใายคงามว่าจะต่อยอดไปทำอย่างอื่นไม่ได้ จบจากการเป็นนักกีฬาแล้วก็ไปเป็นโค้ช อาจารย์ หรือทำงานในส่วนอื่นที่เกี่ยวกับการดูแลนักกีฬาก็ได้

ตำแหน่งผู้จัดการ ใครว่าสบาย งานที่อยู่ในความรับผิดชอบก็ตามชื่อตำแหน่งเลยค่ะ ต้องจัดการทุกอย่างได้ และต้องจัดการได้เป็นอย่างดีด้วย มีเรื่องจุกจิกมาให้ได้จัดการอยู่ทุกวี่ทุกวันอย่างแน่นอน มีเข้ามาแนะนำเจ้าของกระทู้ไปเยอะแล้ว เราแค่อยากบอกว่า คุณต้องอดทนให้มากๆค่ะ ช่วงแรกๆจะรู้สึกหนักหน่อย สักพักจะเริ่มปรับตัวได้ค่ะ

แล้วตอนนี้เจ้าของกระทู้ได้ลาออกจากงานเก่าหรือยังคะ เรื่องเหตุผลของการอยากเปลี่ยนงานไม่มีใครผิดใครถูก หากว่าการเปลี่ยนงานนั้นไม่ได้ทำให้เราเดือดร้อนเรื่องเงิน คือ กว่าจะหางานใหม่ที่ถูกใจเราได้มันต้องใช้เวลาไง ถ้าหาได้แล้วค่อยลาออกจากที่เดิมอันนี้ก็ไม่มีปัญหา เป็นธรรมดานะที่เราอยากเปลี่ยนงานเพราะรู้สึกว่าไม่เหมาะกับเรา

ไม่น่าจะแค่ของนกแอร์หรอกครับที่มีปัญหาในตอนนี้ คิดว่าสายการบินของหลายเจ้าในบ้านเราน่าจะได้รับผลกระทบเยอะน่าดู บินไปไหนก็ไม่ค่อยจะได้ เมื่อก่อนขนาดจะบินแค่ในประเทศก็ยังลำบากเลย แต่น่าจะดีกน่อยช่วงปี65 โควิด-19ดูเหมือนว่าเชื้อจะเบาลงเลยให้สามารถกลับมาบินได้เกลือบปกติ แต่ถ้าเป็นเราช่วงนี้ก็ไม่ค่อยอยากจะเดินทางเหมือนกัน