ถ้าสนใจอยากทำประกันชีวิตของเมืองไทย แฮปปี รีเทิร์น 99/7 ค่าเบี้ยที่ต้องจ่ายเมื่อเทียบกับประกันอื่นๆเป็นยังไงบ้าง

ประกันชีวิตดีขนาดนี้เบี้ยแพงขนาดนี้ก็คงต้องให้ความคุ้มครอง 100% แล้วล่ะค่ะน้อยกว่านั้นคงไม่ได้มีคนสนใจประกันแฮปปี้รีเทิร์น 99/7 ตัวนี้เยอะเหมือนกันนะคะแต่ก็มีน้อยคนที่สามารถซื้อประกันนี้ได้สำเร็จเบี้ยประกันเขามันแพงจริงๆเป็นแสนถึงแม้จะมีหลายแบบแผนให้เลือกแต่ก็หลักแสนทั้งนั้นน่ะ ใครไหวก็ไปก่อนเลยละกัน

ถึงจะลดหย่อนภาษีได้ก็จริง แต่ถ้าลงทุนซื้อประกันตัวนี้เพื่อผลตอบแทนเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีน่าจะยังไม่ค่อยคุ้มนะคะ แต่ถ้าคิดจะซื้อเพื่อลงทุนรับความคุ้มครองที่คุ้มคุ้มๆก็พอจะไหวอยู่ จะเอาเบี้ยประกันกับการลดหย่อนภาษีมาเปรียบเทียบกันมันเทียบไม่ได้จริงๆต้องดูที่ความคุ้มครองดีกว่าสำหรับประกันตัวนี้ ถ้าอยากลงทุนลงทุนอย่างอื่นเถอะ

เป็นความคิดที่ผิดมากๆเลยนะ คิดจะซื้อประกันชีวิตแล้ววางแผนว่าจะเวนคืนเนี่ยมีแต่เขาซื้อประกันชีวิตเพื่อที่อยากจะได้ความคุ้มครองกันทั้งนั้นการคิดที่จะซื้อเพื่อเอามาเวนคืนมันเป็นความคิดที่ผิดตรงที่ว่ามันไม่ได้กำไรอะไรเลยมีแต่ขาดทุนล้วนๆ บางครั้งการฟังเพื่อนๆพูดถึงเรื่องประกันชีวิตก็ต้องฟังหูไว้หูบ้างนะค ฟังแล้วก็ต้องหาข้อมูลเองด้วยอย่าไปเชื่อคนอื่นไปซะหมด

ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าประกันตัวนี้สามารถทำได้ให้กับคนในครอบครัวโดยที่เขาไม่ต้องรับรู้ได้หรือเปล่า เพราะว่าการทำประกันบางครั้งเนี่ยบริษัทประกันก็มีเงื่อนไขว่าผู้เอาประกันจะต้องมาเซ็นรับรองเซ็นเอกสารนู่นนี่นั่นเยอะแยะมากมาย แต่ถ้าสามารถทำได้โดยที่พ่อคนไม่รู้ก็คงจะเป็นไปตามที่คุณต้องการสนใจอยากนะครับแต่ไม่เข้าใจทำไมถึงไม่อยากให้ท่านรู้ด้วย

เมื่อก่อนทั้งผมและใช้อาจจะวางแผนอนาคตหรือคิดถึงอนาคตค่อยๆเอาไว้ก่อนแต่ผมว่าเดี๋ยวนี้ไม่ทันจะให้คิดถึงอนาคตหรอกครับเอาตัวเองให้รอดไปแต่ละวันก็ยากจะตายละ ถึงแม้ประกันตัวนี้ทำแล้วจะให้ความคุ้มครองยาวๆไปในอนาคตอันไกลโพ้น แต่เบี้ยประกันที่ต้องจ่ายแพงขนาดนี้ ไม่รู้ว่าจะจ่ายไหวหรือเปล่า ไม่ทันจะได้คิดถึงอนาคตคิดถึงค่าใช้จ่ายในแต่ละวันก่อนละกัน

ถ้าสำหรับคนรวยมหาเศรษฐีมีมรดกพันล้านก็ไม่แพงค่ะแต่ถ้าสำหรับคนหาเช้ากินค่ำคนธรรมดาหรือแม้แต่คนทำงานออฟฟิศรายได้ 30,000 หรือ 50,000 บาทต่อเดือนถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจจะพอถูๆไถๆหรือเอาเงินออมมาซื้อประกันที่มีเบี้ยแทนแบบนี้ได้บ้างแต่ปัจจุบันนี้น่าจะไม่มีใครจ่ายไหวหรอกนะคะแม้ก็มีเงินเดือนมากขนาดไหน เพราะไม่รู้จะตกงานเมื่อไหร่

@คณึง จริงอย่างที่คุณว่านะคะ บางครั้งเราเห็นในกรมธรรม์ว่าคุ้มครองเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ก็อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดเสมอไป ภายใต้ความคุ้มครองนั้นก็มีเงื่อนไขต่างๆ เพื่อความแน่ใจเราน่าจะถาม พนักงานขายประกัน ตรงๆเลยว่าถ้ากรณีน้ำท่วมถ้าคุ้มครองจะคุ้มครองในกรณีไหนบ้าง เราจะได้ไม่ต้องคิดเองเออเองแล้วเข้าใจผิดทีหลัง

@อดุลย์ ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าไม่ใช่ประกันชั้น 2 ทุกๆบริษัทหรือทุกๆคนมาทันใช่ไหมที่คุ้มครองกรณีรถหาย คุณจะต้องดูกรมธรรม์และความคุ้มครองอีกทีหนึ่ง แล้วคนอื่นที่ทำประกันชั้น 2 กรมธรรม์ของคุณคุ้มครองกรณีรถหายไหมคะ? อยากรู้ว่าส่วนมากเขาคุ้มครองไหม? หรือว่าเป็นส่วนน้อยเท่านั้นที่ให้ความคุ้มครองถ้ารถหาย

@มานพ น้ำท่วมบ้านเนี่ยเสียหายเยอะจริงๆนะคะ ที่พูดแบบนี้ได้เพราะเจอกับตัวเองมาแล้ว จริงๆบ้านเราก็ไม่ได้อยู่ใกล้แม่น้ำอะไร แต่ก็อยู่ในพื้นที่ต่ำ พอเกิดน้ำท่วมน้ำก็ไหลมาถึงที่บ้าน ท่วมไปเกือบถึงหลังคาเหมือนกันค่ะ ก็เลยตอนนี้ทำประกันภัยบ้านที่คุ้มครองเรื่องน้ำท่วมไปแล้วเพราะ ลำบากมากจริงๆ แต่ตอนน้ำท่วมคราวที่แล้วบ้านติดกันเขามีประกัน เราก็เลยเห็นว่ามันจำเป็น

ถึงแม้เกิดแผ่นดินไหวแต่บ้านไม่ได้รับความเสียหายอะไรก็ไม่รู้จะเคลมประกันไปทำไมนะคะ@หนุ่ม เรื่องแบบนี้ไม่ต้องบอกก็รู้อยู่แล้วว่าประกันไม่น่าจะจ่ายอะไรให้ได้เพราะบ้านไม่ได้เสียหาย แต่ที่จขกท. ถาม หมายถึงกรณีที่บ้านเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวมากกว่า สรุปแล้วประกันภัยบ้านคุ้มครองกรณีแผ่นดินไหวไหมคะ? มีข้อยกเว้นอะไรบ้าง?

@มานะ อ๋อเป็นอย่างนี้นี่เอง ก็สงสัยอยู่เหมือนกันค่ะถ้าเรายังผ่อนบ้านกับธนาคารอยู่ก็คือบ้านยังไม่ได้เป็นของเราเต็มที่ถ้าเราทำประกันขึ้นมาใครจะรับผลประโยชน์ ขอบคุณที่อธิบายนะคะตอนนี้หายสงสัยแล้ว ก็คือธนาคารก็จะรับผิดชอบบ้านหลังนั้นอยู่ในระหว่างที่เราผ่อนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับบ้านก็เหมือนมีประกันอยู่แล้ว ก็ดีค่ะ

@มานะ ก่อนหน้านี้ก็ยังไม่เคยมีประกันภัยบ้านเหมือนกันค่ะ เพราะว่ายังไม่พร้อม แต่ถ้าคุณอยากมีประกันภัยให้บ้านของคุณจริงๆ ไม่ต้องรอให้พร้อมอะไรมากมายก็ได้นะคะ ลองหาข้อมูลดูก่อน มีประกันภัยบ้านที่เรียกเบาๆก็มีนะ แต่ทำแล้วมันจะคุ้มจริงๆ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา เพราะว่าความเสียหายที่เกิดกับบ้านเนี่ย ทำให้เราหมดตัวได้เลยนะ