เมืองไทย สมาร์ท โพรเทคชั่น

เอาง่ายๆเลย ถ้าอยากหาประกันชีวิตที่เข้ากับที่เราต้องการต้องดูที่ชื่อเต็มๆของเขาว่า ต่อท้ายของประกันของเขาเป็นแบบไหน เขาจะมีบอกว่า ปันผล ออมทรัพย์ อะไรแบบนี้ ประกันที่เป็นแบบปันผลน่าสนใจนะครับ เพราะเป็นเหมือนการลงทุนที่ยังไงก็ได้กำไร 100% แน่นอนครับ ไม่ต้องกลัวว่าเงินลงทุนของเราหายไปไหน ถึงแม้จะได้กำไรน้อยแต่ก็โอนะ

@Deep sea ก็ไม่ได้ตอบยากเลยนะคะ ถ้าเป็นประกันชีวิตถ้าทำแล้วก็คุ้มครองชีวิตทันที ต่อให้คุณยังจ่ายเบี้ยประกันไม่ครบกำหนด แต่ถ้าเกิดเสียชีวิตก่อน ครอบครัวก็รับเงินชดเชยได้เลยค่ะ 100 เปอร์เซ็นต์ของเงินเอาประกันหรือตามเงื่อนไขกำหนด ก็เข้าใจง่ายๆอย่างนี้นะคะสำหรับประกันชีวิตไม่ว่าจะแบบแผนไหนก็ตาม โดยเฉพาะประกันชีวิตที่เป็นแบบตลอดชีพแบบนี้

@หมอก ไม่ค่อยเข้าใจเลยอ่ะ ทำไมแค่การจ่ายเบี้ยประกันไม่ไหวมันถึงเป็นเรื่องที่เร่งด่วนอะไรขนาดนั้น ผมว่าเราไม่ได้เป็นหนี้บริษัทประกันนะครับ เราเป็นลูกค้า บริษัทประกันน่าจะพยายามช่วยลูกค้าให้มากที่สุดอยู่แล้ว ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ตามผมว่ามันมีวิธีนะ จ่ายเบี้ยไม่ไหวไม่ได้จะเดือดร้อนขนาดนั้นมันมีปรับเปลี่ยนได้แทนที่จะยกเลิกหรือเวนคืน

สรุปว่า จขกท คงอยากรู้เกี่ยวกับการซื้อสัญญาเพิ่มเติมนั่นแหละ มันก็แล้วแต่นะอันนี้ก็บอกยาก ต้องขึ้นอยู่กับว่าสัญญาเพิ่มเติมแบบแผนนั้น จะให้เราสามารถซื้อหรือต่อสัญญาได้จนถึงอายุเท่าไหร่ ซึ่งแต่ละแบบแผนก็ไม่เท่ากัน แล้วระยะเวลาที่จะต่อสัญญา ก็ไม่เกี่ยวกับประกันหลักด้วย นอกเสียจากว่าบางครั้งประกันหลักกับสัญญาเพิ่มเติมนั้นมาเป็นแพ็คคู่ แบบนั้นก็อาจจะมีระยะเวลาเท่าๆกันค่ะ

ผมเป็นคนไม่ชอบทำประกันตามใครนะทก็เลยจะบอกคุณว่าถ้าเป็นผม ผมไม่ทำ คือชอบเลือกเอง หาข้อมูลเองมากกว่า เพราะผมคิดว่าประกันแต่ละตัวมันไม่ได้เหมาะกับทุกคนไง มันมีเงื่อนไขที่เหมาะกับสถานการณ์ของแต่ละคน ก็เลยจะไม่ค่อยทำตามใคร นอกจากว่าเออ อ่านแล้วใช่ เงื่อนไขโดน อันนี้ก็ ok ไม่ใช่ว่าใครมาแนะนำแล้วไม่ฟังนะ ฟังอยู่

@จขกท. คุ้มนะ ว่าแต่คุณจะเลือกทำแบบแผนไกนล่ะ? 80/10 หรือว่า 99/20? ถ้าเป็นแบบแผนแรกไม่ต้องเวนคืนหรอกเดี๋ยวอายุ 80 ก็ได้เงินคืนแล้ว แต่ถ้าเป๋นแบบแผนที่สอง ขอแนะนำให้เวนคทนตอนอายุ 70-80 ปีกำลังดี เงินคืนไม่ได้ 100% แต่ก็ได้มากพอสมควร มากพอไว้ใช้จ่ายยามเกษียณ และยังใช้จ่ายตอนเสียชีวิตได้อีก ก็อยู่ทร่ว่าจะใช้เงินก้อนสุดท้ายไปกับเรื่องอะไร

@เมฆหมอก ถ้าเป็นเราก็เลือกแบบแผน 80/10 เพราะเรามีโอกาสได้ใช้เงินก้อนสุดท้ายของชีวิตด้วยตอนสิ้นสุดสัญญ่ตอนอายุ 80 ปล.ถ้าอยู่ถึงอ่านะ แต่ถ้าอยู่ไม่ถึงก็แล้วไป ครอบครัวก็ได้ผลประโยชน์ไปตามระเบียบ เพราะถ้าเป็นแบบแผน 99/20 เราคิดว่าเราต้องได้เวนคืนแน่ๆตอนอายุ 80 เพราะอยากได้เงินก้อนสุดท้าย นี่คือเหตุผลของเราค่ะ

@กวางน้อย ไม่ได้จะหาเรื่องนะคะ แต่ทำไมเราเห็นต่างจากคุณอีกแล้วเนี่ย เรามองว่าการเลื่อนการจ่ายเบี้ยประกันมาเป็นรายเดือนจะทำให้ลำบากมากขึ้นไปอีกง่ะ เพราะต้องจ่ายเร็วขึ้นไปอีก แลเวค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนของคนเรามันก็มากมายอยู่แล้ว ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าเช้าบ้าน (ถ้ามี) หนี้สิน (ถ้ามี) ค่าอาหารการกิน เยอะแยะ จ่ายรายปีดีกว่าอีก

@กวางน้อย ไม่นะ เราเห็นต่างนะ ถ้าพ่อแม่มีเงินทำได้ทำเลยค่ะ ถ้าอายุมากจนอยู่ในวัยเกษียณก็เลือกได้ว่าจะเวนคืนรึป่าว หรือให้คุ้มครองต่อไป แต่ยังไงๆก็อุ่นใจกว่าเพราะคุ้มครองไปตลอดชีวิต แล้วจขกท.ก็บอกว่าซื้อสัญญาเพิ่มเติมด้วย คงเกี่ยวกับสุขภาพแน่นอน ก็ถือว่าเค้าเตรียมอนาคตที่ดีให้ลูกของเค้านะ น่าชื่นชม น่าอิจฉาหน่อยๆ

ก็ไม่รู้จะบอกยังไงนะ ก็เหมาะสมอยู่ ประกันนี้กับคนวัย 50 ก็ขึ้นอยู่กับว่าทำไว้เพื่ออะไร เพื่ออยากให้แม่มีความคุ้มครองเป็นอะไรไปเราได้ผลประโยชน์ หรืออยากให้แม่มีเงินใช้ตอนอายุมาก สิ้นสุดสัญญาได้เงินก้อน ถ้าเป็นเหตุผลแรกทำเลยครับ ถ้าเป็นเหตุผลที่สองควรเลือกแบบแผนอื่น ก็อะไรประมาณนี้นะ สองเหตุผลที่ผมใช้ในการเลือกซื้อประกันชีวิต

ก็ทำได้เหมือนที่ Comment อื่นบอกไปแล้ว อต่ผมอยากบอกให้รู้ก่อนเรื่องนึง เผื่อว่ายังไม่รู้ คือ ทำประกันนี้ตอนอายุมากแล้ว เบี้ยประกันจะแพงกว่าทำตอนอายุน้อยนะครับ รู้ไว้ซะด้วย ว่าเป็นแบบนี้ นอกจากว่าคุณจะไปเลือกแบบแผนประกันที่เบี้ยคงที่ แบบนั้นจะไม่แพง เบี้ยไม่ปรับตามอายุ หรือทำประกันสำหรับผู้สูงอายุไปเลยก็ดี @หมูตุ๋น เหมือนคุณเค้าแนะนำมา

อ้าว เซ็งเลย แบบนั้น ไม่น่าเลยนะครับ เป็นบทเรียนเลย ทำประกันไม่ศึกษา ไม่เปรียบเทียบก็จะออกมาแนวนี้แหละนะ แล้วยังไงหล่ะทีนี้ หวังว่ายังทันเวลา 15 วันนะ เพราะถ้าไม่ทันก็คือ ทำใจ คราวนี้จะเวนคืน หรือ ยกเลิกตอนไหนก็ขาดทุนอยู่ดี แล้วคุณแน่ใจแล้วนะว่าประกันขเจ้าใหม่ที่จะทำอะดีจริง ใช่จริงๆ เปรียบเทียบดีๆนะ เดี๋ยวจบแบบเดิม

@มะม่วงน้อย มันก็น่าเสียดายนั่นแหละ แต่ทำไงได้หล่ะ สถานการณ์มันบังคับอะเนาะ จ่ายเบี้ยอีก 6 ปี ไม่ใช่แป้ปๆเลยนะคะ นานอยู่เหมือนกัน คุณอาจจะไม่ได้ไปรู้ปัญหาของเค้าตอนนี้ก็พูดได้ @จขกท. ก็เหมือนกันเนาะ รู้ว่าคุณเสียดาย แต่พี่สาวคุณอาจจะไม่ไหวจริงๆก็ได้ ถ้าคุณช่วยจ่ายได้ก็ช่วยสิ จะได้ไม่เสียดาย เอาปะหล่ะ?

ความจริงมันเป็นอย่างนั้นเลยค่ะ @Tomyum เค้าจะมีมาถามว่าเคยมีประวัติเจ็บป่วยอะไรบ้างมั้ย? ป่วยอะไร? รักษาที่ไหน? หายนานรึยัง? อะไรประมาณนี้เลย ถ้าเรายังไม่เคยป่วยก็อาจจะไม่มีอะไรมากไม่ต้องตรวจสุขภาพ แต่ถ้าเคยป่วยมาแล้วแต่หายแล้วก็อาจจะถูกขอให้ตรวจสุขภาพเพื่อความแน่ใจได้เหมือนกัน หรือบางเจ้าอาจจะขอยกเว้นความคุ้มครองไปเลยสำหรับโรคที่เราเคยเป็น

@เวนดี้ จ่ายเบี้ยปีละ 3,200 ถือว่าไม่แพงเลยนะคะ ตกเดือนละไม่ถึง 300 บาทค่ะ เศรษฐกิจไม่ดีตอนนี้ก็ทำได้ค่ะ ถ้ายังคงมีรายได้อยู่บ้าง แต่คนที่ไม่มีรายได้เลยก็น่าเห็นใจจริงๆ ก็เหมือนที่คุณบอกว่าแล้วแต่สภาพการณ์ของแต่ละคนไปค่ะ เพราะดิฉันเองจ่ายเบี้ยประกันชีวิตปีละ 10,000 บาทก็ยังไหวอยู่ค่ะ แต่ไม่ใช่แบบแผนนี้นะ แค่เล่าให้ฟังค่ะ

@กล้วยไข่ คิดว่าคุณกล้วยน่าจะเป็นเจ้าของกะทู้นะคะ ก็เวนคืนได้อย่างที่คุณ @Foxy เค้าบอกมาแล้ว แต่ที่คุณกล้วยอยากเวนคืนตอนอายุ 60 อะ อยากแนะนำให้เลื่อนไปอีกหน่อยดีกว่านะคะ แบบอีกสัก 10 - 20 ปี แบบตอนที่อายุ 70 หรือ 80 ปี จะดีกว่า เพราะตอนนั้นเราจะมั่นใจมากกว่าว่าเราอายุยืนจริงๆ แล้วค่อยเอาเงินออกมาใช้

ก็เป็นเรื่องที่ดีนะครับ ที่จะซื้อประกันให้ลูก เขาว่าคนที่ได้รับผลประโยชน์ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่เองถ้าเกิดว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น แต่คนเป็นพ่อเป็นแม่ใจจริงคงไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นกับลูกหรอก แต่ถ้ามันเกิดขึ้นมาจริงๆ คุณก็จะได้รับเงินชดเชย ลูกของคุณอายุ 25 น่าจะอยู่ในวัยกำลังทำงาน อาจจะเลี้ยงดูพ่อแม่อยู่บ้างถ้าเขาเป็นอะไรขึ้นมาคุณเองก็จะได้ไม่เดือดร้อน

เป็นความคิดที่ดีเป็นการวางแผนที่ดีเลยนะครับ @กระติ้บ มันก็แล้วแต่แผนการของแต่ละคนนะครับ อย่างของจขกทเนี่ยเขาอาจจะอยากได้เงินเอาไว้ใช้ในยามเกษียณหรือช่วงบั้นปลายชีวิตการเวนคืนหรือยกเลิกตอนอายุ 70 ก็จะได้เงินคืนมาบ้างสักก้อนหนึ่ง แต่ถ้าไม่เวนคืนนี้คนที่ได้รับผลประโยชน์ก็จะเป็นคนในครอบครัวคนข้างหลังเท่านั้น

อิจฉาคนมีเงินเยอะจังเลยนะครับตอนนี้ เพราะว่าตอนนี้เงินของผมเนี่ย พูดประโยคนี้ได้เลยว่ากระเป๋าแบนแฟนทิ้ง เดี๋ยวจะบอกว่ากรอบตัวเบามากเลยก็ได้ครับ การทำประกันยิ่งไม่ต้องพูดถึง แล้วยิ่งถ้าเป็นประกันชีวิต บอกเลยว่าทำได้ยากจริงๆช่วงนี้ แต่จขกทคงจะเป็นคนมีฐานะหรือมีรายได้มากอยู่เหมือนกันนะ เห็นบอกว่าจ่ายเบี้ยหลักหมื่น เท่านั้นเท่านี้ก็โอเคสบายๆ

@เชอรี่ เป็นตามแบบนั้นเลยค่ะ ก็คือที่คุณพูดมาถูกหมดเลยที่จริงถ้าอยากได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีมีวิธีอื่นอีกเยอะนะ ไม่จำเป็นว่าจะต้องซื้อประกันชีวิตก็ได้ โดยเฉพาะประกันชีวิตแบบแผนนี้ ก็คือว่าถ้าจะซื้อเนี่ยต้องใช้เหตุผลอื่นร่วมด้วยมากๆเลยนะจะซื้อเพราะว่าอยากได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีอย่างเดียวก็ลองใช้วิธีอื่นดีกว่า