คนละช่วงอายุกันทำไมราคาของเบี้ยประกันภัยเท่ากันนะครับ สำหรับประกันสุขภาพทิพยจัดเต็ม 15,000

@จขกท. ก็ถามแปลกนะครับ ถ้าใครเริ่มแบบแผนเดียวกันจ่ายเบี้ยเท่ากันก็ต้องได้รับวงเงินคุ้มครองเท่ากันอยู่แล้ว ประกันตัวนี้ทิพยจัดเต็มผมเคยอ่านนะ เงื่อนไขของเขาไม่มีอะไรมากเนี่ยอ่านมานานแล้วก็ยังจำได้ เขามีแค่ 2 แบบแผนให้เลือกเท่านั้นนะครับเป็นทิพยจัดเต็ม 15,000 25,000 บาท อันนี้น่าจะหมายถึงเบี้ยประกันหรือเปล่า ข้อมูลตรงนี้เท่านั้นนะครับที่ทำไม่ได้ ส่วนเรื่องความคุ้มครองเขาคุ้มครองค่าใช้จ่ายค่ารักษาตามจริงทั้ง IPD และ opd ครับ

@JK นี่ผมมาเห็นด้วยกับ Comment ของคุณอีกแล้วครับ ถูกต้องเลยครับคือไม่ใช่ถูกแบบแผนนะไม่ว่าประกันสุขภาพหรือประกันชีวิตหรือประกันแบบไหนก็ตาม มันขึ้นอยู่กับเงื่อนไข ต้องดูให้ดีๆครับอย่าไปวางใจว่าเออเราซื้อประกันตัวนี้แล้วได้ลดหย่อนภาษีแน่นอน เรื่องลดหย่อนภาษีเมื่อซื้อประกันแล้วอยากได้จริงๆก็ต้องถามให้แน่นอนนะครับว่ามีเงื่อนไขตรงนี้ไหม

ชอบนะ หลายๆคอมเม้นคือตอบตรงคำถามแล้วก็ให้ข้อมูลที่ดีเลยล่ะ แต่ก็นั่นแหละถึงจะถามไปก่อนว่าโรงพยาบาลนั้นโรงพยาบาลนี้เข้าแล้วต้องสำรองจ่ายหรือเปล่า แต่ถ้าเกิดเรื่องฉุกเฉินจริงๆนะเราไม่มีเวลามาเลือกหรอกโรงพยาบาลไหนอยู่ใกล้ที่สุดก็จำเป็นต้องเข้าแล้วล่ะค่ะ แล้วก็ค่อยไปว่ากันอีกทีว่าต้องสำรองจ่ายหรือว่าประกันจ่ายให้เลย

ยังไงก็หวังว่าจขกท จะไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มนะ แต่ดูทรงแล้ว ก็มีโอกาสที่จะต้องเสียเงินเพิ่ม ดูเหมือนเขาเน้นเรื่อง ไอพีดีหรือเปล่า แล้วก็เน้นเรื่องสุขภาพไหม? ใครรู้เงื่อนไขรายละเอียดชัดเจนกว่านี้ก็บอกเงื่อนไขผลประโยชน์ของประกันแบบแผนนี้ด้วยนะคะ ยังไงก็ขอให้จขกทหายเร็วๆ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อค่ะต้องทำใจ แต่ก็ยังดีนะที่มีประกัน

เหมือนที่หลายๆคอมเม้นบอกมาแล้วตอนต้นเลย สาเหตุน่าจะมาจากอายุ น่าจะมีส่วนมากเวลาที่ทำให้จ่ายเบี้ยประกันไม่เท่ากัน ก็ต้องดูเงื่อนไขของประกันนี้นะครับว่าปรับขึ้นตามอายุหรือเปล่า คุณเองก็เหมือนกันถึงแม้ปีนี้จ่ายเบี้ยเท่านี้ ปีต่อต่อไปเบี้ยประกัน อาจจะเพิ่มขึ้นก็ได้นะครับ เดาเลยว่าประกันแบบแผนนี้ต้องเป็นเบี้ยปรับขึ้นตามอายุแน่ๆ

@ราเมนราเมน ก็จริงนะคะ ถ้าเลือกได้ไม่มีใครอยากเข้าโรงพยาบาลที่จะต้องสำรองจ่ายหรอ แต่บางครั้งน้องมันฉุกเฉิน ถ้าเกิดฉุกเฉินขึ้นมาต้องเข้ารับการรักษาโดนๆใครจะมามัวเลือกโรงพยาบาลล่ะ ที่ไหนใกล้ที่สุดก็ต้องไปที่นั่นแหละจริงนะ ก็เลยศึกษาข้อมูลไว้ก่อนก็เป็นเรื่องที่ดีค่ะ ว่าถ้าสมมุติเข้าโรงพยาบาลที่ต้องสำรองจ่ายสุดท้ายแล้วต้องทำยังไงต่อ

ถ้าเจ้าของกระทู้จะสนใจประกันสุขภาพแฟมิลี่ แคร์ ของเอฟดับบลิวดี ขนาดนี้ ผมว่าติดต่อไปทางบริษัทเพื่อคุยกับเจ้าหน้าที่เลยดีกว่าครับ ไม่ได้ประชดนะ แต่รายละเอียดพวกนี้ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทจริงๆเท่านั้นอะถึงจะรู้ เพราะว่าจะต้องมีเงื่อนไขต่างๆนานาอีกแน่นอนครับ กว่าบริษัทจะจ่ายเงินให้ต้องมีเงื่อนไขอยู่แล้ว

มีคนขายประกันโทรมาบ่อยมากเลยเหรอครับ โทรมาอาทิตย์ละกี่ครั้ง เจ้าของกระทู้ถึงกับมาโพสต์ถามว่าจะทำอย่างไรกับคนที่โทรมาขายประกันบ่อยๆ เคยมีคนโทรมาขายประกันกับผมเหมือนกันนะแต่ไม่ได้โทรมาบ่อยอะไรมากมาย เวลาโทรมาผมบอกว่าไม่ว่าง เขาก็วางสายนะ แต่ไม่แน่อาจจะเจอคนที่โทรมาไม่เหมือนกัน คุณอาจเจอคนที่ทำให้ไม่สบายใจจริงๆ

ที่ว่าการทำประกันสำหรับคนพิการจะแบ่งออกเป็นสามกลุ่มอย่างที่มีคอมเมนต์นึงมาบอก หมายความว่ายังไงเหรอครับ เมื่อแบ่งกลุ่มแล้วจะรู้ว่าสามารถทำประกันอะไรได้บ้าง..อย่างนั้นหรือเปล่า เพราะว่าประกันมีหลายประเภท ซึ่งกำหนดเรื่องเงื่อนไขไว้แล้วว่าบุคคลที่มีโรคประจำตัวหรือมีปัญหาทางด้านร่างกายบางอย่างอาจไม่สามารถทำประกันฉบับนั้นได้

ไม่รู้ว่าเจ้าของกระทู้มีประกันชีวิตแล้วหรือยัง เห็นถามถึงแต่ประกันสุขภาพ ถ้าคุณมีประกันชีวิตแล้ว ก็ซื้อประกันสุขภาพเพิ่มเติมได้เลยนี่คะ อยากได้ความคุ้มครองเรื่องอะไรก็บอกคนขายประกันไป ที่น่าสนใจนะคะ เราว่าเป็นเรื่องเงินชดเชยเมื่อนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือไม่ก็ค่าห้องพัก อันนี้แล้วแต่ความต้องการและความจำเป็นของแต่ละคนค่ะ

เรื่องการลงชื่อผูรับผลประโยชน์จากเงินกรมธรรม์ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยนะครับ เมื่อก่อนผมคิดว่า ใส่ชื่อคนที่บ้านน่ะแหละ คนในครอบครัวน่ะ ใครก็ได้ แต่ถ้าผู้รับผลประโยชน์เป็นลูกของผู้ถือกรมธรรม์เอง ต้องคิดเยอะกว่านั้นมากจริงๆ ยิ่งลูกอายุยังน้อย ยิ่งต้องคิดว่าจะทำยังไงให้ลูกได้ใช้เงินจากประกันชีวิตของเรา ไม่ใช่คนอื่นเอาไปใช้

เข้าใจครับว่าต้องการทราบข้อมูลก่อน ก็ดีที่มาถามคนที่รู้เอาไว้ จะได้ไปเตรียมตัวในภายหลังได้ ถึงยังไงเรื่องพวกนี้ สักวันก็ต้องเกิดขึ้นแม้ว่าไม่มีใครอยากให้มันเกิดก็ตาม แต่เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆอาจตกใจหรือลืมไปแล้วว่าต้องเตรียมเอกสารหรือต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ผู้รับผลประโยชน์ติดต่อกับตัวแทนประกันของผู้เอาประกันภัยเลยครับ