ชีวิตในยุคปัจจุบันที่เรียกได้ว่าเป็นยุคของเงินทองเป็นของหายากนั้น ทำให้คุณเองคงพยายามที่จะหาทุกวิธีในการประหยัดค่าใช้จ่ายลงเพื่อให้มีเงินเหลือเพิ่มมากขึ้นกันใช่ไหมคะ สภาพเศรษฐกิจที่กดดันรอบตัวนั้นล้วนเป็นตัวช่วยส่งให้คุณเกิดภาระหนี้สินขึ้นได้ทุกเมื่อหากไม่รู้จักการควบคุมตัวเองให้ดี เพราะความอยากมีอยากได้จนไม่รู้จักคำว่าพอเพียง สิ่งล่อตาล่อใจก็มีให้เห็นได้ตลอด ทุกอย่างนี้หากไร้ซึ่งการควบคุมคุมตัวเองให้ดีแล้ว แน่นอนว่าปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาก็คงจะหนีไม่พ้นชีวิตที่ต้องตกอยู่ในภาวะของการแบกรับหนี้สินที่จากการกระทำของตัวเอง
ในวันนี้เรามีบทความดีๆอย่าง “3 วิธีช่วยเงินคุณเหลือเพิ่มขึ้นได้ไม่ยาก” ที่นำมาฝากกันค่ะ ซึ่งแต่ละวิธีนั้นก็จะเป็นแนวทางในการให้คุณรู้จักการปรับเปลี่ยนและควบคุมตัวเองเพื่อให้มีเงินเหลือเพิ่มมากขึ้นค่ะ รับรองได้ว่าทำได้ไม่ยากเลยจริงๆ และที่สำคัญยังช่วยคุณให้มีเงินเหลือเพิ่มแน่นกระเป๋า และยังมีเงินเหลือเก็บได้อย่างน่าเหลือเชื่ออีกด้วย จะมีวิธีไหน อย่างไรบ้าง ขอเรามาติดตามอ่านไปพร้อมๆกันได้เลยค่ะ
ลดค่าใช้จ่ายในบ้านลง
เมื่อพูดถึงเรื่องการลดค่าใช้จ่ายในบ้านลง หลายๆคนอาจเกิดคำถามในใจได้ว่ามันจะไปลดลงได้อย่างไร ในเมื่อของที่เราใช้อุปโภคบริโภคกันไม่ว่าจะสบู่ แชมพู ยาสีฟัน น้ำยาต่างๆ น้ำมัน น้ำปลา น้ำตาล ข้าวสาร และอีกมากมายนับไม่ถ้วนทุกๆอย่างนั้นก็ต่างเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องใช้ในการดำรงชีวิตกันทั้งนั้น ไม่ซื้อไม่มีก็ไม่ได้ นั่นก็เป็นเรื่องที่จริงอยู่ค่ะที่เราไม่ซื้อไม่มีก็ไม่ได้ แต่เราสามารถลดค่าใช้จ่ายจากสิ่งเหล่านี้ลงได้ค่ะ แถมยังสามารถลดลงได้เยอะอีกด้วย โดยการเปลี่ยนการซื้อของเหล่านี้ที่เราอาจเคยต้องยึดติดกับยี่ห้อ ไปเป็นแบบที่เน้นคุณภาพ และแบบใช้ปริมาณเทียบราคามาเป็นหลักในการเลือกซื้อแทนค่ะ เช่น คุณอาจเลือกซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มที่กำลังลดราคาแทนยี่ห้อเดิมๆที่ใช้อยู่ ซึ่งการทำแบบนี้นอกจากจะช่วยคุณประหยัดไปได้แล้วนั้น อาจทำให้คุณได้เจอน้ำยาปรับผ้านุ่มคุณภาพที่ดีกว่าของเดิม แถมยังมีกลิ่นที่หอมกว่าอีกด้วยค่ะ หรือจะเป็นเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อมาเป็นแบบปริมาณเทียบราคา ซึ่งการเลือกซื้อของที่มีปริมาณมากกว่าย่อมจะราคาถูกกว่าแน่นอนเมื่อเราเทียบปริมาณกับราคาค่ะ
เมื่อของจำเป็นในบ้านมีเยอะหลายรายการจนนับไม่ถ้วนขนาดนี้ ลองคิดดูสิคะว่าหากเราใช้หลักการในการซื้อเพียงแค่ 2 หลักการที่กล่าวไปข้างต้นกับทุกๆอย่างในบ้าน จะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้เยอะขนาดไหนจริงไหมคะ ยิ่งถ้าคุณนำวิธีการพิจารณาสิ่งไหนจำป็น สิ่งไหนไม่จำเป็นมาใช้ในการเลือกซื้อของเข้าบ้านร่วมไปด้วยแล้วล่ะก็ คงแทบจะไม่ต้องบอกเลยว่าคุณจะมีเงินเหลือเพิ่มขึ้นเยอะขนาดไหน
ประหยัดพลังงาน เท่ากับประหยัดเงิน
คงจะไม่มีใครคิดจะค้านว่าการประหยัดพลังงาน เท่ากับประหยัดเงินได้จริงๆใช่ไหมคะ ค่าสาธารณูปโภคอย่างค่าน้ำ ค่าไฟนับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเลยล่ะค่ะ เพราะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากบิลค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือนนั้นเป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลย แม้ว่าจะเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้และต้องจ่าย แต่เราก็สามารถมีเงินเหลือเพิ่มขึ้นได้ไม่ยากด้วยการประหยัดการใช้พลังงานนั่นเองค่ะ เช่น เปิดปิดเครื่องปรับอากาศเท่าที่จำเป็น ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานออกเสียให้หมด เลือกอาบน้ำธรรมดาแทนการอาบน้ำอุ่นในช่วงที่อากาศไม่ได้หนาวจนเกินไป หันมาซักผ้าตอนที่ผ้าเต็มตระกร้าแล้วเท่านั้น ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นวิธีการประหยัดพลังงานที่จะช่วยให้คุณมีเงินเหลือเพิ่มขึ้นได้ไม่ยากเลยล่ะค่ะ และยังเป็นการช่วยลดภาวะโลกร้อน ช่วยสงวนพลังงานที่มีอยู่อย่างจำกัดบนโลก ให้เราได้มีพลังงานใช้ไปได้ตราบนานเท่านานกันอีกด้วยค่ะ
จำกัดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน
หากคุณอยากมีเงินเหลือเพิ่มมากขึ้น การจำกัดค่าใช้จ่ายในแต่เดือนก็นับว่าเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมากค่ะ การแบ่งเงินออกเป็นส่วนต่างๆหลังจากที่มีรายรับเข้ามา จะช่วยให้คุณมีเงินเหลือเพิ่มขึ้นได้อย่างน่าเหลือเชื่อเลยทีเดียว และวิธีการนี้ยังสามารถสร้างเงินเก็บให้กับคุณได้อีกด้วยค่ะ เช่น เมื่อคุณได้รับเงินเดือนมา สิ่งแรกที่คุณควรทำเลยนั่นคือ การหักเป็นเงินเก็บไว้อย่างน้อย 10% ของเเงินเดือนค่ะ ส่วนที่เหลือก็นำมาจัดสรรให้เป็นส่วนๆ เช่น ส่วนค่าสาธารณูปโภค ส่วนค่าของใช้จำเป็น ส่วนของค่าเดินทาง ค่ากินอยู่ประจำวัน ฯลฯ การที่คุณได้จัดสรรเงินให้เป็นส่วนๆนี้จะช่วยให้คุณใช้เงินทุกบาทได้อย่างมีวินัยภายใต้เงินที่มีอยู่จำกัด ซึ่งหากคุณทำอย่างซื่อสัตย์ต่อตัวเองแล้วนั้น ก็รับรองได้ว่าคุณจะไม่เกิดภาวะหนี้สินอย่างแน่นอนเลยล่ะค่ะ อาจใช้การทำบัญชีรายรับรายจ่ายเข้ามาช่วยด้วยก็จะยิ่งทำให้คุณมองเห็นการใช้จ่ายเงินในแต่ละส่วนของคุณได้ดียิ่งขึ้น และจะนำมาซึ่งเงินเหลือที่เพิ่มขึ้นนอกเหนือไปจากเงินเก็บที่ได้หักเก็บไว้อีกด้วยค่ะ
ทำได้.. มีเงินหลือ…
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับวิธีการช่วยให้เงินเหลือเพิ่มมากขึ้นกับ “3 วิธีช่วยเงินคุณเหลือเพิ่มขึ้นได้ไม่ยาก” ที่ได้นำมาฝากกันในวันนี้ วิธีปฏิบัติง่ายๆ ที่ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ซึ่งหัวใจที่จะช่วยทำให้คุณมีเงินเหลือเพิ่มมากขึ้นนั้น ก็เพียงแค่คุณต้องมีความตั้งใจจริงที่อยากจะมีเงินเก็บ หรือเงินเหลือเพิ่มมากขึ้นอย่างแท้จริง และยอมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของตนเองสักเล็กน้อย บวกเข้าไปกับการรักษาวินัยและความซื่อสัตย์ต่อตัวเองในเรื่องการใช้เงิน เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถมีเงินเก็บ มีเงินที่เหลือเพิ่มมากขึ้นอย่างเป็นกอบเป็นกำได้แล้วล่ะค่ะ ซึ่งแท้จริงแล้วก็ไม่จำเป็นต้องมีหลายๆวิธีปฏิบัติมาอ่านให้ต้องปวดหัวกันเลย เพียงแค่ 3 วิธีปฏิบัติง่ายๆที่เราได้แนะนำมาในวันนี้ ก็รับรองได้ว่าสามารถจะช่วยเพื่อนๆให้มีเงินเก็บ และมีเงินเหลือเพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอนแล้วค่ะ
ยุทธ์
พอช่วงต้องกักตัวอยู่ที่บ้านนี่ทำให้ได้มองอะไรๆออกหลายๆอย่างเลยค่ะ รู้สึกว่าค่าใช้จ่ายบางอย่างไม่จำเป็นเลยภายในบ้าน อย่างเช่นเราเริ่มจากการลดค่าโทรศัพท์ก่อนเลยเพราะอยู่บ้านทั้งวันนี่ก็จะสามเดือนแล้วใช้ Wifi บ้านแทนประหยัดไปตั้งหลายร้อย แล้วก็ค่าเคเบิ้ลทีวีอะไรพวกนี้เราก็ยกเลิกนะ เพราะไม่ได้ดูทีวีเลยดูจากโทรศัพท์มากกว่า
ex
ใครๆก็อยากมีเงินเหลือใช้ในแต่ละเดือนครับ ตามวิธีการที่แนะนำมาข้างต้นชอบมากเลยครับเพราะว่าไม่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน ขอสำหรับตัวผมเองแล้วไม่ค่อยคิดจุกจิกเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายมากเท่าไหร่อยากใช้อะไรก็ใช้ แต่บทความนี้ทำให้ผมเห็นว่าการที่เราพยายามคิดถึงเรื่องจุกจิก ก็สามารถช่วยเราให้ประหยัดและลดค่าใช้จ่ายได้ด้วย
น้ำตาล
ไม่ว่าครอบครัวไหนก็อยากมีเงินเหลือใช้เหมือนกันค่ะ เพราะว่าเงินถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหนึ่งในชีวิต ถ้าไม่บริหารดีๆแล้วลำบากแน่นอน บทความนี้ช่วยให้เห็นถึง 3 วิธีที่จะช่วยให้มีเงินเหลือใช้ เพื่อที่จะสามารถบริหารเงิน ให้สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิต จะสร้างพฤติกรรมที่จะช่วยให้สามารถมีเงินเหลือใช้ในแต่ละวันได้
สวนาถ
เป็นคำแนะนำที่ดีมากเลยค่ะ ถ้าทำครบทุกอย่างคงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากจริงๆ บางเรื่องดูเหมือนว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย อย่างเช่นการประหยัดพลังงานต่างๆ แต่ทีละเล็กทีละน้อยนี่แหละทำให้เราประหยัดมากขึ้นและสร้างนิสัยที่ดีกับเราด้วยค่ะ เราต้องไปลองทำให้ครบทุกอย่างบ้างละ รอดูผลกันในเดือนหน้าเลยขอบคุณผู้เขียนบทความนี้อีกครั้งค่ะ
ไมค์
สามเรื่องเป็นเรื่องที่เราควรทำกันอยู่แล้วนะครับ ถ้าอยากประหยัดค่าใช้จ่ายของเรา แต่ปัญหาคือ ใครจะซื้อของทีละมากๆ เพราะว่าการซื้อของที่ละมากๆต้องซื้อบางชิ้นยกโหลเลย ซึ่งที่จริงต้องการแค่ชิ้นเดียวเอง แสดงว่าเงินก็ต้องหมดไปกันสินค้าชิ้นั้น แต่หลายคนอาจบอกว่าก็เก็บเอาไปใช้เดือนอื่นสิ ถามหน่อยว่า ถ้ามีเยอะก็ใช้เยอะไหม
กรณ์
การจะประหยัดนะ พูดตามความจริงเลยนะ ถ้าอยู่คนเดียวก็ทำไม่ยาก แต่เมื่ออยู่กันเป็นครอบครัวก็ต้องร่วมด้วยช่วยกัน ถ้าประหยัดอยู่คนเดียวก็คงไหวมั้ง ต้องมานั่งจับเข่าคุยกันเพื่อร่วมมือกันช่วยกันประหยัดมันถึงจะได้ผล ไม่งั้นเหนื่อยตายเลยถ้าจะประหยัดคนเดียว แล้วคนอื่นๆฟุ่มเฟือยแบบนั้นผมไม่เอาด้วยครับ แล้วบทความนี้ดีมากน่าจะเอามาเป็นวิธีที่จะตกลงกับครอบครัวของเราครับ
Freedom_:D
เห็นด้วยกับ คุณกรณ์ เลยค่ะ ยิ่งบ้านไหนที่มีสมาชิกครอบครัวอยู่เยอะๆนะ แล้วไม่ค่อยได้คุยกันในเรื่องการใช้เงินมันจะปวดหัวมากจริงๆ อาจจะทำตามคำแนะนำในบทความได้ แต่ก็อาจจะไม่ประสบผลสำเร็จอย่างที่ควร….อย่างเช่น ที่บ้านเรา เราเป็นคนที่ประหยัดใช้มาก แต่คนในบ้านเป็นอะไรที่ชอบเปิดแอร์ทั้งวัน บางทีก็ชอบลืมปิดไฟปิดพัดลมบ่อยๆ แบบนี้ต้องทำยังไงดีคะ ?? เครียดเหมือนกัน .....
ต้า
ผมใช้วิธีจำกัดใช้จ่ายในแต่ละเดือนครับ เราคิดคำนวณดูว่าในแต่ละเดือนเราจะใช้เงินเท่าไหร่ เพื่อที่จะทำตามเป้าหมายและไม่ขาดสิ่งจำเป็นหรือสิ่งสำคัญไปในการต้องใช้เงินซื้อ จะช่วยให้เราสามารถมองภาพรวมของสิ่งจำเป็นที่เราต้องซื้อได้ด้วย และที่สำคัญก็คือทำให้เรามีเงินเหลือในตอนสิ้นเดือนตามที่เราคิดคำนวณไว้ และในตอนฉุกเฉินแล้วก็สามารถใช้เงินเก็บที่เหลือนั่นแหละครับต่อยอดได้
หลิม
การประหยัดพลังงานในบ้านก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยประหยัดเงินได้นะคะ พยายามอยู่เหมือนกันค่ะในการประหยัดค่าไฟ เวลาไม่ได้ใช้ไฟก็ปิดในห้องที่ไม่ได้ใช้ เวลาซักผ้าก็พยายามที่จะซักผ้าอาทิตย์ละครั้ง ไม่ซักผ้าบ่อยๆ ประหยัดทั้งน้ำและประหยัดทั้งไฟ ใช้แก๊สแทนที่จะใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ในการทำอาหาร คิดถึงวิธีที่จะช่วยให้ประหยัดได้มากที่สุดค่ะ
สิรินภณา
การหักเป็นเงินเก็บไว้อย่างน้อย 10% ของเเงินเดือน อันนี้เข้าท่าดีคะ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยคะถ้าทำได้จริงๆ เราทุกคนมีเงินเก็บแน่นอนคะ อย่าง ถ้าเราเก็บได้อย่างน้อยเดือนละ 1,500 บาท เราก็สมารถที่จะมีเงินเก็บอย่างน้อยๆ ก็ 15,000 บาท ต่อปีแล้วคะ นี่ถ้าเก็บไปเรื่อยๆ สัก10-20ปี เงินก็จะเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ความคิดนี้เข้าท่าดีคะ