GenSave 20 Plus (แผนออมทรัพย์สุดคุ้ม)

@อยู่วิทยา อันนี้เห็นด้วยนะคะ ไม่ต้องดูหรอกว่าคนอื่นนิยมไหม ประกันชีวิตบางแบบแผน อาจจะเห็นว่าคนใช้กันเยอะซื้อกันเยอะ บางทีมันอาจจะไม่ได้ตรงกับความเสี่ยงหรือสภาพการณ์ของคุณก็ได้นะคะ ก็เลยประกันแบบแผนไหนก็ไม่สำคัญว่านิยมมากน้อยแค่ไหน สำคัญอยู่ที่ว่ามันตรงกับรายได้และความเสี่ยงของคุณไหม ตรงกับความต้องการหรือเปล่า?

เห็น จขกท ถามว่าต้องทำยังไง ก็คงต้องติดต่อบริษัทประกันค่ะ อยากจะปรับเปลี่ยนหรือจะดำเนินการอะไรก็ตามก็ต้องทำอย่างนั้น แล้วดีซะอีกเพราะว่าจะได้ปรึกษาตัวแทนประกันหรือบริษัทประกันไปด้วยเลย ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไง มีปัญหาเรื่องการจ่ายเบี้ยยังไงบ้าง บริษัทประกันก็คงจะชี้แนะวิธีที่ดีที่สุดให้กับจขกท. นะคะ

@Pool ก็ใช่เลยครับ เป็นคำแนะนำที่ดีเลย เวลาจะดำเนินเรื่องอะไรสักอย่างหลายคนชอบกลัวที่จะปรึกษาบริษัทประกันหรือตัวแทนประกัน แต่ผมว่าไม่ต้องกลัวเลยนะครับ ตัวแทนประกันพร้อมจะช่วยเหลือผู้เอาประกันหรือว่าลูกค้าของเขาอยู่แล้วให้สามารถได้ผลประโยชน์มากที่สุดเพราะมันก็เป็นประโยชน์สำหรับบริษัทประกันเองด้วย ถ้าลูกค้าสามารถจ่ายเบี้ยต่อได้ไม่ยกเลิก มันก็ดีกว่า

หลายๆคอมเม้นก็แนะนำดีนะครับ ผมก็อยากจะรู้เหมือนที่เจ้าของกระทู้ถามมาเหมือนกัน คือก็คิดเอาไว้ก่อนนะครับอันนี้ส่วนตัวอยากซื้อให้ตัวเองนะประกันชีวิตยังไม่เคยมีเลย ก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเราส่งเบี้ยไม่ไหวแต่มีวิธีอะไรบ้าง สรุปก็มีทางออกมีหลายวิธีเหมือนกันนะ รู้แบบนี้ก็ไม่ค่อยจะกลัวการซื้อประกันสักเท่าไหร่แล้วล่ะ

สามีคนดุขนาดนั้นเลยหรอคะ? ถึงกับจะคุยจะอธิบายให้ฟังกันไม่ได้เลยว่าเผลอไปซื้อประกันมา ก็จริงๆไปแล้วก็ยกเลิกก็ได้ค่ะ ถ้าคุณเองไม่พอใจกับเงื่อนไขหรือถ้าสามีรู้แล้วสามีไม่ชอบเงื่อนไขของประกันตัวนี้หรือดูแล้วว่าเบี้ยแพงเกินไป ก็คงยกเลิกได้นะคะถ้าคุณเพิ่งซื้อมาได้ไม่นาน ถึงจะซื้อนานแล้วก็ถ้าอยากจะยกเลิกก็ทำได้หมดแหละ

@Mikky คุณได้อ่านคอมเมนต์ของ@วรรณลัย กับ@น้องหนู ที่แนะนำคุณไปแล้วมั้ยครับ นั่นเป็นทางออกที่ดีแล้วนะ ผมแปลกใจกับตัวแทนประกันของคุณมากกว่า จริงครับที่เมื่อถึงเวลาครบกำหนดของการจ่ายค่าเบี้ยประกัน ผู้เอาประกันภัยก็ต้องจ่ายไม่งั้นกรมธรรม์จะถูกยกเลิก แต่ก็ควรจะมีทางเลือกให้กับลูกค้าด้วย ยิ่งช่วงนี้เงินหายากนะครับ

เราคิดว่าเอาที่คุณสะดวกดีกว่าค่ะ ลองเลือกดูว่ามันมีประกันสุขภาพแบบที่ไม่ต้องแพงไหม เพราะว่าจริงๆแล้วประกันสุขภาพเดี๋ยวนี้ก็เป็นอะไรที่จำเป็นเหมือนกันนะ ถ้าเกิดเจ็บป่วยขึ้นมาแล้วเราต้องออกค่าใช้จ่ายเองเราว่ามันก็จะแพงอยู่นะ ยังไงทำไว้ก็ดีเหมือนกันนะคะ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของจขกทนะคะ เราตัดสินใจแทนไม่ได้

คุ้มธนกิจ 99 (1) [99] ความคุ้มครองยาวกว่า ทุนประกันมากกว่า เบี้ยก็น่าจะแพงกว่า แต่มีเงินคืนให้ปีละ 1% ส่วน GenSave 20 Plus ไม่มีเงินคืนให้ จะได้คืนก็คือปีที่ 21 ขึ้นไป แต่อยู่ครบสัญญาได้รับเงินคืน 150% เรารู้รายละเอียดประมาณนี้มาค่ะแต่ว่าตัวไหนดีกว่ากันต้องดูว่าคุณอยากได้ความคุ้มครองยาวไหมหรือว่าทุนประกันยังไง ที่สำคัญเลยจ่ายเบี้ยไหวไหม

เขามีแต่ว่าถ้าตายไปแล้วผลประโยชน์จะให้ใครแล้วจะได้เท่าไหร่แต่คุณกลับคิดว่าถ้าตายแล้วจะได้ผลประโยชน์ไหม ตายแล้วจะได้ใช้เงินหรอคะ?? อิอิ (ล้อเล่นนะคะ) ก็ในตารางกรมธรรม์เขาก็จะมีแจ้งไว้นี่คะว่าถ้าเราจ่ายเบี้ยมาแล้วกี่ปี เสียชีวิตไปก็จะได้รับเงินจำนวนเท่าไหร่ บริษัทประกันเขาไม่ได้มีการแจ้งหรอคะ?? ลองสอบถามตัวแทนดูดีกว่านะคะ

เพิ่มเติมให้จขกทอีกนิดนะคะว่า ประกันตัวนี้จะมีผลประโยชน์บอกว่า ถ้าเสียชีวิตในช่วงจ่ายเบี้ยมาแล้วกี่ปีๆจะได้ค่าเบี้ยเท่าไหร่ด้วย ในกรณีที่เราอยู่ไม่ครบสัญญา ตรงนี้อยากให้จขกทลองเช็คกับทางตัวแทนดูด้วยนะคะ เพราะเราไม่รู้ข้อมูลว่าคุณแม่ของจขกทได้ชำระเบี้ยมาแล้วประมาณกี่ปี ... เป็นกำลังใจให้จขกทนะคะ สู้ๆค่ะ

มีหลายวิธีเลยครับจขกท อย่างที่ความเห็นด้านบนได้ตอบไปแล้วก็จะมีเวนคืนกรมธรรม์ ( ขอให้เป็นทางเลือกท้ายสุดนะครับ แบบคิดว่าไม่ไหวเเล้วจริงๆค่อยเลือกวิธีนี้ ) เพราะว่ามันจะค่อนข้างขาดทุนมากครับ ผมแนะนำแบบขยายเวลาทุนประกันหรือการขอลดความคุ้มครองลงแทนนะครับ เพราะถ้าเราขอลดความคุ้มครองเบี้ยที่จะต้องจ่ายมันจะถูกลงครับ

@K. สิทธิโชค เราอาจจะเห็นต่างจากคุณนะคะ เราคิดว่าถ้าจขกทไม่ไหวจริงๆที่จะหาเงินมาจ่ายเบี้ยก็ขอเวนคืนไปเลยก็ดีกว่าค่ะ เศรษฐกิจแบบนี้มันหาเงินยากนะคะเข้าใจได้ค่ะ อย่าทำอะไรที่ต้องเพิ่มภาระให้กับตัวเองมากขึ้นเลย ยิ่งประกันตัวนี้ต้องฝากถึง 20 ปีเลยกว่าจะได้เงินคืน นานมากนะ เอาเงินมาก่อนเถอะอย่างน้อยได้นิดหน่อยๆเอามาลงทุนทำอะไรให้เงินงอกเงยยังดีกว่านะคะ

จริงๆก็มีอีกหลายวิธีนะคะถ้าสมมุติว่าเราไม่สามารถที่จะจ่ายเบี้ยไหว นอกจากการขอลดความคุ้มครองแล้ว เรายังสามารถขอกู้กรมธรรม์ของเราได้ด้วยนะคะ แต่ว่าเราก็ต้องดูด้วยว่ามันจะช่วยลดภาระหรือช่วยเพิ่มภาระของเรามากขึ้น เพราะว่าการกู้กรมธรรม์ถึงแม้ว่าจะเป็นอะไรที่คนนิยมมากแต่ก็ต้องดูด้วยว่าดอกเบี้ยประมาณเท่าไหร่ อันนี้เราให้ไว้เผื่อเป็นทางเลือกนะคะ

เห็นด้วยเลยกับคุณวิทยากร ก่อนจะสมัครก็คิดดีๆก่อนดีกว่านะคะ ไม่อยากให้จขกทมองแค่ผลประโยชน์หรือความคุ้มครองที่จะได้รับเท่านั้น บางครั้งเราต้องมองเบี้ยที่เราจะต้องจ่ายไปด้วยนะคะว่าเราจะต้องจ่ายเท่าไร แล้วมันคุ้มค่ากับเงินที่เราจะได้คืนไหม เราแนะนำว่าให้คุณไปทำพวกประกันสุขภาพไว้ก็ดีค่ะแต่ไม่ใช่ของบริษัทนี้นะคะ ที่อื่นก็มีค่ะที่ราคาไม่สูงมาก

ถ้าจะยกเลิกก็ต้องมีค่าใช้จ่ายด้วยนะคะ เบี้ยที่จ่ายไปแล้วก็อาจจะไม่ได้คืน ตรงนี้ต้องทำใจนะคะ เพราะว่าการจะสมัครทำประกันต้องตรวจสอบแล้วก็อ่านเงื่อนไขความคุ้มครองให้ดีๆค่ะก่อนจะตัดสินใจ เพราะถ้าเราตัดสินใจไปแล้วเวลาจะไปเปลี่ยน มันมีเรื่องของเงินๆทองๆเข้ามาด้วยนะคะ ไม่ได้ทำได้ฟรีๆ อันนี้พลาดไปแล้วก็ถือว่าเป็นบทเรียนไปนะคะ

@ k. ณพประเสริฐ @k . ปานจิต สามารถที่จะทำได้นะคะ แต่ตรงนี้เราไม่แน่ใจว่าจะต้องจ่ายเบี้ยประกันมาสักระยะหนึ่งรึเปล่าถึงจะเปลี่ยนมาทำเป็นประกันแบบขยายระยะเวลาได้ ไม่ใช่ว่าจ่ายเบี้ยมาแค่ไม่กี่ปีแล้วอยู่ๆจะมาขอเปลี่ยนสัญญาตรงนี้อาจจะไม่ได้ค่ะ เขาจะมีการคำนวณเบี้ยเราและอาจจะลดความคุ้มครองลงเพื่อให้เท่ากับเบี้ยที่เราจ่ายไปแล้ว

ต้องลองชั่งใจดูนะคะว่า ตอนนี้เราเดือดร้อนเงินขนาดไหน??? เราเดือดร้อนมากถึงขนาดที่ว่าจ่ายเบี้ยไม่ไหวเลยไหม ก็ต้องดูว่าเราสามารถที่จะไม่ยกเลิกกรมธรรม์ได้ไหม การขอยกเลิกกรมธรรม์นี่จะทำให้คุณขาดทุนเอามากๆเลย เป็นไปได้ไหมที่คุณจะขอกู้กรมธรรม์หรือลดความคุ้มครองลงเพื่อแลกกับเบี้ยที่ต้องจ่ายน้อยลง แนะนำว่าให้ยกเลิกกรมธรรม์เป็นวิธีสุดท้ายนะคะ

ไม่ทราบว่าจขกทได้ทำไปนานหรือยังครับ ถ้าสมัครไปแล้วยังไม่เกิน 15 วันสามารถที่จะขอยกเลิกกรมธรรม์ได้เลยแต่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เเละอาจจะได้เงินไม่เต็มจำนวน (ขาดทุน) ทำตามที่คุณวรรณลัยก็ดีนะครับคือ ให้ผ่านไปก่อนสักปีสองปีค่อยเวนคืนกรมธรรม์ไปเลย อันนั้นยังได้รับเงินกลับมามากกว่าอีกนะครับ แต่อยากแนะนำจขกทว่าก่อนที่จะสมัครประกันอะไรก็ตามควรอ่านเงื่อนไขเเละความคุ้มครองก่อนสมัครด้วยนะครับ ไม่งั้นจะวุ่นวายทีหลัง

หลายคนมักจะเจอกับกรณีแบบนี้ คือไปทำแล้วก็ไม่ได้บอก แต่เราสามารถเช็คได้นะคะกับสำนักงานที่ชื่อว่าคปภ จขกทสามารถไปยื่นคำร้องได้ที่นั่น เอกสารที่เราจะแนบไปในใบขอยื่นคำร้องก็จะมีใบมรณะบัตร สำเนาทะเบียนบ้าน และบัตรประชาชนค่ะ เขาจะใช้เวลาในการตรวจสอบน่าจะประมาณ 2 อาทิตย์นะถ้าจำไม่ผิด ยังไงลองติดต่อที่นี่ดูนะคะ

คงต้องเป็นไปตาม ที่สัญญาระบุเอาแล้วละครับ เราไม่สามารถไปแก้ไขหรือว่าคัดค้านอะไรแล้วละครับ ตอนนี้ที่ทำได้อย่างเดียวคือคุยกับทางแม่เลี่้ยงครับ ว่าสามารถแบ่งเงินผลประโยชน์ของพ่อให้เราบ้างได้ไหมครับ ถ้าคุยกันดีๆ ผมว่าเขาน่าจะเห็นว่าเราเป็นลูก เขาน่าจะแบ่งให้บ้างนะครับ ว่าแต่พ่อคุณทำประกันชีวิตไว้กี่ฉบับครับเชคดีๆนะครับ