บัตรกดเงินสด KTC PROUD ให้วงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้ ซึ่งทุกคนไม่เท่ากัน ใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาบ้าง?

ดีนะ ทีทมีบัตรเครดิตที่รายได้ประมาณนี้ก็สามารถทำได้แล้ว แต่อยากทราบเพิมได้ไหม เวลาที่เราไปขอทำบัตรเครดิตตัวนี้ ถ้าเรามีกิจการเป็นของเราเอง เราต้องมีเอกสารการจดทะเบียนกิจการของเราไปด้วยไหม เพราะบัตรเครดิตของหลายๆเจ้าก็จะขอเอกสารตัวนี้ด้วย เพราะถ้าเขาขอแบบเดียวกันคิดว่าเราเองไม่สามารถขอบัตรตัวนี้ได้แน่ๆเลย

บัตรกดเงินสดน่าจะเหมาะเอาไว้เวลาที่จะผ่อนซื้อสิ้นค่ามากกว่าครับ เพราะส่วนใหญ่แล้วบัตรกดเงินสดน่าจะผ่อนได้ประมาณ 48เดือน แบบไม่มีดอกเบี้ยครับ ส่วนตัวผมชอบบัตรกดเงินสดมากกว่าครับ เพราะบ้างครั้งต้องการเงินแบบฉุกเฉิน ก็กดเงินออกมาได้ แต่ถ้ากดจากบัตรเครดิต ก็กดได้แต่มันต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นนะครับเลยไม่ชอบ

ได้เงินจากค่าแนะนำมา 500 บาท แต่เพื่อนต้องมาเป็นหนี้บัตรเครดิตกับเราด้วย แต่คิดๆไปก็ดีเหมือนกันนะ เป็นการสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง น่าสนใจครับพี่ @ ธีรศักดิ์ เรามารวมตัวกันเปิดบัตรเครดิตตัวนี้สัก10คนได้เงินใช้คนละ500บาท แบบนี้ก็พอได้ค่าขนมบ้างนะครับแถมบัตรได้มาก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้ใช้งานยังไงช่วงนี้ต้องใช้แน่นอน

ถ้าของใครต้องรอนานประมาณ 2อาทิตย์แบบกับพี่ที่ถามคิดว่า การขอของคุณน่าจะมีปัญหาอะไรบางอย่างแล้วละครับ เพราะปกติไม่น่าจะนานขนาดนี้ครับ เอาว่าถ้าเพื่อนๆคนไหนที่สมัครพวกนนี้นะครับ กันเอาไว้ก่อนดีกว่าอาจจะขอสักสองเจ้าพร้อมๆกันก็ได้ครับ จะได้ไม่ต้องกังวลมากนัก ถ้าเจ้ากนึ่งไม่ได้ก็ยังมีหวังอีกกับเจ้าที่เหลือ

ถ้าเจอดอกเบี้ยที่เขาลดต้นลดอกแบบนี้ เอาเลยครับไม่ต้องไปรออะไรแล้ว ยืนๆเรื่องขอสินเชื่อไปก่อนเลย ลุ้นที่หลังว่าจะได้ไหม ถ้ามันได้ขึ้นมาก็สบายเลยครับ ช่วงโควิดแบบนี้ด้วย ได้มา มีเท่าไรก็จ่ายไปก่อน มีเยอะจ่ายเยอะดอกเบี้ยก็น้อยลง แบบนี้ไม่ต้องกลัวว่าดอกเบี้ยจะเยอะกว่าเงินต้นแล้ว หายากนะที่จะมีแบบนี้ อยากทำด้วยจัง

วงเงินที่เขาจะให้เรามันมีหลายอย่างที่เขาต้องดูนะครับ อย่างถ้าเราเงินเดือนที่ 50,000 บาทเลย อาจจะไ้ดไม่ถึง 5เท่าของรายได้ก็ได้นะเพราะว่าทางธนาคารเขาต้องดูว่าเรามีภาระหนี้สินอะไรแล้วก็เท่าไรด้วย ยิ่งถ้าเรามีภาระหนี้สินมากๆ วงเงินเราก็จะได้น้อยตามไปด้วย บางคนแย่ไปกว่าอีก อาจจะไม่ได้รับอนุมัติใช้งานด้วยก็มี

แหล่งเงินกู้เพื่อการศึกษามีมากขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ไม่คิดว่าจะมีสินเชื่อเพื่อให้คนที่อยากเรียนนำไปใช้มากขนาดนี้เลย ธนาคารหรือสถาบันการเงินเขาออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงินมาดีนะคะ มีให้เลือกได้หลากหลาย น่าจะขึ้นอยู่กับงาน ฐานเงินเดือน และทรัพย์สินที่มีอยู่ของผู้กู้ด้วย มีประมาณไหนก็เลือกไปขอสินเชื่อของที่นั่นเอา

การจ่ายเงินขั้นต่ำของบัตรกดเงินสดก็จะประมาณเดียวกันกับ บัตรกดเงินสด K-Express Cash นะครับ คือ ให้ชำระขั้นต่ำ 5% ซึ่งไม่น้อยกว่า 500 บาท ถ้าจ่ายขั้นต่ำเมื่อไหร่ แสดงว่าผู้ถือบัตรเริ่มมีปัญหาเล็กน้อยกับสภาพคล่องทางการเงินของตัวเอง หากยังมีการจ่ายเพียงขั้นต่ำในเดือนถัดไปอีก อันนี้เป็นสัญญาณอันตรายแล้วล่ะครับ

จัดการเรื่องที่ดินกับเรื่องบ้านไปถึงไหนแล้วคะ ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดีก็ยินดีด้วย เดี๋ยวนี้เรื่องเงินๆทองๆมันจะค่อนข้างยุ่งยากหน่อย แต่คนเราก็ยังต้องดำเนินชีวิตกันต่อไป มีช่องทางไหนหรือวิธีการใดที่จะทำให้ตัวเองและครอบครัวอยู่รอดต่อไปได้ มันก็ต้องลองทำดูอะเนอะ เจ้าของกระทู้มีช่องทางอะไรดีๆก็เข้ามาแนะนำกันได้นะคะ

เจ้าของกระทู้บอกว่า "เป็นคนหนึ่งที่มีทรัพย์สินอยู่บ้าง" พอมาอ่านคอมเมนต์ต่างๆแล้ว คุณ "เป็นคนหนึ่งที่มีทรัพย์สินอยู่บ้าง" หรือว่า "เป็นคนหนึ่งที่มีทั้งทรัพย์สินและสินทรัพย์" คะ? ดีแล้วล่ะค่ะที่เข้ามาถาม คุณจะได้รู้ว่าทรัพย์ที่คุณมีอยู่มันคืออะไร จะได้จัดการถูก ทีทรัพย์บ้างมันก็ดีนะคะ เวลาเดือดร้อนยังมีเงินสำรองของตัวเองอยู่

ถ้าได้ใบแจ้งหนี้ของบัตรกดเงินสด K-Express Cash มาแล้ว ถึงวันที่ต้องชำระเงินแต่ว่าเรายังไม่ได้จ่าย หลังจากนั้นไปจะถูกคิดเงินค่าธรรมเนียมหรือมีค่าดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอีกเยอะมั้ย พอพูดถึงบัตรกดเงินสด รู้สึกว่าเรื่องดอกเบี้ยเป็นเรื่องที่น่าห่วงที่สุด จ่ายเงินที่เราใช้ไปก็ว่าเยอะแล้ว ต้องเตรียมเงินสำหรับค่าดอกเบี้ยอีกด้วย

เรื่องรถนี่เรื่องใหญ่เหมือนกันนะครับ ขาดส่งขึ้นมาเริ่มใจไม่ดีแล้วล่ะว่าจะถูกยึดรถหรือเปล่า หวังว่าเจ้าขอวกระทุ้จะไม่ถูกยึดรถนะ พยายามจัดการเรื่องเงินให้ดี หาทางออกเผื่อไว้ด้วย เผื่อเดือนไหนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นมาจะได้มีเงินสำรองเอาไว้จ่ายค่างวดรถครับ อดทนกันไปสักพัก เดี๋ยวก็จ่ายเงินหมดกันแล้วล่ะครับ