เตรียมเอกสารวุ่นวายไม่ฆ่าในการเครมประกันในแต่ละครั้งสำหรับ แผนโอปอล 2 เอ็ทน่าประกันภัย

สามารถสมัครได้คะ แค่ถ้าเรื่อวการคุ้มครอง หนูว่าพี่ต้อวไปเชคกับแผนกีะนตัวอื่นๆด้วยนะคะ เพราะว่าการคุ้มครองของตัวนี้เนี๊ยะ ก็จะใกล้เคียงกับหลายเจ้าในตลาดคะ แต่ถ้าให้เราแนะนะ อยากให้กลับไปดูประกันสุขภาพของเด็ก่อนคะ เพราะว่าลูกอายุเท่านี้ มีหลายอย่างที่เป็นโรคที่เกิดจากเด็ก มันน่าสนใจมากกว่าคะ แต่ไม่ได้บังคับพี่นะคะ

ที่ไม่คุ้มครองเลยน่าจะเป็นเรื่องของค่ารักษาเกี่ยวกับอุบัติเหตุนะคะถ้าคุณต้องการการคุ้มครองในการรักษาต้องไปซื้อประกันส่วนบุคคลตัวนี้เพิ่มเอานะะเราเองก็ซื้อมานะคะ ค่าเบี้ยประกันที่เราจ่าย เราจ่ายที่ 2500บาทคะ แต่การคุ้มครองค่ารักษา เราได้มาที่5หมื่นบาทคะ ค่ารักษาที่เขาจ่ายนี้สามารถรักษาได้ทุกอุบัติเหตุเลยนะคะ

พี่คะ หนูเคยไปคุยกับตัวแืนประกันในเรื่องนี้นะคะ ทางตัวแทนเขาบอกว่า จริงๆแล้วตามสัญญาบอกว่ามีระยะรอคอยที่ 90วันก็จริง แต่ถ้าเรา เจ็บป่วยแบบเล็กๆน้อย อย่าง ท้องเสียหรือว่าไข้หวัดอะไรแบบนี้นะคะ สามารถไปคุยกับทางโรงพยาบาลได้คะ ส่วนเรื่องค่ารักษา เป็นไปได้มากกว่าคะที่ทาวประกันจะจ่ายการคุ้มครองให้คะถิอว่าไม่ใช่เจ็บป่วยร้ายแรงคะ

เอาใจไปเลยคะ พี่ จันจิรา ปกติแล้วเวลาที่เราจะซื้อประกันก็มักจะดูว่าคุ้มครองอะไรอย่างไรบ้าง แต่ลืมเชคคะว่าที่บ้านโรงพยาบาลที่เข้ารักษา มีการคิดค่ารักษาอย่างไรบ้าง อย่างที่บ้านของหนู ถ้าค่าห้อง ก็จะอยู่ที่ 4-5พันบาทคะ ประกันตัวนี้ คุ้มครองไม่ถึง แน่นอนเลยคะ เวลาจะซื้อประกัน พวกนนี้ ต้อง เชคเยอะมากเลยนะคะ

ใช่แล้วคะ เป็นประกันที่คุ้มครองแค่ในบ้านเราคะ ถ้าอยากคุ้มครอบเมื่อเดินทางไปต่างประเทศด้วย ซื้อ แอตต้าแคร์เลยคะ แต่เอาจริงๆนะคะ เราเห็นคนที่เดินทางไปต่างประเทศส่วนใหญ่เขาจะซื้อประกันการเดินทางเอาไว้ด้วยนะคะ ซึ่งเราว่าการมีประกันเดินทางค่อนข้างที่จะสำคัญมากกว่านะคะ มีการคุ้มครองหลายอย่างที่น่าสนใจเลยนะคะ

ความแตกต่างที่ว่าคือเรื่องการคุ้มครอง เหรอครับ ถ้าเป็นมนส่วนนี้ไม่แตกต่างครับ ยังคุ้มครองทุกอย่างเหมือนกับแผนการคุ้มครองที่1ครับ แต่ที่ต่างจากการคุ้มครองแผนที่1และ3 คือ วงเงินมากกว่าแผนที่1ครับ แต่ก็ยังสู้กับวงเงินคุ้มครองค่ารักษาของแผนการคุ้มครองที่3ไม่ได้ครับ เพราะว่าต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลยนะครับ

เรื่องการลงชื่อผูรับผลประโยชน์จากเงินกรมธรรม์ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยนะครับ เมื่อก่อนผมคิดว่า ใส่ชื่อคนที่บ้านน่ะแหละ คนในครอบครัวน่ะ ใครก็ได้ แต่ถ้าผู้รับผลประโยชน์เป็นลูกของผู้ถือกรมธรรม์เอง ต้องคิดเยอะกว่านั้นมากจริงๆ ยิ่งลูกอายุยังน้อย ยิ่งต้องคิดว่าจะทำยังไงให้ลูกได้ใช้เงินจากประกันชีวิตของเรา ไม่ใช่คนอื่นเอาไปใช้

ที่เจ้าของกระทู้ถามมาเนี่ย เป็นกรมธรรม์ของตัวเองหรือว่าของใครคะ เรื่องอายุของผู้ถือกรรมธรม์ ตัวคนที่เป็นผู้ถือกรมธรรม์ต้องระบุอายุของตัวเองไม่ใช่เหรอ ตอนที่จะซื้อกรมธรรม์น่ะ หรือถ้าเป็นคนอื่นซื้อให้ ก่อนจะซื้อต้องทำให้แน่ใจว่าจะกรอกข้อมูลส่วนตัวของคนๆนั้นถูกต้องหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นจะมีปัญหาในภายหลัง

ค่าประกันรถยนต์ที่ติดกับรถมามันแพงกว่าประกันรถยนต์อื่นมากเลยเหรอคะ ปกติ จะมีเงื่อนไขอย่างนี้กันอยู่แล้วมั้ย เงื่อนไขที่เจ้าของกระทู้บอกว่าโดนบังคับซื้อประกันรถยนต์มาเนี่ยอะค่ะ ถ้ามันแพงมากเกินไปจริงๆ คนซื้อไม่สามารถปฏิเสธได้เลยเหรอคะ อย่างนี้ก็แย่เลย แล้วเจ้าของกระทู้เปลี่ยนประกันรถยนต์ได้แล้วหรือยังคะ

เข้าใจครับว่าต้องการทราบข้อมูลก่อน ก็ดีที่มาถามคนที่รู้เอาไว้ จะได้ไปเตรียมตัวในภายหลังได้ ถึงยังไงเรื่องพวกนี้ สักวันก็ต้องเกิดขึ้นแม้ว่าไม่มีใครอยากให้มันเกิดก็ตาม แต่เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆอาจตกใจหรือลืมไปแล้วว่าต้องเตรียมเอกสารหรือต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ผู้รับผลประโยชน์ติดต่อกับตัวแทนประกันของผู้เอาประกันภัยเลยครับ

ไม่รู้ว่าเจ้าของกระทู้มีประกันชีวิตแล้วหรือยัง เห็นถามถึงแต่ประกันสุขภาพ ถ้าคุณมีประกันชีวิตแล้ว ก็ซื้อประกันสุขภาพเพิ่มเติมได้เลยนี่คะ อยากได้ความคุ้มครองเรื่องอะไรก็บอกคนขายประกันไป ที่น่าสนใจนะคะ เราว่าเป็นเรื่องเงินชดเชยเมื่อนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือไม่ก็ค่าห้องพัก อันนี้แล้วแต่ความต้องการและความจำเป็นของแต่ละคนค่ะ

ก็ต้องดูก่อนอะว่าที่คุณเข้าไปโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาล จากอาการปวดเข่า ปวดหลัง หรือปวดเอว อันเนื่องมาจากสาเหตุอะไร เกิดอุบัติเหตุมั้ยหรือว่าเป็นอาการจากทางร่างกายหรือโรคที่คุณมีอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้เข้ารับการรักษาเพราะเกิดอุบัติเหตุ ต่อให้คุณมีประกันอุบัติเหตุ บริษัทประกันเขาไม่จ่ายค่าสินไหมหรือค่ารักษาให้หรอกค่ะ