ฉันอายุ 45 ปี จำเป็นต้องเสียค่าเบี้ยประกันสำหรับประกันภัย Dual Care กรุงเทพประกันภัย มากแค่ไหนคะ

ต้องเสียใจด้วยนะครับที่ประกันเสริมตัวนี้เขาไม่ปล่อยให้ครับ อย่าว่าแต่เราเคยตรวจเจอโรค2อย่างนี้เลยครับ เขาเชคไปจนถึง พ่อกับแม่เราเลยครับ ว่าเคยมีโรคประจำตัวอย่างใดอย่างหนึ่งในสองอย่างนี้เลยนะครับ ถ้าปรากฏว่าพ่อหรือแม่เราเป็นนะครับ บอกได้เลยครับว่าจบเลยครับ ประกันตัวนี้เราไม่สามารถซื้อได้เลยครับ เพราะเขาคิดว่าเรามีความเสี่ยง

ทำได้คะ มีประกันหลายตัวคะที่คนต่างชาติสามารถซื้อได้คะ แต่ว่าคนต่างชาติต้องเป็นคนที่ทำงานในบ้านเราด้วยนะคะ ไม่ใช่แค่มาอยู่อย่างเดียวคะ หรือถ้าจะมาอยู่อย่างเดียวก็้ต้องมีเงินในบัญชีที่มากพอสมควรเลยคะ ยังแลวเพื่อความแน่นอน เราว่าคุณรองติดต่อไปที่ประกันเลยคะว่าสามารถทำได้ไหมแล้วถ้าทำได้ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างไหม เราว่าน่าได้คะ

ยาย อายุ 70แล้ว ยังสามารถใช้คอมหรือใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อหาความรู้แบบนี้ได้ หนูนับถือความสามารถของยายเลยคะ นี้ขนาดแม่หนูอายุน้อยกว่ายาย ยังกดรับไลน์ยังไม่เป็นเลยคะ เก่งๆจริงๆคะยาย ส่วนเรื่องประกันตัวนี้ที่ยายถาว่า70ปี ทำได้ไหม เสียใจด้วยจริงๆคะยาย ประกันตัวนี้ เขาคุ้มครองแค่อายุประมาณ 60ปีเท่านั้นเองคะยาย

ต้องเข้าใจนะครับ ว่าคนที่เป็นสองโรคนี้ ส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยเจอในกลุ่มคนอายุน้อยๆนะครับ ส่วนใหญ่แล้วจะเจอกับคนที่อายุมากๆแล้วทั้งนั้นนะครับ ดังนั้นเบี้ยประกันเขาเลยจะไปแพงในช่วงของคนอายุประมาณ 40ปีเป็นต้นไปครับ เพราะว่าคนอายุประมาณนี้เริ่ใจะเป็นความดันก่อนครับ แล้วหลังจากนั้นก็จะเป็นเบาหวานครับ ค่าเบี้ยประมาณ3พันกว่าบาทนะ ถ้าจำไม่ผิด

ใช่ๆเป็นประกันสุขภาพเสริมที่เข้ากับคนไทยมากเลยครับ คนไทยส่วนใหญ่ก็จะเป็นสองนี้แหละครับ แล้วแต่ละปีก็มีมากขึ้นเยอะด้วยนะครับ มันน่าจะมาจากอาหารที่เรากินนะครับ ดีเลยครับแบบนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกครับสำหรับคนที่มองหาการคุ้มครองแบบที่เจาะจงแบบนี้ครับ ผมเองเดียวจะไปคุยกับที่บ้านบ้าง เผื่อว่าจะมีคนสนใจบ้าง

@JK ก็ใช่ครับไม่เห็นจะยากตรงไหน ประกันตัวนี้ก็ถ้าตรวจพบว่าป่วยเป็นโรคความดันหรือเบาหวานชนิดที่ 2 ก็เตรียมรับเงินชดเชยได้เลยครับ เงื่อนไขก็ง่ายๆแค่นี้แหละ เงินชดเชยก็เราสามารถเอาไปจัดการเองได้ว่าอยากจะรักษาแบบไหน ก็สะดวกดีครับไม่ได้เป็นวงเงินคุ้มครองค่ารักษาแบบนั้น จริงๆประกันนี้ไม่เสี่ยงก็ทำได้อยู่นะ

เพิ่งอายุ 42 ปีเอง เจ้าของกระทู้มีปัญหาเรื่องสายตาและหูแล้วเหรอคะ เรื่องทำประกันชีวิตก็เรื่องนึงนะ ส่วนเรื่องการไปหาหมอเพื่อตรวจสุขภาพก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเราคิดว่าเจ้าของกระทู้ต้องรีบไปโดยด่วนค่ะ ตัวคุณเองเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกายแล้ว จริงๆก็ดีนะคะ คุณจะได้ไปพบคุณหมอเฉพาะทางได้เลย รีบไปนะคะ

ก็ต้องดูก่อนอะว่าที่คุณเข้าไปโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาล จากอาการปวดเข่า ปวดหลัง หรือปวดเอว อันเนื่องมาจากสาเหตุอะไร เกิดอุบัติเหตุมั้ยหรือว่าเป็นอาการจากทางร่างกายหรือโรคที่คุณมีอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้เข้ารับการรักษาเพราะเกิดอุบัติเหตุ ต่อให้คุณมีประกันอุบัติเหตุ บริษัทประกันเขาไม่จ่ายค่าสินไหมหรือค่ารักษาให้หรอกค่ะ

"เกิดอุบัติเหตุจนแท้งลูกได้รับเงินไหม?" เจ้าของกระทู้ก็ต้องไปดูรายละเอียดเรื่องความคุ้มครองของประกันสุขภาพแอกซ่า สมาร์ทแคร์ ออพติมั่ม พลัส ว่ามีบริการสำหรับเงินชดเชยหรือเงินค่าดูแลในส่วนนี้หรือเปล่า ถามจากตัวแทนประกันก็ได้ รายละเอียดเรื่องความคุ้มครองต้องคุยกับเจ้าหน้าที่นะคะ เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนน่ะ

อ่านดูคอมเมนต์คร่าวๆ สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพวงเงินแน่นอน เมืองไทยประกันชีวิต น่าจะมีค่าเบี้ยประกันแพงอยู่นะคะ โดยรวมของการซื้อประกันทั้งหมดของเจ้าของกระทู้แล้วคงจะต้องจ่ายเงินหลายบาทแน่เลย หากเทียบกับความคุ้มครองทั้งหมดที่จะได้รับแล้ว ผู้ถือกรมธรรม์รับได้และจ่ายค่าเบี้ยประกันไหวก็ถือว่าดีมากค่ะ คุ้มครองเยอะดี

ตกลงว่าการกู้เงินจากกรมธรรม์ไทยประกันชีวิต คุ้มธนกิจ 99 (1) [99]/20 แผนที่ 4 ต้องเสียดอกเบี้ยเท่าไหร่ครับ เห็นคอมเมนต์นึงพูดถึงการกู้เงินด้วยวิธีนี้ว่าน่าจะต้องจ่ายดอกเบี้ยประมาณ 5% ถ้าต้องจ่ายประมาณนี้จริงๆ ถือว่าเป็นอัตราที่สูงมั้ยครับ แล้วของบริษัทประกันชีวิตอื่นเขาคิดอัตราดอกเบี้ยเดียวกันหรือเปล่าครับ

เรื่องการลงชื่อผูรับผลประโยชน์จากเงินกรมธรรม์ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยนะครับ เมื่อก่อนผมคิดว่า ใส่ชื่อคนที่บ้านน่ะแหละ คนในครอบครัวน่ะ ใครก็ได้ แต่ถ้าผู้รับผลประโยชน์เป็นลูกของผู้ถือกรมธรรม์เอง ต้องคิดเยอะกว่านั้นมากจริงๆ ยิ่งลูกอายุยังน้อย ยิ่งต้องคิดว่าจะทำยังไงให้ลูกได้ใช้เงินจากประกันชีวิตของเรา ไม่ใช่คนอื่นเอาไปใช้