ความขี้ี้เกียจทางการเงินก่อผลดีหรือเสีย?

เมื่อพิจารณาความขี้เกียจทางการเงินจริงๆแล้วก็ไม่สามารถเอาเปรียบเทียบได้ร้อยเปอร์เซ็นต์กับความขี้เกียจอื่นๆ เพราะความขี้เกียจทางการเงินนั้นสามารถก่อผลที่ดีได้ด้วยไม่เพียงแค่ผลเสียเท่านั้นผลดีนั่นคือ คุณจะมีเงินเหลือมากกว่าคนที่ขยันทางการเงินก็ได้เพราะไม่ค่อยใช้จ่ายหรือไม่เป็นหนี้นั่นเอง

ความขี้เกียจทางการเงินสามารถทำให้รวยขึ้นได้ เป็นอย่างนั้นได้โดยที่คุณไม่ค่อยเคลื่อนไหวทางการเงินมากนักแต่อาจจะมีการลงทุนไว้ในกองทุนรวมสักอย่าง หรือมีการฝากเงินแบบบัญชีเงินฝากประจำเอาไว้และเป็นความเคลื่อนไหวทางการเงินเพียงแค่ครั้งเดียวและปล่อยให้เวลาผ่านไปในระยะยาวพอมาดูอีกทีคุณก็มีเงินมากมายเป็นก้อนใหญ่แล้วนั่นเองค่ะ ดังนั้นความขี้เกียจทางการเงินโดยมีการทำธุรกรรมแบบนี้ก่อผลที่ดีมากๆเลย

ข้อดีของการมีความเคลื่อนไหวทางการเงินน้อย คือคุณไม่ได้เอาเงินไปซื้อหรือใช้จ่ายอะไรมากมายทำให้เงินยังคงอยู่ไม่หายไปไหนและอาจมีเพิ่มขึ้นทุกเดือนเพราะคุณยังคงมีรายได้เข้ามาเป็นประจำ แต่ข้อเสียก็คือคุณอาจเสียโอกาสที่จะได้เงินเพิ่มขึ้นเพราะคุณเก็บไว้ในบัญชีปกติเฉยๆไม่ได้เอาไปฝากบัญชีประจำหรือไม่ได้เอาไปลงทุนอะไรเลย ลองดูเรื่องพอร์ตการลงทุนนะครับ

ถ้าไม่ค่อยเคลื่อนไหวทางการเงินมันส่งผลที่ตอนที่เราไปขอทำบัตรเครดิคหรือขอสินเชื่อต่างๆจากทางธนาคารครับ เพราะเขาจะตรวจสอบการเคลื่อนไหวทางการเงินของเราครับ บอกเลยครับสำหรับใครที่มีบัญชีทางการเงินที่ค่อนข้างนิ่งๆโอกาสที่จะได้รับ การอนุมัติต่างๆจากทางธนาคารจะลำบากมากครับ เพราะเขาไม่แน่ใจกับสภาพทางการเงินของเราครับ

ก็ขึ้นอยู่กับว่าการที่เงินเราไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวทางการเงิน นั่นอาจจะเป็นข้อดีเพราะว่าเราไม่จำเป็นต้องใช้เงินที่อยู่ตรงนั้นอาจจะเป็นเงินเยนที่เราเก็บไว้ซึ่งดีค่ะ แต่ถ้าเราเคลื่อนไหวทางการเงินบ่อยๆก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นการเอาเงินเข้าหรือเงินออก ถ้าเงินออกบ่อยๆที่ไม่ใช่กับการลงทุน ไม่ใช่กับการใช้สิ่งจำเป็น อันนั้นเราคิดว่าน่าจะเริ่มส่งผลเสียต่อตัวเจ้าของเองแล้วนะคะ

ก็ผลที่เหมือนกันนะครับ เพราะว่าการที่เราขี้เกียจก็มักจะทำให้เราไม่ค่อยได้ใช้เงิน เก็บเงินอย่างเดียวโดยถ้าเป็นนักลงทุนหรือปล่อยให้เงินทำงานแทน ก็รับเงินอย่างเดียวครับ โดยที่ไม่ค่อยสนใจเกี่ยวกับการใช้เงิน ทำให้สามารถที่จะเอาเงินไปลงทุนทำอะไรอื่นๆได้โดยที่ตัวเองก็นอนอยู่ที่บ้านสบายๆ ผมคิดว่าถ้ามีเงินเยอะขนาดนั้นก็สบายแล้วล่ะครับ

"ความขี้เกียจทางการเงิน" แปลกดีนะครับมีคำนี้ด้วย เคยได้ยินอยู่ ทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อเสียแหละ อย่าง ความขี้เกียจทางการเงิน ข้อดีก็คือ เงินไม่หายไปไหนเพราะคุณขี้เกียจใช้เงินจึงไม่เอาเงินไปซื้อโน่นซื้อนี่ ข้อเสียก็คือ เงินที่มีอยู่ก็มีเหมือนเดิมไม่เพิ่มขึ้นมาเพราะคุณขี้เกียจเอาเงินไปลงทุนเพื่อทำกำไรเพิ่มครับ

ถ้าขี้เกียจ อะไรๆก็ส่งผลที่ไม่ดีค่ะ ยิ่งสมัยนี้เป็นสมัยอิเล็ดทรอนิกส์ ใช้เงินแบบออนไลน์กัน ถ้าขี้เกียจไม่ยอมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆในการทำธุรกรรมทางการเงิน ก็อาจไม่ทันบ้านเมืองและจะไม่ค่อยได้รับสิทธิพิเศษอะไร และจะน่าเป็นห่วงในอนาคต เพราะว่าตอนนี้หลายองค์การเริ่มทำธุรกิจโดยมีธุรกรรมการเงินเป็นศูนย์กลาง ดังนั้นถ้าไม่ขยันเรียนรู้หรือลองทำดู ก็น่าจะลำบากค่ะ

ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียนั่นแหละค่ะ คนที่ไม่ค่อยขยันที่จะลงทุนหรือวางแผนขยับขยายเงินของตัวเอง ก็มีผลดีนะครับก็คือไม่ต้องไปประสบกับความเสี่ยงที่เงินที่ทำการลงทุนจะหมดไป มีเงินเท่าไหร่ก็ใช้เพียงเท่านั้น เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ไม่ล้มละลายหรือว่าเป็นคนขาดเงิน เพราะว่าใช้เงินที่ตัวเองมีอยู่ไม่มีความเสี่ยงที่เงินนั้นจะหมดไปถ้าวางแผนดีๆนะคะ