เป็นธรรมดาของมนุษย์เดือนอย่างเรา ที่สิ้นปีทีไร ก็คาดหวังกับเงินก้อนใหญ่ที่น่าหมายตาอย่าง ‘โบนัส’ กัน. จากการลุยงานมาตลอดทั้งปี เราก็จะได้เงินเป็นก้อนสักที ที่มากกว่าเงินเดือนที่ได้ไปอีกสัก 2-3 เท่า เพื่อการเปย์ เที่ยว และจับจ่าย แบบคืนความสุขให้ตัวเองกันหน่อย. ใครที่ได้มาแล้ว คุณใช้เงินก้อนนั้นหมดหรือยัง?!.. เพราะชีวิตในยุคที่ควรรัดเข็มขัดแบบนี้ เราคงต้องมีการวางแผนให้ดีกว่าเดิมกันบ้าง ใครที่หมดแล้วก็หวังก้อนใหม่ช่วงกลางปีก็ได้จากบางบริษัท แต่ถ้าใครสนใจการวางแผนเงินโบนัสไว้เผื่อๆช่วงสิ้นปีนี้แล้วล่ะก็ ต้องดู วิธีการวางแผนโบนัสอย่างฉลาด ให้เราเห็นผลกับชีวิตที่น่าจะมีความสุขไปได้ทั้งปี ที่บทความนี้ คัดมาเพื่อคุณแล้ว มาดูกันเลย..

ได้มาทั้งที ต้องมีเก็บ

ได้มาทั้งที ต้องมีเก็บ

ไหนจะเที่ยวทริปในฝัน ไหนจะช็อปกระหน่ำให้หนำใจ ยังไงซะ เพื่อความรอบคอบ เมื่อเราได้เงินก้อนแบบเงินโบนัสมาแล้ว ทางที่ดี ลองเก็บไว้บ้างเหอะ..โดยเราอาจจะแบ่งเงินโบนัสก้อนนี้ ให้ส่วนนึงเข้าบัญชีเงินออมก่อน ด้วยสัดส่วนที่เหมาะตามที่แต่ละคนวางไว้ เช่น แบ่งออม 20 - 30 % ของเงินก้อน แล้วอาจนำเข้าบัญชีเงินฝากประจำที่ให้ผลอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าการฝากธรรมดาแบบออมทรัพย์ นี้ก็จะเพิ่มดอกเบี้ยให้เราได้แบบมากกว่าเดิม ปลอดภัยจากการใช้โบนัสแบบหมดเร็ว และเป็นการสร้างวินัยการออมเงินให้กับตัวเอง. เพราะการมีเงินก้อนเพื่อสำรองเผื่อฉุกเฉินเป็นสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนควรเตรียม ถ้าเรายังไม่มีตรงจุดนี้ ก็ต้องสะสมให้ได้ประมาณ 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายด้วย

เคลียร์อะไรที่มันหนักๆ ไปบ้าง

เคลียร์อะไรที่มันหนักๆ ไปบ้าง

ภาระที่หนักอึ้งสำหรับมนุษย์เงินเดือนหลายๆ คนก็คือพวกสินเชื่อ หรือไฟแนนซ์ และการกู้หนี้ยืมสินแบบระยะต่างๆ ดังนั้น น้องโบนัสนี่ล่ะ ที่จะมาทำให้เราฝันดีขึ้น เราต้องลงมือทยอยโปะหนี้ที่มันหนักในชีวิต ให้จบๆไปบ้าง โดยอาจแบ่งออกมาสำหรับส่วนในการเคลียร์หนี้สินเลยหลังการออม รวมถึงพวกการจ่ายยอดบัตรเครดิตที่ยิ่งช้า ก็ยิ่งเพิ่มดอกเบี้ยให้สูงตาม และเลือกลำดับการจ่ายแบบที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงๆก่อน เพื่อให้มันหมด หรือเบาบางลงไปบ้าง แล้วเหลือแค่ก้อนที่เราสามารถชำระต่อไหว อย่างพวกหนี้ผ่อนบ้าน ถ้าเรายิ่งโปะลงไป ก็จะช่วยลดเงินต้นและลดดอกเบี้ยได้ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นปีดีๆ และแสดงว่าเราไม่นิ่งดูดายในการปิดให้จบๆ แบบเร็วที่สุดด้วย

ลงทุนแบบฉลาดๆ

ลงทุนแบบฉลาดๆ

การลงทุนแบบให้เงินทำงาน ยังเป็นวิธีที่หน้าลองในทุกยุค โดยเราอาจหาวิธีการต่อยอดเงินโบนัส จากการลงทุนในหุ้น กองทุนรวม การซื้ออสังหาริมทรัพย์ พันธบัตร ทองคำ หรือการซื้อ RMF และ LTF เพื่อขยับขยายเงินจากก้อนเล็กๆ ให้เพิ่มแบบเท่าตัว ซึ่งก็แล้วแต่วิธีที่แต่ละคนจะถนัดกันไป โดยไม่ลืมการกระจายความเสี่ยงด้วย หรือบางคนก็อาจมองหาลู่ทาง แบบธุรกิจเสริม เช่น เบอเกอร์รี่ ขายออนไลน์ ขายสินค้ามือสอง ซึ่งเป็นแนวการใช้เงินที่เริ่มด้วยการลงทุนไม่มาก แต่สร้างฐานธุรกิจส่วนตัวได้ในอนาคต

ยังมีการลงทุนแบบที่เป็นประโยชน์กับชีวิต และช่วยลดหย่อนภาษีไปในตัวด้วย อย่างการซื้อประกันชีวิต หรือประกันสุขภาพ ทั้งของตัวเองหรือของพ่อแม่ โดยจะสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดตั้งแต่ 15000 - 100000 บาท ตามเงื่อนไขในแต่ละกรมธรรม์ ซึ่งเราก็สามารถมองหาสิ่งที่เพิ่มสิทธิประโยชน์เรื่องการลงทุนให้กับเราได้ ทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาวด้วย

รางวัลสำหรับชีวิตฉัน

รางวัลสำหรับชีวิตฉัน

ทำมาทั้งปี ต้องได้สิ่งดีๆบ้างสิ! หลายคนจึงมองว่า เงินโบนัส เป็นเหมือน รางวัลสำหรับตัวเอง เพื่อได้สิ่งที่เราเล็งมานาน เช่น ทริปในฝัน แต่งรถย์ใหม่ แต่งบ้านใหม่ หรืออุปกรณ์เรื่องเทคโนโลยี ก็ถือว่าเป็นความสุขทางใจอย่างนึงที่เราจะชื่นชมได้ แต่ก็ต้องเป็นเงินที่เราเก็บออมไปแล้วบางส่วนด้วยนั่นเอง เพราะการตอบแทนตัวเอง ด้วยของที่อยากไปมานาน หรือทริปใหม่ๆ ที่ฝันมานาน ถือเป็นการผ่อนคลายทั้งจิตใจและร่างกาย แต่ยังไงก็ตาม งบที่ว่า ก็ต้องอยู่ในแผนที่เราวางไว้และพอดีกับรายได้ปกติแต่ละเดือนด้วย เพื่อจะได้ไม่เป็นการหาหนี้ใส่ตัวอีก

ต่อยอดความคิด และคืนทุนด้านสุขภาพ

ต่อยอดความคิด และคืนทุนด้านสุขภาพ

ถ้าโบนัสยังเหลือๆ ถึงจะน้อยลงบ้างก็เหอะจากการนำไปลงทุนเล็กๆน้อยๆ เราก็อาจหยิบจับโบนัสที่ได้ ไปจ่ายเพื่อการต่อยอดความรู้และความคิดบ้าง เช่น คอร์สดีๆ เรื่องธุรกิจออนไลน์ คอร์สพัฒนาตนเองและบุคคลิกภาพ หรือเวิร์กช้อปเพิ่มความรู้ในด้านที่เราสนใจ เพื่อเป็นการอัปเดตความคิดใหม่ๆให้กับเราแบบสร้างสรรค์ และพัฒนาทักษะในการทำงานมากขึ้นไปด้วย

และการคืนทุนชีวิตที่ดีที่สุด คือการรักษาสุขภาพของเรา จึงควรใช้เงินโบนัสที่ได้มา ในการดูแลสุขภาพด้วย เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี การดูแลใบหน้า หรือสปาผ่อนคลาย และการเริ่มสมัครฟิตเนสรายเดือน ก็อาจเป็นการบังคับตัวเองให้ใส่ใจสุขภาพ และเสริมสร้างความมั่นใจให้กับเราด้วย

บริหารเงินโบนัสให้เป็น เพื่อเงินก้อนที่ใหญ่กว่า และความสุขที่มากขึ้น

บริหารเงินโบนัสให้เป็น เพื่อเงินก้อนที่ใหญ่กว่า และความสุขที่มากขึ้น

ก็ถือว่า บทสรุปในการทำงานมาทั้งปี โบนัสก็คือเงินก้อนที่คืนทุนให้กับชีวิตเราในทางที่ดีแน่นอน สิ่งสำคัญ จึงเป็นการจัดสรร เพื่อการใช้จ่าย บริหารให้เงินก้อนนี้ กลายเป็นเงินก้อนที่ใหญ่ขึ้น และสร้างความสุขให้เราในแบบที่จัดเต็ม. ทั้ง 5 เทคนิคที่เราคุยกันไป อย่างแบ่งเงินโบนัสก้อนนี้เข้าบัญชีเงินออมก่อนเป็นอันดับแรก ตามมาด้วยการเคลียร์อะไรที่มันรั้งเราไว้ อย่างหนี้สิน แล้วใช้เงินก้อนนี้เพื่อการลงทุนที่ดี และไม่ลืมให้รางวัลกับตัวเองเพื่อสู้ต่อไป ให้ความสนใจเรื่องพัฒนาตัวเอง และดูแลสุขภาพ สิ่งเหล่านี้ ก็จะทำให้ความภาคภูมิใจจากน้ำพักน้ำแรงของเรา อย่างโบนัส ก็จะสามารถต่อยอดและงอกเงยได้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นดีๆ ในแต่ละปี ที่เราควรบริหารชีวิตให้เป็น แล้วปีนี้ ปีหน้า หรือปีไหนๆ เราก็สามารถขับเคลื่อนแรงบันดาลใจ เพื่อสานฝันด้วยโบนัสก้อนที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ กันได้อีกด้วยนั่นเอง